บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ขออยู่กับอาจารย์ต่อ

“อาจารย์ แม้พวกเราจะต้องขึ้นไปทำหน้าที่บนสวรรค์ แต่พวกเราจะไม่มีวันลืมสำนักแห่งนี้ อาจารย์อย่าได้เศร้าไปเลยนะ” ศิษย์คนสี่ยกมือขึ้นแล้วพูดปลอบ

“ศิษย์ข้าทุกรุ่น มักจะมีคนเช่นเจ้าอยู่เสมอ พวกเจ้าไม่ให้ข้าเศร้า แต่พวกเจ้าต่างเก็บน้ำตาไม่อยู่ ข้ารู้ว่าพวกเจ้ารักและเคารพข้ามากเท่าใด แต่ขอพวกเจ้าจงจำไว้ ยามใดที่พวกเจ้าผจญกับความทุกข์ไร้ทางออก อย่าลืมว่ายังมีอาจารย์ที่คอยเป็นห่วงเจ้าตรงนี้เสมอ”

“อาจารย์ อย่าพูดเช่นนี้อีกเลย ถ้าเลือกได้ข้าก็ไม่อยากไปจากสำนักหมิงเซียน ข้าอยากอยู่รับใช้อาจารย์ไปจนสิ้นอายุขัย” ศิษย์คนที่ห้ากล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“เจ้าเด็กโง่ สำนักหมิงเซียนเป็นสำนักที่ฝึกฝนเซียนเพื่อขึ้นไปทำหน้าที่บนสวรรค์ พวกเจ้าจะอยู่กับข้าไปตราบสิ้นอายุขัยได้อย่างไร”

“อาจารย์ หนิงเอ๋อไม่รู้ธรรมเนียมบนสวรรค์ หนิงเอ๋อขออยู่กับอาจารย์ที่สำนักหมิงเซียนต่อได้ฤาไม่” หญิงสาวผู้เป็นศิษย์น้องเล็ก ยกมือแล้วทำเสียอ่อย

“หากเป็นเจ้า ข้ายิ่งต้องส่งไปเรียนรู้ธรรมเนียมบนสวรรค์ให้มาก ข้าตามใจเจ้ามากกว่าศิษย์คนอื่น ด้วยเพราะอายุขัยของเจ้ายังน้อย ข้าจึงไม่เข้มงวดพอ ทำให้เจ้ามีนิสัยหย่อนยานในกฎเกณฑ์บ่อย ๆ”

“เช่นนี้อาจารย์ยิ่งต้องไม่ให้ข้าขึ้นไปบนสวรรค์ เผชิญกับเหล่าเทพเซียนผู้มากด้วยฤทธิ์ อาจทำให้อาจารย์เสียชื่อเอาได้ โปรดเก็บข้าไว้กับท่านสักคนไม่ได้เหรอ” หนิงเอ๋อทำหน้างอ พร้อมเสียงออดอ้อน

“อาจารย์ เว้นศิษย์น้องเล็กไว้สักคน ส่วนพวกเราทั้งแปดคนจะไม่ปฏิเสธเลย ใช่ไหมทุกคน” ศิษย์คนที่ห้า เห็นน้ำตาของศิษย์น้องเล็กจึงนึกสงสาร พยายามขอร้องอาจารย์ด้วยอีกคน

“ใช่ ๆ อาจารย์เว้นศิษย์น้องเล็กไว้สักคนด้วย” ศิษย์ทั้งแปดคนผสานเสียงพร้อมกัน เพื่อขอความเห็นใจให้ศิษย์น้องเก้าของพวกเขา

“นอกจากอาจารย์ที่ตามใจหนิงเอ๋อจนเสียคนแล้ว พวกเจ้าทุกคนก็ด้วย ข้ารู้ว่าหนิงเอ๋อเป็นศิษย์น้องเล็ก ซ้ำยังเป็นหญิงเพียงคนเดียวของรุ่น พวกเจ้าจึงค่อนข้างตามใจ แต่กาลครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไร หนิงเอ๋อก็ต้องขึ้นไปเป็นเซียนรับใช้ให้กับราชธิดาของเจ้าสมุทรเก๋อไห่ มีนามว่าหยางฟางเหนียง” หญิงสาวได้ยินดังนั้น จึงรู้ว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ทำได้แต่หันมองศิษย์พี่ทุกคนอย่างเงียบ ๆ

“ไม่เป็นไร เจ้ายังมีศิษย์พี่ห้าอยู่ ข้าจะคอยดูแลเจ้าตอนอยู่บนสวรรค์เอง”

“แต่ถึงอย่างนั้น สวรรค์กว้างใหญ่เหลือเกิน เราจะได้เจอกันฤาไม่ ราชธิดาของเจ้าสมุทรเก๋อไห่อยู่ที่ใด ชะตาของข้านับจากนี้จะเป็นเช่นใดยังมิอาจรู้” หนิงเอ๋อกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหดหู่

“แต่ถึงอย่างนั้น หากมีโอกาสศิษย์พี่ห้าจะหาทางไปดูแลเจ้าเอง”

“จนป่านนี้ เจ้าก็ยังไม่เลิกโอ๋นาง เช่นนี้นางจะโตพอได้อย่างไร บนสวรรค์กว้างใหญ่กว่าสำนักหมิงเซียนหลายร้อยเท่าตัว อย่าว่าแต่เจ้าสองคนจะพบกัน ต่อให้พวกเจ้าทั้งเก้าขึ้นไป ก็ยากที่จะพานพบได้”

“หากเป็นเช่นนั้น ถ้ามีโอกาสได้เจอกัน ศิษย์พี่ห้าจะไม่มีวันลืมเจ้า เป็นคนสำนักเดียวกันก็ต้องดูแลกัน” คำตอบของศิษย์คนที่ห้า ทำให้มู่เฉิงหนิงปล่อยผ่านไม่ติดใจ

“เอาล่ะ พวกเจ้าทุกคนขึ้นมารับตราสัญลักษณ์นี้ไว้” สิ้นคำของเจ้าสำนัก เหล่าศิษย์ทั้งหลายต่างทยอยขึ้นไปรับตราสัญลักษณ์นั้นด้วยท่าทางเศร้าสร้อย ร่างเล็กเดินตามหลังศิษย์พี่คนที่แปดไป แล้วจับจ้องมองตราสัญลักษณ์นั้นอย่างไม่เข้าใจ

“อาจารย์ ตรานี้ข้าต้องติดกายไว้ตลอดเลยใช่ฤาไม่” คำถามของหนิงเอ๋อทำให้อาจารย์หญิงยกมือลูบศีรษะนางเหมือนอย่างเคย

“ต้องมีไว้ติดกาย เผื่อวันใดที่เจ้าทุกข์หมดหนทาง หรือแม้แต่ทำผิดกฎสวรรค์ เจ้าแค่นำตราสัญลักษณ์นี้มาที่สำนักของเรา พลังแห่งตราสัญลักษณ์ จะทำลายอำนาจมนตราของเทพที่เป็นเกราะคุ้มภัยสำนัก เปิดช่องให้เจ้าสามารถเข้ามาได้อย่างง่ายดาย”

“หากเป็นเช่นนั้น ถ้าข้าอยากมาหาอาจารย์เฉย ๆ ล่ะ จะได้ฤาไม่” มู่เฉิงหนิงปล่อยยิ้มเล็กน้อยแล้วส่ายศีรษะ

“หลังจากที่พวกเจ้าขึ้นไปทำหน้าที่บนสวรรค์แล้ว จะไม่มีโอกาสได้กลับมายังสถานที่แห่งนี้อีก” หนิงเอ๋อได้ยินดังนั้นจึงก้มมองตราสัญลักษณ์ในมือ

“เจ้ารู้ฤาไม่ว่าในบรรดาศิษย์ของข้าทุกรุ่น ที่ขึ้นไปทำหน้าที่บนสวรรค์ ไม่มีผู้ใดได้กลับมายังสถานที่แห่งนี้อีก ถ้าจะมองอีกมุมถือว่าข้าอบรมสั่งสอนศิษย์ได้อย่างดี ไม่มีผู้ใดทำผิดกฎสวรรค์ แต่...” ยังไม่ทันที่มู่เฉิงหนิงพูดจบ

“อาจารย์คิดถึงศิษย์พี่ทุกคน อยู่ใช่ฤาไม่” หนิงเอ๋อพูดขึ้นมา พร้อมแววตาเป็นประกายรอฟังคำตอบ

“ใช่ ข้าคิดถึงพวกเขาทุกคน และก็คงคิดถึงเจ้ามากที่สุดด้วยเช่นกัน” คำพูดของอาจารย์หญิง ทำให้หนิงเอ๋อน้ำตาเอ่อขึ้นมาในทันที

“อาจารย์” นางโผเข้ากอดอาจารย์หญิงแล้วร้องไห้ออกมาโดยไม่สนใจผู้ใด ก่อนที่ศิษย์คนที่ห้า เตรียมย่างเท้าเข้ามาดึงนางออก

“ไม่ต้อง ปล่อยให้นางร้องจนพอใจ พวกเจ้าทุกคนมีอะไรไปทำก็ไป ข้าจะปลอบใจนางเอง” หลังจากได้ยินคำสั่งของอาจารย์ ศิษย์ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ ปล่อยให้หนิงเอ๋อ กอดอาจารย์หญิงแน่นไม่ยอมปล่อย

“อาจารย์...ความจริงแล้วท่านไม่ต้องส่งข้าให้กับเทพแห่งชะตาได้ก็ได้ เว้นข้าไว้สักคน ท่านเทพแห่งชะตาก็คงไม่ว่าอะไร”

“เด็กโง่ แม้แต่เทพแห่งชะตาเอง ก็ไม่อาจละเว้นหน้าที่ของตัวเองได้ หากเขาปล่อยเจ้าไว้ นั่นแปลว่าเขาละเลยต่อหน้าที่ เช่นนี้แล้วเทพแห่งชะตาเองก็จะได้รับโทษเช่นกัน” หนิงเอ๋อปาดน้ำตาแล้วมองหน้าอาจารย์หญิงของนางครู่หนึ่ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel