บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 ข่มใจไม่ไหว

“ทำไมต้องคัดด้วยเล่า? เจ้าไม่คิดจะเอาแม่นางคนอื่นๆ มาให้ข้าเลือกบ้างเลยหรือ?” กังเฉินเลิกคิ้วเล็กน้อยพลางมองสำรวจห้องจันทราที่แม่เล้าเรียกขาน

ห้องนี้กว้างขวางโอ่อ่าตกแต่งด้วยม่านและมุ้งสีฟ้าอ่อนดูงดงามสบายตา ด้านนอกหน้าต่างมองเห็นตรอกเล็กๆ ที่กังเฉินเดินเข้ามา เสียงพ่อค้าแม่ค้าร้องเรียกลูกค้ากันขรมไปหมด เสียงดนตรีจากด้านหน้าตรอกทั้งเครื่องสายและเครื่องเป่าดังลอยมาไม่ขาดระยะ เสี่ยวเอ้อเดินถือถาดที่มีสุราในเหยือกกระเบื้องเคลือบสีขาวงดงาม พร้อมทั้งจานกับแกล้มวางไว้บนโต๊ะกลมกลางห้อง

“ท่านไม่ชอบหญิงงามบริสุทธิ์ผุดผ่องหรือเจ้าคะ?”

“หืม!นางยังไม่เคยรับแขกหรอกหรือ?” กังเฉินรู้สึกว่าแม่นางที่นอนหลับใหลผู้นี้ผิวพรรณผุดผาด ใบหน้านวลเนียนก็ดูงดงามไม่น้อย องครักษ์หนุ่มนึกสงสัยว่าในยามที่นางลืมตาจะขึ้นมาจะสวยกว่ายามนอนหรือไม่?

“ยังเจ้าค่ะ นางเป็นทาสที่ข้าเพิ่งซื้อมาเมื่อวานนี่เอง”

“เอ๋?” กังเฉินแทบไม่เชื่อว่าหญิงสาวที่นอนอยู่ตรงหน้าเป็นเพียงทาสที่ถูกขายมา

“นี่เจ้าค่ะ ข้ามีสัญญาซื้อขายอย่างถูกต้อง นายท่านตรวจดูได้เลย”

กังเฉินอ่านสัญญาซื้อขายทาสก็พบว่ามีความถูกต้องแต่เมื่อหันไปดูนางอย่างไรก็ ไม่เหมือนกับสตรีที่ฐานะยากจน นิ้วมือของนางเรียวขาวผุดผ่อง ผิวเนียนเช่นนี้น่ะหรือจะเป็นทาส? ชายหนุ่มหันไปตกลงราคากับแม่เล้าสุยเรียบร้อย ดีว่าที่นี่เป็นหอคณิกาเถื่อนเปิดใหม่ นางจึงยินดีขายสตรีที่นอนอยู่ตรงหน้าเขาในราคาเพียงสองพันตำลึง

เดิมทีกังเฉินไม่คิดจะจ่ายเงินจำนวนมากถึงเพียงนั้น ที่เขาวางแผนเอาไว้กับเหล่าองครักษ์เสื้อแพรก็คือเขาจะเข้ามาดูลาดเลากับจงเหยียน เมื่อสำรวจดูคร่าวๆ ว่าที่นี่น่าจะขังสตรีที่จับมาไว้ที่ใดจึงค่อยเรียกคนบุกเข้ามาจับกุม สำนักมือปราบเมืองหลวงในวันนี้ก็รอฟังสัญญาณอยู่หน้าตรอกหลายคน เพียงแต่ยังมิให้กองกำลังมาป้วนเปี้ยนให้เอิกเกริกเท่านั้น

เมื่อหญิงมากจริตผู้นั้นออกจากห้องจันทราไปแล้ว กังเฉินจึงเดินไปนั่งยังโต๊ะกลมรินสุราลงดื่มหมายจะรอให้นางตื่นขึ้นเพื่อสอบถามความเป็นมาของนางให้ชัดเจน ครั้นดื่มไปสองจอกกังเฉินรู้สึกว่ากลิ่นสุรานี้ดูจะผิดปกติ เขาจึงหยุดดื่ม

ขณะนั้นร่างอรชรที่นอนอยู่บนเตียงก็ผุดลุกขึ้นนั่งทั้งที่ยังลืมตาแทบไม่ขึ้น นางยันกายลุกขึ้นนั่ง ร่างกายของซุนลี่มี่ยังคงรู้สึกปวดเมื่อยอยู่บ้างทว่าความรู้สึกร้อนภายในที่นางไม่คุ้นเคยดูเหมือนจะแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย

‘โอ๊ย! ทำให้ข้าร้อนเช่นนี้!’ นางปลดเปลื้องอาภรณ์ที่ไม่คุ้นเคยออกจนหมดเหลือเพียงเอี๊ยมตัวน้อยกับกางเกงสีขาวบาง

“อิ๋งอิ๋ง ข้าหิวน้ำ!” นางร้องเรียกสาวใช้ด้วยความเคยชิน

กังเฉินที่นั่งหันข้างให้เตียงใหญ่หันขวับไปก็ตกใจยิ่งนัก สตรีที่เขารอให้ตื่นยามนี้นางแทบจะเปลือยกายล่อนจ้อนนั่งหลับตาร้องเรียกให้คนหาน้ำดื่มไปให้ มือข้างหนึ่งก็นางยื่นมาข้างหน้า กังเฉินมองซ้ายมองขวามีกาน้ำชาวางอยู่บนโต๊ะเล็กที่วางชิดผนัง ชายหนุ่มจึงลุกไปรินน้ำชาใส่จอกเล็กถือเข้าไปใส่มือให้นาง

เขาตกตะลึงเมื่อได้เห็นว่าเอี๊ยมสีขาวที่นางใส่แม้จะมีลายปักรูปดอกบัวอยู่บ้างแต่ตัวผ้านั้นโปร่งบางจนมองเห็นสองเต้างามตั้งอวดสายตา เม็ดยอดสีชมพูอ่อนดันผ้าเสียจนแทบทะลุออกมา ส่วนกางเกงตัวจิ๋วนั้นก็บางจนมองเห็นเนินน้อยที่มีแพรไหมปกคลุมอย่างชัดเจน กังเฉินกลืนน้ำลายลงคอหนึ่งอึก เขาเองก็มิใช่พระอิฐพระปูน ยามนี้สตรีอวบอิ่มเย้ายวนมาเปลือยกายอยู่ตรงหน้า อยากจะท่องคาถาข่มใจบทใดก็คงจะเลอะเลือนเสียแล้ว

“แม่นาง เจ้าสวมเสื้อผ้าก่อนดีหรือไม่?”

นางดื่มน้ำไปจนหมดจอกแล้วลืมตาขึ้น ร่างกายที่รุ่มร้อนจนใบหน้าและลำคอแดงก่ำเรียกร้องให้นางต้องการผู้ปลดเปลื้องสักคน นางผวาเข้าหาบุรุษตรงหน้าทันที

“ท่าน ท่านมานั่งตรงนี้ที” ซุนลี่มี่ดึงข้อมือของกังเฉินให้เข้าไปใกล้ กังเฉินที่มัวแต่เบือนหน้าไปอีกทางเพราะเกรงนางจะอายจึงมิได้ระวัง ตัวเขาเซถลาไปนั่งบนขอบเตียงปลายเท้าแทบจะลอยขึ้นทั้งสองข้าง ร่างกำยำแนบชิดกับทาสสาวผู้นั้นโดยมิได้ตั้งใจ ต้นแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามชนกับทรวงอกนุ่มของนางจนรู้สึกถึงแรงเด้งดึ๋งได้

เอื๊อก!

เสียงกลื้นน้ำลายของกังเฉินมิได้ทำให้นางได้สติ ร่างของนางพยายามจะเบียดเข้าหาชายหนุ่ม สองแขนของนางยกขึ้นกอดคอเขาไว้

“ท่านมาช่วยข้าใช่หรือไม่?” น้ำเสียงของนางกระเส่า “ข้าร้อนมากท่านดูสิ! ร้อนจนอยากจะถอดเสื้อผ้าออกให้หมดเลยเทียว”

กังเฉินที่อยู่ในท่าเอียงกะเท่เร่ มือหนึ่งค้ำบนฟูกนอน พยายามจะยันตัวออกห่าง เขาดูอาการของนางแล้วรู้สึกว่านางคงจะถูกวางยาปลุกกำหนัดเป็นแน่ “แม่นาง เจ้าตั้งสติไว้ หากว่าเจ้าถูกวางยาข้าจะช่วยเจ้าออกไปจากที่นี่”

องครักษ์หนุ่มพยายามคว้าเสื้อที่นางถอดทิ้งมาช่วยห่มคลุมร่างนางไว้ ทว่านางกลับไม่ยินยอมอยู่นิ่งริมฝีปากของนางทาบเข้าที่ซอกคอของชายหนุ่ม

“ท่านอุ่นเหลือเกิน! ชะ ช่วยกอดข้าที”

กังเฉินรู้สึกร่างกายส่วนล่างของเขาตอบสนองต่อความรู้สึกที่มีต่อนางในทันที ท่อนเนื้อของเขายืดตรงแข็งขึง ตัวเขาเริ่มรู้สึกปวดช่วงล่าง ร่างกายร้อนผ่าว

“แย่แล้ว! ข้าก็ถูกวางยาเช่นเดียวกัน” ชายหนุ่มพยายามสกัดกั้นร่างกายทว่ายิ่งพยายามข่มกลั้นก็ยิ่งปวดร้าว

ขณะที่เขาพยายามต่อสู้กับความปรารถนาเร้นลับที่ขยายตัว พลันพบว่านางทึ้งเอาเสื้อตัวนอกกับเสื้อตัวในของเขาหลุดลุ่ยจนส่วนหน้าอกเปลือยเปล่า ริมฝีปากของนางพรมจูบเปะปะไปทั่วตั้งแต่ซอกคอไปจนถึงช่วงอกและช่องท้อง

“มะ มะ แม่นาง เจ้าตั้งสติหน่อยเถิด เจ้าทำเช่นนี้ข้าเองก็จะทนไม่ไหว!”

สายไปเสียแล้ว! ซุนลี่มี่ก้มลงมองเห็นส่วนที่ตุงกางเกงขึ้นมา กังเฉินเห็นสายตาของนางจ้องส่วนสำคัญของตนเองก็ปล่อยแขนข้างที่ค้ำพื้นขึ้น พลิกร่างนอนหงายใช้สองมือกุมส่วนนั้นเอาไว้ ใบหน้าของเขาร้อนผ่าวจนแดงก่ำไปหมด ซุนลี่มี่โถมร่างมาทับอยู่ข้างบนหน้าขาจนกังเฉินร้องเสียงหลง

“โอ๊ะ! แม่นางเจ้าลงไปก่อน อย่ามาขี่ข้า!”

ซุนลี่มี่ในยามนี้ไม่ฟังสิ่งใดทั้งนั้น นางโน้มลงแนบร่างกอดชายหนุ่มแล้วทาบทับริมฝีปากกับเขาทันที กังเฉินที่ระอุไปทั่วร่างถูกจุดไฟพิศวาสขึ้นจนไม่อาจจะดับลงได้ เขาปล่อยมือที่กุมเจ้างูใหญ่หว่างขาของตนออกแล้วลูบไล้หลังไหล่เปลือยเปล่าของนาง ร่างแข็งแรงพลิกนางกลับไปข้างใต้ เขาดันลิ้นแทรกผ่านริมฝีปากนางเข้าไปชิมความหวานของหญิงงามที่เบียดร่างเข้าหาเขาไม่ลดละ

***************

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel