บทที่7
เฮือก
หญิงสาวดิ้นรนสุดแรงเกิด ผวาลุกขึ้นนั่ง… ดวงตาคู่สวยคลอไปด้วยน้ำใสหยาดหยดจากปลายหางตา ร่างอรชรโทรมเหงื่อ
คล้ายกับความฝัน ทว่าใต้จิตสำนึกรับรู้โดยอัตโนมัติว่าทั้งหมดคือ 'ความจริง'
มือเรียวสวยได้รูปกุมศีรษะ ก่อนจะยื่นมาตรงหน้าเพื่อหารอยเลือดจากการโดนทำร้าย
น่าแปลก ความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งองคาพยพล้วนหายไปหมดสิ้น เหลือเพียงแค่อาการปวดหัวจากการพักผ่อนน้อยอย่างที่เคยเป็นบ่อยๆ เมื่อสมัยเรียน
ขนิษฐากวาดตามองสถานที่โดยรอบเฟอร์นิเจอร์มีเพียงโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ เตียงนอน ตู้เสื้อผ้าขนาดย่อม ประตูห้องน้ำทาสีเขียวหลุดลอก
คล้ายจะคุ้นเคย และคล้ายจะไม่คุ้นเคย
หอพักนักศึกษา?
ใช่ที่นี่คือหอพักสมัยที่หล่อนเรียนมหาวิทยาลัย..
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
หล่อนจำได้ว่าก่อนอนุสติสุดท้ายหลุดออกไป..หล่อนกำลังโดนไฮโซสาวทำร้ายร่างกายถึงแก่ชีวิต และโดนครอบครัวจอมปลอมทำลายทุกอย่างที่หล่อนมี
ทำไมถึงมาโผล่ที่นี่ แทนที่จะเป็นโรงพยาบาล?
คำถามผุดขึ้นมาในสมองไม่ได้หยุด ก่อนจะพุ่งตัวไปยังกระจกโต๊ะเครื่องแป้งด้วยความรู้สึกสับสนงงงวย
ภาพสะท้อนตรงหน้าคือหญิงสาวหน้าตาประณีต ปากคอคิ้วคางล้วนรับกันหมดจด และที่เด่นสุดไม่พ้นดวงตายาวรีเมื่อยิ้มรูปตาเป็นสระอิ
'เฮียชอบตอนน้องยิ้ม'
คำพูดอ่อนโยนของชายคนรักพาให้ใจวาบหวาม จนหล่อนคิดว่าเขา 'จริงจัง'
ขนิษฐาถึงกับหัวเราะทั้งน้ำตา ทว่าครั้งนี้หาใช่ความหมองเศร้าสมเพชตนเองอย่างในอดีต
นี่..หล่อนกำลังย้อนเวลามาใช่ไหม?
สวรรค์ให้ ‘โอกาส’ หล่อนอีกครั้งใช่หรือเปล่า?
“ฮึก..ชาตินี้..ฉันจะไม่ยอมผิดพลาดเหมือนชาติที่แล้ว” คนหน้าสวยส่งสายตามุ่งมั่นไปยังภาพสะท้อนตรงหน้า มือเรียวสวยกุมปลายผมย้อมสีแดงสวยขึ้นมาดู
สีผมที่หล่อนย้อมเพื่อให้แตกต่างจากบรรดาเด็กเสี่ยคนอื่นๆ และเพื่อดึงดูดให้เขาหันมาสนใจ
รอยยิ้มเย้ยหยันถูกแต่งแต้มบนริมฝีปาก
แล้วไงล่ะ? ไม่ว่าหล่อนจะพยายามทำตัวดีแค่ไหน..ทุ่มเททั้งชีวิต จิตวิญญาณให้ไป..เขาก็ใช่จะเห็นใจ
ครอบครัวที่หล่อนรักก็ใช่จะเห็นคุณค่า
ทว่าตอนนี้กลับมีเพียงความรู้สึกร้าวระบมตรงส่วนล่างราวกับประจานผู้หญิงหน้าโง่..ผู้ติดกับดักความกตัญญู
เสียดาย..หล่อนดันย้อนมาหลังจากที่ตนขายตัวให้ไฮโซหนุ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด
เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือราคาถูก ส่งผลให้ขนิษฐาสะดุ้งโหยง มือเรียวหยิบมันขึ้นมาดูสั่นเทา
‘แม่สาลี่’
ดวงตาคู่สวยเย็นชายิ่งนึกถึงภาพตอนที่ตนโดนอีสารเลวทุบตีจนเสียชีวิต แล้วมีนังแม่จอมปลอมยืนมองหน้าตาเฉยหล่อนก็แทบอยากขว้างมือถือทิ้ง
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึก ‘สติ’ เท่านั้นที่จะทำให้หล่อนหลุดจากสถานการณ์เฮงซวยตอนนี้
เสียงโทรศัพท์เงียบไป ก่อนจะดังขึ้นอีกครั้ง ขนิษฐาจึงรับสาย
“นังน้อง..ทำไมแกรับสายช้าขนาดนี้ ห๊ะ” เสียงหงุดหงิดจากปลายสาย มีผลให้มือเล็กกำโทรศัพท์แน่นขึ้น ทว่าน้ำเสียงที่ใช้ตอกกลับมารดาจอมปลอมยังคงสุภาพอ่อนหวานไม่ต่างจากในอดีต มีเพียงสายตาเย็นชาที่ผิดแผก
“ขอโทษทีค่ะ น้องพึ่งอาบน้ำเสร็จ”
“อืมๆ แม่มีเรื่องด่วนจะคุยกับน้องนะ” คนเป็นแม่ตัวปลอมเองก็พยายามปรับน้ำเสียงให้ดีขึ้น ด้วยตนโทรมาเพื่อ ‘ขอ’
“วันนี้ น้องอย่าลืมโอนเงินมาให้แม่นะลูก”
“….”
“น้องอย่าลืมนะ พรุ่งนี้แม่ต้องจ่ายค่าเทอมให้ยัยนุช” สาลี่อธิบายเพิ่มเมื่อเห็นปลายสายเงียบ ขนิษฐาบิดยิ้มรังเกียจ
ถ้าในโลกนี้มีการประกวด ‘คนหน้าด้าน’ มารดาจอมปลอมของหล่อนคงเข้ารอบด้วยไม่ยาก
ทั้งที่รู้แต่แรกแล้วว่าหล่อนหาใช่ลูกแท้ๆ ยังมีหน้ามาไถเงิน
ทั้งที่ขโมยทุกอย่างของหล่อนไป ยังแสร้งทำเป็น ‘ผู้มีพระคุณ’
อุบาทว์ชาติชั่วฉิบหาย…
