บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5: ลูกค้า

"เจ็บไหม?" ปริ๊นเซสตะโกนใส่หน้าลูกค้าหนุ่มที่อายุอ่อนที่สุดตั้งแต่เธอเปิดร้านมา หลังจากเอาเทียนเย็นเทใส่หน้าอก มัดลูกบอลแฝดของเขาด้วยเชือกจนเกือบกลายเป็นสีม่วง และใช้แส้ม้าตีจุกนมเขาไปสิบกว่าที สลับกับฟาดไม้เรียวนับรอยไม่ถ้วนไปทั่วหน้าท้องและแผงอกของเขา

"เจ็บครับ" เวย์น เด็กหนุ่มอายุ 19 ปี เรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 3 ถูกขึงอยู่บนแผ่นไม้รูปตัว X ทั้งสองมือ เธอนึกว่าตอนเขาถูกไม้เรียวครั้งแรกเขาจะเข็ดขยาดไป แต่ปรากฏว่าตั้งแต่วันนั้น เวย์นก็กลายเป็นลูกค้าประจำของร้าน Triskele ไปโดยปริยาย แถมวันนี้ยังขอร้องให้เธอผูกเขากับไม้ X อีก

เริ่มกล้ามากขึ้นทุกที!

"เจ็บแล้วพูดว่าไง" หญิงสาวตวาดอีกครั้ง

"ขอบคุณครับนายหญิง" เขารีบตอบ

"You're welcome!" ปริ๊นเซสตอบน้ำเสียงพอใจในผลงานของเธอเมื่อเห็นแววตาของเวย์นเริ่มเบลอ ๆ จากอาการของคนเริ่มซึมซาบฮอร์โมนโดพามีนเข้าเต็มสมอง

เธอปล่อยให้เขาห้อยอยู่กับไม้ระยะหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่เป็นอันตรายอะไร หลังจากนั้นเธอก็เดินไปยกหน้าเขาขึ้นดู สีหน้าของเด็กหนุ่มดูอ่อนโรยเหมือนตอนแดนจับเส้นเธอหลังจากที่เธอบ่นกับเขาว่าเธอปวดหลัง

หญิงสาวกำลังคิดว่าจะเปลี่ยนสโลแกนเป็น "เจ็บครับ...ขอบคุณครับ!" อยู่ สั้น ๆ ดี เพราะพอจบชั่วโมงของการทรมานลูกค้าแล้วคำสั้น ๆ ที่เธอต้องการฟังจากลูกค้าของเธอก็คือคำนี้นั่นเอง

"วันแรกที่ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่ปกติก็คือวันที่ผมฝันเห็นแม่มดหน้าตาสวยงามลอยลงมาจากฟ้าและพาไปผมเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยผู้หญิงที่ถูกมัดอยู่บนเตียงเหล็กและเมื่อเธอขึงผมรวมกับผู้หญิงเหล่านั้น แล้วแม่มดอีกกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาทรมานผม จนผมสะดุ้งตื่น...”

“…ที่น่าแปลกคือแทนที่ผมจะกลัวผมกลับรู้สึกตื่นต้นอย่างประหลาด ตอนแรกผมนึกว่าตัวเองเป็นโรควิปลาสไปแล้วผมจึงพยายามใช้พลังงานหมกมุ่นทำอย่างอื่น เล่นกีฬา เรียน แต่ความรู้สึกนั้นก็ไม่ได้หายไปไหน ยิ่งผมเรียนหนักเท่าไร ผมก็ยิ่งเครียดขึ้นมากเท่านั้นจนกระทั่งผมได้รู้จักร้านนี้" เวย์นคุยให้ปริ๊นเซสฟังหลังจากเสร็จการบำบัดครั้งแรก ๆ สีหน้าของเขาในวันนั้นดูรื่นเริงเป็นพิเศษราวกับเขาได้ค้นพบตัวเองในที่สุด

ปริ๊นเซสเรียกชั่วโมงบริการของเธอว่า 'บำบัด' เพราะเธอรู้สึกว่านั่นคืองานของเธอจริง ๆ บำบัดจิตให้กับลูกค้าของเธอ ลูกค้าหลายคนที่เดินเข้ามาในร้านโดยไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเองบ้าง จนหลังการบำบัดแล้วหลายคนเดินออกไปอย่างสมหวังว่าในที่สุดพวกเขาเจอสถานที่คลายความเครียด ความกังวลใจจากโลกแห่งความจริงภายนอกอย่างถูกวิธี

ไม่ใช่ว่าบำบัดทางจิตจะต้องใช้ยาเสมอไป ยังมีวิธีรักษาโรคหลายวิธีที่อาจจะไม่เข้าข่ายถูกต้องนักในสายตาของคนโลกสวย แต่กลับใช้ได้ผมดียิ่งกว่าวิธีอื่น ๆ ที่เก็บเงินค่ารักษาราคาแพงรากเลือด และนี่คือสาเหตุที่ปริ๊นเซสรักวิชาชีพของเธอ

หากในขณะเดียวกัน เหมือนนักบำบัดรักษาโรคทั่วไป เธอเองก็ต้องหาวิธีระบายอารมณ์ของเธอด้วยเช่นกันและเมื่อแดนเข้ามาอยู่ในโลกของเธอ ชายหนุ่มก็พิสูจน์ให้เห็นว่า เธอสามารถสื่อสารกับเขาได้อย่างเปิดเผยและจริงใจ เธอกับเขาจึงกลายเป็นเพื่อนร่วมโลกที่ผูกพันกันยิ่งกว่าเพื่อนหรือแม้แต่สามีภรรยา

นอกเหนือจากแดน เพื่อนอีกคนหนึ่งที่ปริ๊นเซสสนิทด้วยก็คือกนกเจ้าของร้านขายหนังสือเก่าที่อยู่ในตึกเดียวกันกับร้านของเธอ

"ฮัลโหล...เจ้าหญิง" เสียงทักทายหวานหูดังมาก่อนตัว กนกเป็นคนสองบุคลิกแต่ไม่ใช่สองบุคลิกแบบคนเป็นโรคหลายอัตลักษณ์ เขาแค่เป็นผู้ชายที่ชอบแต่งตัวเป็นผู้หญิงและแสดงท่าทางเป็นผู้หญิงจริง ๆ หากบางครั้งเขาก็จะเดินสบถเข้ามาด้วยเสียงผู้ชายแท้ ๆ เวลาที่เขาอยากต่อยหน้าลูกค้าบางคน

เพราะฉะนั้นปริ๊นเซสจะรู้ได้ว่าอารมณ์ของกนกดีหรือไม่ดีได้ด้วยการฟังเสียงพูดของเขา ยิ่งเสียงของเขาสูงมากเท่าไร ก็แสดงว่าเขายิ่งมีความสุขมากเท่านั้น

"มีอะไรดี ๆ เหรอวันนี้" เธอถาม หลังจากสังเกตเห็นสีหน้าของกนกร่าเริงเป็นพิเศษ

"มีคนมาเหมาหนังสือชุดสามก๊กไปทั้งชั้นเลย หนังสือเก่าเล่มเท่าบ้าน ตอนนี้กลายเป็นของสะสมไปแล้ว" กนกตอบเธอเพิ่มสีสันให้กับคำพูดจนดูเกินจริงตามปกตินิสัยของเขา

"หนูชอบหนังสือเล่มนั้น" ปริ๊นเซสส่งเสียงร้องอย่างเสียดาย นึกถึงหน้าตาของหนังสือเล่มโต ขนาดใหญ่กว่าหน้ากระดาษ A4 ไม่เหมือนสามก๊กฉบับหลัง ๆ ที่เริ่มทำให้เล่มเล็กลงมากขึ้น

"ก็แล้วทำไมไม่ซื้อไปล่ะยะ ปล่อยทิ้งไว้ที่ร้าน คนอื่นเขาก็ขนซื้อไปหมด" กนกแหวกลับ

"ก็ไม่คิดว่าจะมีใครซื้อนี่นา เก็บไว้ที่ร้านเจ๊ หนูจะได้ไปหยิบอ่านได้" หญิงสาวโอดครวญเหมือนเป็นความผิดของกนกที่ขายหนังสือของตัวเองออกไป

"ช่วยไม่ได้ สมน้ำหน้า" เจ้าของร้านหนังสือยักไหล่แล้ววางหนังสือการ์ตูนตินตินผจญภัยที่ปริ๊นเซสบ่นว่าอยากอ่านนักหนาลงตรงหน้า "นี่...มาใหม่อีกสองเล่ม ชอบไม่ใช่เหรอ"

"อุ๊ย...อันนี้ก็ชอบ เอา...เดี๋ยวซื้อก็ได้เล่มนี้" ปริ๊นเซสหยิบหนังสือการ์ตูนโปรดที่เขียนโดนนักเขียนชาวเบลเยียม จอร์จ เรมี ขึ้นมาดูอย่างตื่นเต้น บิดาของเธอเป็นคนแนะนำให้เธออ่านตอนเธอเด็ก ๆ เพราะเป็นการ์ตูนที่วาดได้สวยงามกล่าวถึงการผจญภัยรอบโลกของนักข่าวที่ชื่อว่าตินติน ดังนั้นทุกครั้งที่เธออ่านการ์ตูนเรื่องนี้เธอมักจะนึกถึงบิดาของเธอ

"ไม่ต้องหรอก ให้" กนกบอก

"ไม่เอา ของซื้อของขาย หนูไม่เอาฟรีหรอก" ปริ๊นเซสหยิบเงินจากลิ้นชักให้กนก

"ก็ฉันบอกว่าไม่เอาไง เอ๊ะ ยัยหนูนี่ พูดไม่รู้ฟัง เอาเป็นว่าสั่งให้ลูกน้องเธอทำอะไรให้ฉันกินเย็นนี้ก็แล้วกัน" ชายหนุ่มจริตเกินหญิงกวาดสายตามองหาดาวเหนือลูกน้องของเธอ

"ได้เลย" หญิงสาวพยักหน้าแล้วรีบบอกกนกถึงคนที่เขามองหา "ดาวเหนือไม่อยู่ ออกไปจ่ายตลาด เห็นว่าจะไปเก็บเงินที่ร้านทองด้วย ไปตั้งแต่บ่ายแล้วเดี๋ยวก็คงกลับ"

"อ้อ..." กนกร้อง ต่างหูของเธอโยกไปมายุบยิบแพรวพราว วันนี้ชายหนุ่มสวมกระโปรงเดรสเข้ารูปสีแดงเลือดขอบลูกไม้สีดำผูกคอด้วยผ้าพันคอสีชมพูอ่อนกับรองเท้าส้นสูงปรี๊ดคู่ประจำ

กนกใส่รองเท้าส้นสูงเก่งกว่าปริ๊นเซสเสียอีก เขาเคยเต้นเพลงของบียองเซ่ให้เธอดู ทำเอาหญิงสาวทึ่งเพราะเขาเต้นได้ไม่สะดุดเลยแม้แต่จังหวะเดียวทำเอาดาวเหนือจ้องเขาจนหน้าแดง ไม่รู้ว่าหน้าแดงเพราะตกใจหรือหน้าแดงเพราะหลงเสน่ห์เจ๊กนกเข้าให้แล้ว

"เจ๊ชอบดาวเหนือเหรอ" ปริ๊นเซสถามเอาตรง ๆ เพราะช่วงหลังเห็นดาวเหนือกับเจ๊กนกทำท่าทางแปลก ๆ เวลาเจอกัน

"อึ๊บกันแล้ว" เจ๊กนกประกาศ น้ำเสียงโอ้อวด

"ว้ายยยยย...เล่ามา!!!" หญิงสาวตะโกนลั่นร้าน

X

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel