คดีฆาตกรรมในป่าลึกช่วงฤดูร้อนของปีนั้น

18.0K · ยังไม่จบ
moodang_lovely
6
บท
8
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

***ไม่คิดว่าคนอ่านจะชอบนิยายของเธอขนาดนี้ หรือที่มันสนุกและน่าตื่นเต้นเพราะอิงข้อมูลมาจากเรื่องจริง 'ดาหลัน' คุณป้าวัยสตรองอายุ 28 ปี อาศัยอยู่กับหลานชายแค่สองคน ด้วยสถานการณ์บังคับให้ต้องเลี้ยงหลานตั้งแต่สมัยเรียน เธอจึงเลือกเป็นนักเขียนนิยายลึกลับให้กับสำนักพิมพ์ชื่อดัง และตามหาคนที่ทำให้น้องสาวของเธอจบชีวิตอย่างน่าเวทนา ผู้ต้องสงสัยคนแรกคือ 'เลนโซ่ การ์เลต' นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ซึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แถมอีกฝ่ายยังเป็นหุ้นส่วนคนใหม่ของสำนักพิมพ์ที่เธอเป็นนักเขียน ระหว่างนั้นมีกลุ่มคนคอยพยายามลักพาตัวหลานชายตัวน้อย การต่อสู้ที่ต้องเดิมพันด้วยชีวิตจึงเริ่มขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ #ติดตามความเคลื่อนไหวที่เพจ นิยาย moodang _lovely นะจ๊ะ ;)

นิยายแอคชั่นประธานนางเอกเก่งรักหวานๆนิยายสืบสวนสอบสวนนิยายรักโรแมนติกนิยายศิลปะการต่อสู้พระเอกเก่ง18+รักแรกพบ

ตอนที่ 1 : ผู้ชายคนนั้น

          ปั๊ก ปั๊ก!

          เสียงเตะกระสอบทรายดังสนั่นเมื่อเจอหน้าแข็งเรียวงามของหญิงสาวในชุดวอมสีน้ำเงินเข้ม เนื้อผ้าที่ดูเหมือนหนาทว่าสวมใส่สบายไม่เป็นอุปสรรคต่อการออกแรงแม้แต่น้อย เม็ดเหงื่อเปียกชุ่มใบหน้างาม ดวงตาเฉียบคมจ้องกระสอบทรายอันใหญ่ด้วยใจฮึกเหิม เธอฟาดหน้าแข็งใส่อีกสองสามครั้งก่อนหยิบผ้าขนหนูจากมือเล็กๆ ที่ยื่นมาให้

          “ป้าหลัน พรุ่งนี้ต้องส่งต้นฉบับแล้วนะ ทาง บก.ย้ำว่าให้ทันก่อนบ่ายโมง”

          เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กชายตัวน้อยคอยรายงานอย่างไม่มีสะดุด สองเล็กมือถือแท็ปเล็ตขนาดหน้าจอเจ็ดนิ้ว เสมือนว่าตัวเองทำแบบนี้อยู่เป็นประจำ

          ดาหลันซับเหงื่อบนซอกคอขาว เหลือบตามองนาฬิกาแขวนผนัง ตอนนี้เป็นเวลาแปดโมงเช้า ผ่านมาสามชั่วโมงตั้งแต่ตื่นมาออกกำลังกาย

          “รู้แล้ว เดี๋ยวจะรีบจัดการ หิวยังเดี๋ยวป้าทำกับข้าวให้กิน”

          เด็กน้อยพยักหน้า ฉีกยิ้มเมื่อพูดถึงอาหารฝีมือของป้าสุดที่รัก ใครทำก็ไม่อร่อยเท่าป้าของเขา วันนี้เป็นวันหยุด เขาเองก็ไม่มีเรียน ถือโอกาสพักสมองพอดี

          “หิวจนไส้กิ่วแล้ว ป้าซ้อมตั้งแต่ตีห้าจนถึงแปดโมง สามชั่วโมงกระเพาะอาหารผมร้องเรียกแต่ของกิน”

          ออนิว เด็กชายวัยแปดขวบทำหน้าตัดพ้อแต่ก็แอบชายตาดูหญิงสาววัยยี่สิบแปดซึ่งเป็นป้าแท้ๆ ของเขา ก่อนจะเดินมาจับมือบางแกว่งไปมา

          “ป้าหลัน นิวอยากกินแกงจืดสาหร่าย”

          ดาหลันเลิกคิ้วขึ้น เมื่อวานตอนเย็นเธอก็เพิ่งทำไป วันนี้หลานชายตัวน้อยของเธอยังอยากจะกินอีก ติดใจขนาดนั้นเชียว เธอย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกับความสูงของเด็กน้อย

          “ได้ รอป้าอาบน้ำสิบนาทีเดี๋ยวจัดให้กินหม้อใหญ่”

          ริมฝีปากเล็กจุ๊บแก้มที่เพิ่งเช็ดเหงื่อออกไปเบาๆ

          “รักป้าหลันที่สุดในโลกเลย!”

          ครึ่งชั่วโมงให้หลังกลิ่นแกงจืดแสนอร่อยโชยทั่วห้องครัวเล็ก มือเรียวจัดแจงยกข้าวสวยพร้อมกับแกงจืดสาหร่ายของโปรดของหลานชายตัวน้อย เมื่อทุกอย่างเสร็จสรรพเสียงช้อนกระทบกันก็ดังขึ้น

          “อื้ม อร่อยมากเลย ฝีมือป้าผมเด็ดอย่าบอกใคร”

          คำพูดคำจาเกินวัยทำเอาดาหลันส่ายหน้า รอยยิ้มประดับมุมปากก่อนจะตักอาหารเข้าปากตัวเอง

          นี่ก็เป็นเวลาแปดปีแล้วที่เธอเลี้ยงหลานชายเพียงลำพัง หลังจากน้องสาวของเธอเสียชีวิตหลังคลอดเขาออกมา ภาพในห้องไอซียูเปรียบเสมือนฝันร้ายติดตามหลอกหลอนเธอไปทุกที่ ผ่านมาหลายปีเธอไม่เคยลืมเหตุการณ์วันนั้นเลย

          ‘พี่หลัน นุชฝากลูกด้วยนะ’

          เสียงหวานแผ่วเบาบนเตียงคลอดทำดาหลันน้ำตาคลอ เธอกุมมือน้องสาวแน่นพยักหน้าแรงๆ ยืนยันคำสัญญา ดานุชเผยรอยยิ้มอ่อนล้า เปลือกตาหนักอึ้งค่อยๆ ปิดลงพร้อมกับเสียงอำลาสุดท้าย

          ‘ขอบคุณ’

          มือเรียวขาวซีดห้อยลงมาตามแรงโน้มถ่วง เสียงวัดชีพจรวิ่งเป็นเส้นตรงเมื่ออวัยวะสำคัญอย่างหัวใจหยุดทำงาน

          ‘นุช อย่าหลับนะ!’

          หมอกันเธอให้ถอยห่างจากเตียงก่อนทำการซีพีอาร์อย่างเร่งด่วน ผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่ากลับไม่มีทีท่าสัญญาณชีพกลับคืนมา 

          ‘เธอไปแล้วครับ’

          เสียงหมอราวกับเสียงเคาะระฆังมรณะ ดาหลันทรุดตัวอยู่ข้างเตียงคลอดไร้ซึ่งเรี่ยวแรง สองมือสั่นเทายกขึ้นปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น เธออยากตะโกนกู่ร้องตีโพยตีพาย อยากก่นด่าสวรรค์ที่พรากชีวิตน้องสาวของเธอ แต่พอร้องจนไม่มีน้ำตาถึงนึกได้ว่าต้นเหตุที่ทำให้น้องสาวของเธอต้องตกอยู่ในสภาพนี้คือไอ้ชาติชั่วที่ทำน้องของเธอต่างหาก

          เป็นมันที่ต้องชดใช้!

          หลังจากนั้นเสียงติฉินนินทาจากคนรอบข้าง ทั้งเพื่อนบ้าน ทั้งเพื่อนในมหาวิทยาลัยต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอท้องก่อนแต่งบ้าง ท้องไม่มีพ่อบ้าง เลิกเรียนก็ต้องรีบกลับไปดูลูกน้อย มีแค่ป้าแก้วที่เป็นเพื่อนสนิทของแม่ที่รู้ว่าออนิวไม่ใช่ลูกของเธอ แต่เป็นลูกของน้องสาว ป้าแก้วจะคอยอาสาเลี้ยงหลานให้ในระหว่างที่เธอไปเรียน จนกระทั่งเรียนจบเธอจึงยึดอาชีพนักเขียนเพื่อเลี้ยงชีพ เพราะจะได้มีเวลาอยู่บ้านเลี้ยงหลานมากขึ้น รายได้มันเพียงพอให้สองป้าหลานมีกินมีใช้โดยไม่ต้องพึ่งพาหยิบยืมใคร และสามารถแบ่งปันกับคนที่เธอเคารพนับถืออย่างป้าแก้วได้อีกคน

          เธอไม่มีวันลืมไอ้ชาติชั่วนั่น ไม่ลืมสิ่งที่มันทำกับน้องสาวของเธอรวมถึงอนาคตของหลานเธอ ถ้ามีโอกาสเธอไม่เก็บมันไว้แน่!

          “ป้าหลัน ป้าหลัน!”

          “หะ…ห๊ะ ว่าไง”

          ดาหลันหลุดจากภวังค์ เสียงเรียกจากหลานชายดึงสติกลับคืนมา มือขวากำช้อนแน่นจนงอ เธอก้มมองข้าวในจานพร่องเพียงเล็กน้อย

          “เป็นอะไร ไม่อร่อยเหรอ”

          “เปล่า แกงจืดมันร้อน วันนี้วันเสาร์อยากไปเที่ยวหน่อยไหม”

          พอพูดเรื่องเที่ยวหูเด็กชายก็ผึ่งทันที แต่พอเขาได้อ่านอีเมลที่ทางสำนักพิมพ์ทวงงานเขียนจากป้า ออนิวก็รีบเก็บสีหน้าตื่นเต้นเอาไว้ ในใจห่อเหี่ยวจนดาหลันแอบยิ้ม หลานของเธออายุแค่แปดขวบแต่กลับมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ โลกความจริงวุ่นวายจะตาย หลานชายของเธอจะรีบโตไปไหน

          “วันจันทร์ป้าหลันต้องส่งต้นฉบับแล้วนะ ถ้าพาผมไปเที่ยวงานจะเสร็จช้า”

          ผู้จัดการตัวน้อยท้วงขึ้นกับอาชีพนักเขียนซึ่งเป็นรายได้หลักในการดำรงชีพของสองป้าหลาน มีบ้านมีรถจนถึงทุกวันนี้ก็เพราะงานเขียนของเธอ 

          ‘คดีฆกรรมในป่าลึกช่วงฤดูร้อนของปีนั้น’ คือนิยายแนวลึกลับที่ดาหลันสร้างผลงานเอาไว้ ตอนจบของเรื่องกลับเป็นปริศนาให้นักอ่านที่หลงเข้ามาชื่นชมผลงานของเธอต้องตั้งคำถามบนอินเทอร์เน็ต ว่าทำไมถึงจับคนร้ายไม่ได้ ภาคสองจะมาเมื่อไหร่เพราะภาคแรกทิ้งปริศนาเอาไว้มากมาย ปมอะไรก็ไม่เคลียร์สักอย่าง ถึงกระนั้นกลับไม่มีใครต่อว่าดาหลันสักคำที่เขียนตัดจบเนื้อหาเอาง่ายๆ แต่กลับคอมเม้นต์รอการกลับมาของเธออย่างใจจดใจจ่อ บางคนถึงขั้นเสนอจ่ายเงินล่วงหน้าให้สำนักพิมพ์ เพียงแค่อยากรู้พล็อตเรื่องของภาคสอง

          ขุมทรัพย์รออยู่ใครบ้างจะไม่โลภ หลังจากวันที่กระทู้คำถามนิยายแนวลึกลับซ่อนเงื่อนได้ถูกแชร์ต่อๆ กัน ทางบรรณาธิการรีบติดต่อดาหลันซึ่งกำลังจะเข้านอนตอนสี่ทุ่ม ขอร้องให้เธอเขียนภาคสองภายในหนึ่งเดือน แลกกับการที่ออนิวจะได้รับสวัสดิการดีๆ เป็นของสมนาคุณ

          “ป้าเขียนเสร็จแล้วเหลือแค่รีไรท์ เราไปเที่ยวก่อน กลับมาค่อยทำก็ได้”

          ได้ยินดังนั้นหัวใจน้อยๆ ของเด็กแปดขวบเต้นรัวอย่างดีใจ รอยยิ้มสดใสสว่างไสวต่อหน้าดาหลัน

          “ป้าพูดเองนะ งั้นนิวไม่เกรงใจแล้ว!”

          ออนิวกระโดดโลดเต้นร้องไชโยดังคับบ้าน หลังกินข้าวเสร็จพวกเธอไม่ลืมชวนป้าแก้วที่กำลังสาละวนรดน้ำต้นไม้ไปด้วยกัน

____________________________________

          อากาศช่วงสิบโมงเช้าไม่ร้อนมากนักเพราะสวนสนุกแห่งนี้ค่อนข้างเน้นธรรมชาติ ที่สำหรับนั่งพักมีต้นไม้และดอกไม้หลากสีสัน ดาหลัน ออนิวและป้าแก้วถือไอศกรีมคนละถ้วยนั่งลงเก้าอี้ใต้เงาไม้ใหญ่ เด็กชายตัวน้อยชี้ไปยังสวนน้ำ ผู้คนมากมายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างเล่นน้ำกันสนุกสนาน

          “ป้าหลัน นิวอยากเล่นน้ำ”

          ดาหลันมองตามนิ้วของหลานชาย เธอเข้าใจจึงเอ่ยอนุญาต “ได้”

          พอทั้งสามกินไอศกรีมเสร็จก็เปลี่ยนไปเป็นชุดว่ายน้ำ ยกเว้นแค่ป้าแก้ว เธอบอกว่าขอเป็นผู้ชมดีกว่า ด้วยวัยเกือบหกสิบให้ไปเล่นแบบเด็กๆ คงไม่ไหวแล้ว ตรงนั้นจึงมีแค่ดาหลันกับออนิว ลงน้ำมาไม่ถึงสิบนาทีป้าแก้วตะโกนมาจากฝั่ง บอกมือถือของเธอดัง 

          ดาหลันหันมองเด็กชายกำลังนั่งห่วงยางหัวเราะกับเพื่อนใหม่ เธอหันไปพูด  

          “นิว ป้าไปรับโทรศัพท์ก่อน อย่าเล่นโซนน้ำลึกล่ะ”

          “โอเค ป้าไปเถอะ เผื่อสำนักพิมพ์โทร.คุยงาน”

          เธอไม่ค่อยวางใจนัก แต่ดูจากท่าทางของป้าแก้วที่กวักมือหยอยๆ รีบให้เธอกลับเข้าฝั่งจึงต้องยอมปล่อยให้ออนิวเล่นน้ำกับเพื่อนใหม่

          “อย่าลงน้ำลึกนะ!”

          หญิงสาวตะโกนกลับมาอีกรอบ ออนิวยกนิ้วเป็นสัญลักษณ์โอเคก่อนจะหันไปเล่นกับเพื่อนต่อ

          “สวัสดีค่ะ” ดาหลันกรอกเสียงลงเครื่องมือสื่อสาร สายตาคอยมองหลานชายเป็นระยะ “บก.มีอะไรคะ”

          “ดาหลัน พี่อยากได้ต้นฉบับวันนี้ได้ไหม!”

          เธอขมวดคิ้ว “งานส่งวันจันทร์นี่คะ ทำไมกะทันหัน”

          “ทางที่ประชุมไม่รู้เกิดบ้าอะไร อยู่ๆ ก็อยากให้เปิดพรีออเดอร์ภายในอาทิตย์หน้า พี่เองก็ปวดหัว แต่เสียงพี่คนเดียวสู้อีกหลายเสียงไม่ไหว ดาหลันช่วยพี่หน่อยนะ ช่วยส่งต้นฉบับมาให้พี่ก่อนเที่ยงได้ไหม ขอร้องล่ะ”

          อะไรกัน! เธอพาหลานมาเที่ยวไม่ถึงสองชั่วโมงกลับงานเข้า ที่ผ่านมาเธอปั่นงานตามใจสำนักพิมพ์มาโดยตลอด วันนี้จะไม่ให้เธอพักผ่อนเลยรึไง

          “เป็นเพราะหุ้นส่วนคนใหม่ใช่ไหมคะ”

          บก.อ้ำอึ้ง สาเหตุของการประชุมเดือดและเลื่อนเวลาตรวจต้นฉบับ เพราะหุ้นส่วนคนใหม่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งสัปดาห์ก่อน อ้างว่าเป็นช่วงกำไรงาม นิยายเป็นที่ต้องการของลูกค้า เม็ดเงินกำลังแพร่สะพัด เขาไม่อาจปล่อยนาทีทองให้สูญเปล่า อยากรีบกอบโกยให้มากที่สุด

          แต่สร้างภาระให้เธอแทนซะนี่!

          “หลันพาหลานมาเที่ยวข้างนอก หลันไม่สะดวก ขอตัว…”

          “ดาหลันๆ เธอจะทิ้งพี่ไว้กับพวกปีศาจลงคอเชียวเหรอ ถ้าก่อนเที่ยงพี่ไม่ได้ต้นฉบับ พี่โดนพวกนี้ขบหัวแน่!”

          สิ่งที่ บก.พูดไม่เกินจริง โต๊ะทำงานของเธอตอนนี้รายล้อมไปด้วยเพื่อนร่วมงาน สายตาคล้ายจะงับหัวตลอดเวลาทำเอาเธอเริ่มสั่นกลัว 

          “ดาหลัน พี่ไหว้ล่ะ ช่วยพี่ด้วย!”

          กรี๊ด!

          เสียงกรีดร้องจากสวนน้ำดึงความสนใจทั้งหมดยังจุดนั้น คนในสายพูดอะไรเธอไม่ได้ยินอีกต่อไป สระน้ำของสวนน้ำกำลังมีคลื่นน้ำเทียมซัดระลอกแล้วระลอกเล่า ผู้คนเล่นน้ำกันสนุกสนาน แต่เธอเห็นเพียงห่วงยางว่างเปล่าของหลานชายเท่านั้น

          ออนิวหายไปไหน…

          “ป้าแก้ว หลันฝากด้วย!”

          ความรีบร้อนของดาหลันทำเอาป้าแก้วตกใจไปอีกคน เกือบคว้ามือถือไว้ไม่ทัน เห็นแค่ดาหลันวิ่งไปยังโซนน้ำลึกซึ่งมีคนเล่นน้ำไม่กี่คน

          “นิว!”

          ดาหลันตะโกนเรียกสุดเสียง ทว่าใกล้เคียงมีแต่เสียงกรีดร้องของผู้คน คลื่นใหญ่กำลังจะซัดเข้าฝั่งอีกรอบ ห่วงยางของหลานชายลอยไปไกลทุกที ดาหลันรีบดำน้ำลงไปปะทะกับคลื่นเทียม

          “นิวอยู่ไหน! ได้ยินป้าไหม!”

          เธอดำลงน้ำอยู่แบบนั้นซ้ำๆ แต่ก็หาหลานชายไม่เจอ หัวใจตอนนี้รู้สึกหวาดหวั่นถึงขีดสุด 

          “ป้าหลัน!”

          เธอหันขวับ ออนิวอยู่ในอ้อมแขนผู้ชายคนหนึ่ง หน้าตาลูกครึ่งออกโซนยุโรปสะดุดตาเป็นพิเศษ เส้นผมสีน้ำตาลเข้มเป็นประกายเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ ดวงตาสีเขียวจ้องหญิงสาวที่กำลังตะเกียกตะกายมาทางเขา

          “ไม่เป็นไรใช่ไหม!”

          ดาหลันรีบดึงออนิวออกจากอ้อมแขนของชายแปลกหน้า ลูบเนื้อลูบตัวตรวจรอยฟกช้ำ แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ จ้องหลานชายด้วยสายตาคาดโทษ เธอเหลือบมองคนที่อุ้มหลานอย่างไม่ไว้ใจ ชายคนนี้ทำไมอยู่กับหลานชายของเธอ 

          คนถูกมองก็นึกแปลกใจ ไม่คิดว่าผู้หญิงรูปร่างผอมบางจะมีพละกำลังมากถึงขนาดกระชากคนอย่างง่ายดาย 

          “ป้าหลันอย่าเพิ่งโกรธ นิวอธิบายได้”

          เธอหันขวับ “งั้นอธิบายมา”

          ชายหนุ่มมองสองป้าหลานคุยกันถึงสาเหตุเรื่องทั้งหมด ชายสวมสูทคนหนึ่งวิ่งลุยน้ำมาแต่ไกลโดยไม่สนสายตาผู้คนเพื่อเข้ามาหาผู้เป็นนาย

          “บอสครับ สายด่วนครับ”

          ชายหนุ่มละความสนใจจากสองป้าหลาน “ฮัลโหล”

          เสียงจากปลายสายร้อนรน รีบรายงานเกี่ยวกับธุรกิจใหม่ซึ่งเขาเพิ่งลงทุนด้วยจำนวนเงินมากโข เจ้าของผลงานอาจไม่สามารถส่งงานทันในวันนี้ จึงอยากเลื่อนเวลาเป็นกำหนดการเดิมที่เคยตกลงไว้ ชายหนุ่มมองสองป้าหลานอีกครั้งเดินจากไปอย่างเงียบเชียบ

          แม้ไม่ได้ชายตามอง แต่ดาหลันสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายกำลังห่างออกไป ชายหนุ่มแปลกหน้าไม่อยู่แล้ว

          “โทษคลื่นเทียมเลย โทษนิวไม่ได้นะ”

          หญิงสาวถอนหายใจ อันที่จริงก็ไม่ใช่ความผิดของหลานชายเธอจริงๆ นั่นแหละ

          “เข้าใจแล้ว เมื่อกี้ป้าไปรับโทรศัพท์”

          “งานด่วนจากสำนักพิมพ์เหรอ”

          ดาหลันพยักหน้า “บก.ต้องการต้นฉบับก่อนเที่ยง แต่เมื่อกี้เกิดเรื่องซะก่อน” สายตาช้อนมองหลานชาย “รู้จักเขาเหรอ”

          “หมายถึงคุณลุงคนเมื่อกี้?”

          “ใช่”

          เด็กน้อยส่ายหน้า “เปล่า เขาบังเอิญช่วยนิวไว้เฉยๆ”

          แต่เธอกลับไม่คิดแบบนั้น เพราะชายหนุ่มแปลกหน้าดูเผินๆ แล้วคล้ายคนในรูปที่เคยถ่ายคู่กับน้องสาวของเธอ 

          เป็นเรื่องบังเอิญจริงเหรอ…