บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 วันของข้า

บทที่ 2 วันของข้า

ภายด้านนอกห้องโถงที่ถูกปิดอยู่ เผิงเสี่ยวว่านที่กำลังยกน้ำชาเข้ามา นางพลันหยุดชะงักยืนอยู่ตรงบริเวณประตูทางเข้า เผิงเสี่ยวว่านยืนสงบนิ่งด้วยสีหน้าเรียบเฉยอยู่เช่นนั้นเป็นเวลาสักครู่ใหญ่

เผิงเสี่ยวว่านได้ยินสิ่งที่เผิงฟู่หลินกำลังอาละวาดตะโกนด้วยความคับแค้นใจตั้งแต่ต้นจนจบ นางถึงกับยกยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างรู้สึกสะใจ ก่อนจะค่อย ๆ สะบัดตัวก้าวถอยหลังแล้วเดินจากไปจากที่นั่นในทันที

เผิงเสี่ยวว่านย่อมตระหนักได้ดี ว่าเวลานี้ตนสมควรออกห่างจากสถานการณ์ดังกล่าวให้มากที่สุด นางเพียงแค่ต้องเฝ้ารอคอยเวลาอันสมควร เวลาที่นางจะได้คืนทุกสิ่งทุกอย่างที่สมควรเป็นของนางตั้งแต่ต้น

อันที่จริงเผิงเสี่ยวว่านเป็นบุตรสาวคนโตของราชครูเผิง กับฮูหยินจิ้ง ฮูหยินคนแรกของราชครูเผิง มารดาของนางนับได้ว่าเป็นบุตรสาวของตระกูลบัณฑิตที่มีทั้งความงดงามและความเพียบพร้อมไปในทุกด้าน ซ้ำฮูหยินจิ้งยังเป็นฮูหยินตราตั้งที่ได้รับการตบแต่งเข้ามาในจวนอย่างถูกต้องและเปิดเผย

แต่ทว่าราชครูเผิงกลับไม่ค่อยโปรดปรานมารดาของตนสักเท่าไหร่นัก เขาได้รับเลี้ยงดูอนุเซียงเข้ามาภายในบ้านทั้งที่เพิ่งแต่งงานกับมารดาของตนได้เพียงไม่นาน ความโปรดปรานอนุใหม่จนถึงขั้นไม่เห็นหัวนางเสียด้วยซ้ำ นั่นยิ่งทำให้ฮูหยินจิ้งรู้สึกเสียใจและเจ็บปวดเป็นอันมาก ความเจ็บช้ำทางจิตใจ ทำให้ไม่นานฮูหยินจิ้งก็เริ่มร่างกายอ่อนแอลงเรื่อย ๆ

เมื่อฮูหยินจิ้งคลอดเผิงเสี่ยวว่านบุตรสาวคนแรกออกมา ก็ยิ่งทำให้ร่างกายของนางยากจะฟื้นฟูกลับขึ้นมาได้ดังเดิม ไม่นานนักฮูหยินจิ้งก็เสียชีวิตในขณะที่เผิงเสี่ยวว่านยังเด็กนัก

ราชครูเผิงที่โปรดปรานอนุเซียงเป็นอย่างมาก เขาก็รีบยกนางขึ้นเป็นฮูหยินคนใหม่ของจวนแทบจะในทันที ทำให้เผิงเสี่ยวว่านรู้สึกน้อยใจยิ่งนัก หนำซ้ำในภายหลังฮูหยินเซียงให้กำเนิดเผิงอันอวี้บุตรชายคนโตของตระกูล และเผิงฟู่หลิน บุตรสาวคนเล็ก บิดาของตนก็แทบจะทุ่มเทความใส่ใจทั้งหมดที่มีให้กับพวกเขา เผิงเสี่ยวว่านจึงเปรียบเสมือนดั่งคนแปลกหน้าในจวนแห่งนี้ไปในที่สุด

ด้วยความที่เผิงเสี่ยวว่านค่อนข้างเป็นคนเก็บตัวและไม่ค่อยพูดเท่าไหร่นัก นั่นยิ่งทำให้ระยะห่างระหว่างตนกับบิดาเพิ่มทวีคูณมากขึ้นไปอีก ราชครูเผิงจึงไม่ค่อยโปรดปรานบุตรสาวคนโตเช่นนางเท่าใดนัก ผิดกับเผิงฟู่หลิน แม้นางจะค่อนข้างเอาแต่ใจ และอารมณ์ร้าย แต่เพราะความสดใสและช่างออดอ้อน ทำให้บิดาของตนรักและเอ็นดู ตลอดจนตามใจนางเสียแทบทุกอย่าง

แม้กระทั่งบางครั้งที่เผิงฟู่หลินกลั่นแกล้งนาง บิดาก็ยังคงปิดหูปิดตา ทำเป็นไม่สนใจเช่นเดิม นางจึงอาศัยอยู่ในจวนแห่งนี้อย่างคนที่ต้องเจียมตัว และพยายามทำตัวดั่งคนไร้ตัวตนมาเสมอมา

เผิงฟู่หลินถูกอบรมเลี้ยงดูอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเรื่องมารยาท กวีกาพย์โครง ดนตรี ทุกอย่างถูกจัดเตรียมเพื่อปูทางให้นางสำหรับตำแหน่งพระชายาของรัชทายาทหนี่ซูเว่ย ทว่าในเวลานี้ ผู้ที่หนี่ซูเว่ยเลือกกลับเป็นตนเสียนี่ นั่นจึงเป็นสิ่งที่นางรู้สึกสะใจยิ่งนัก ความคับแค้นใจมาตลอดหลายปี วันนี้กลับทำให้นางนึกขบขันขึ้นมา นี่ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีเสียนี่กระไร

ภาพเมื่อช่วงบ่ายที่ราชโองการถูกส่งมายังจวนราชครูเผิง เผิงฟู่หลินที่ดูตื่นเต้นดีใจ รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าปรากฏขึ้นอย่างแจ่มชัด นางกระวีกระวาดออกมาต้อนรับขันทีคนสนิทของฮ่องเต้อย่างออกหน้าออกตา จวบจนกระทั่งราชโองการกล่าวจบ เผิงฟู่หลินถึงกับถอดสีหน้า ใบหน้าซีดเผือดราวกับเห็นผี รอยยิ้มที่มีหายวับไปกับตา ปรากฏเพียงใบหน้าถมึงทึงที่รู้สึกผิดหวังอยู่คับแน่นในอก เมื่อนึกถึงขึ้นมาทำเอาเผิงเสี่ยวว่านอดที่จะเงยหน้าและยิ้มกว้างออกมาเสียมิได้ พร้อมกล่าวขอบคุณสวรรค์ที่ประทานความยุติธรรมให้กับนางเช่นนี้เสียที

เผิงเสี่ยวว่านเดินกลับไปยังห้องนอนของตน พลางเอื้อมมือหยิบผ้าปักลายหงส์เหินขึ้นมา ก่อนจะบรรจงปักทอลวดลายด้วยความประณีต ฝีเข็มบรรจงเย็บยกอย่างใจเย็น รอยยิ้มยังคงแต่งแต้มใบหน้านวลอย่างรู้สึกสะใจ ตั้งแต่เกิดมาเผิงเสี่ยวว่านไม่เคยรู้สึกยินดีเช่นวันนี้มาก่อนในชีวิตเลย

“คุณหนู บ่าวขอแสดงความยินดีด้วยนะเจ้าคะ” จงหลี สาวใช้คนสนิทกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ นางทนเห็นคุณหนูของนางเจ็บช้ำน้ำใจมานานแสนนาน บัดนี้คุณหนูของนางจะเป็นที่ยกย่อง และมีหน้ามีตาในจวนแห่งนี้เสียที

“บ่าวอยากเห็นหน้าคุณหนูรองเสียยิ่งนัก” จงหลีพูดพลางเดินไปบีบนวดให้นายหญิงของเธออย่างเอาใจ

เผิงเสี่ยวว่านชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะยิ้มบาง ๆ ออกมา “มีอะไรให้ดูกันเล่า”

“คุณหนูของบ่าวแสนดีขนาดนี้ คุณหนูรองช่างใจดำยิ่งนัก รังแกคุณหนูมาโดยตลอด วันนี้คุณหนูของบ่าวกำลังจะได้เป็นพระชายาของรัชทายาท เช่นนั้นต่อไปใครก็ไม่กล้ามารังแกคุณหนูของบ่าวได้อีก” จงหลีระบายความอัดอั้นออกมา

“เจ้าก็อย่าได้เที่ยวพูดเสียงดังไป ใครมาได้ยินเข้า เจ้าจะเดือดร้อน” เผิงเสี่ยวว่านปรามสาวใช้อย่างไม่จริงจังนัก

“บ่าวไม่กลัวหรอกเจ้าค่ะ แค่บ่าวเห็นคุณหนูมีความสุข บ่าวก็ยินดียิ่งนัก” คำพูดสัตย์ซื่อของจงหลี ทำเอาเผิงเสี่ยวว่านยกมือขึ้นลูบหลังมือของนางอย่างแผ่วเบา

“ขอบใจเจ้ามาก หากวันหน้าข้าได้ดิบได้ดี ข้าย่อมส่งเสริมเจ้าแน่” เผิงเสี่ยวว่านกล่าวออกมาด้วยความจริงใจ จงหลีถือเป็นสาวใช้คนสนิทของตน และเป็นเพียงคนเดียวในจวนแห่งนี้ที่นางรักและไว้ใจได้อย่างแท้จริง

“ขอบคุณคุณหนูที่เมตตาข้า” จงหลีน้ำตาคลอเบ้า นางก้มลงคำนับคุณหนูของตนในทันที

เผิงเสี่ยวว่านรีบลุกไปดึงจงหลีให้ลุกขึ้นทันที “ไม่ต้องมากพิธีหรอก เจ้าเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่เคียงข้างข้ามาโดยตลอด แล้วข้าจะลืมเจ้าได้อย่างไร”

จงหลีมองหน้าคุณหนูของตนด้วยความปลาบปลื้มใจ นางสาบานกับตนเองว่าในชาตินี้นางจะจงรักภักดีต่อคุณหนู แม้ตัวตายก็ตาม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel