บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 มารดาของข้ามีลูกคนเดียว

เมื่อมาถึงจวนตระกูลหลิน หลินลู่หยุนก็เดินเข้าไปข้างใน ทันทีที่หญิงสาวเดินเข้าไปบ่าวในจวนต่างก็ก้มหน้าพูดคุยซุบซิบกันไปมา หลินลู่หยุนไม่ได้สนใจก่อนนี้ก็คือเรื่องของก่อนนี้ ต่อจากนี้ใครจะมารังแกเธอเช่นเดิมนั้นไม่ได้แล้ว 

หลินลู่หยุนถือคติที่ว่าข้าไม่ยุ่งกับใคร ใครก็อย่ามายุ่งกับข้า เรื่องบุญคุณความแค้นกับคนที่มารยามากมายเช่นสตรีพวกนี้ต้องวางแผนรับมือให้ดีดี

ในห้องโถงใหญ่ด้านหน้าเหยาชูเฟิงกำลังนั่งดื่มชาอยู่ที่นั่นและด้านข้างก็มีหลินเจียเสวี่ยคุณหนูสี่ของตระกูลหลินก็ได้นั่งอยู่ข้างๆ เมื่อได้ยินเสียงนางเงยหน้าขึ้นมามองเห็นหลินลู่หยุนที่ไม่เหมือนเดิมและก็มองดูท่าทางที่ไม่เห็นใครในสายตาของนาง หลินเจียเสวี่ยก็ขมวดคิ้ว และก็พูดถากถางออกมาว่า “นางอ้วน โอ๊ย นางคนโง่นี่เจ้าไปทำอะไรมากันแน่ ทำไมถึงได้ผอมลงมากมายเช่นนี้?”

หลินลู่หยุนไม่ได้สนใจนาง เธอหยุดครู่หนึ่งปรายตามองแล้วก็หันกลับและเดินไปยังเรือนไผ่ที่อยู่ด้านหลังจวนในทันที

"เดี๋ยว!" หลินเจียเสวี่ยตะคอกใส่นาง

" นางโง่ ดูทำเข้า มีมารยาทหรือไม่?กลับมาก็ไม่ทักทายท่านแม่เลยอย่างนั้นเหรอ? หรือคราวที่แล้วเจ้าไม่เข็ด? "

“ท่านแม่? ท่านแม่ของใคร? " หลินลู่หยุนเอ่ยถาม “ก็ต้องเป็นท่านแม่ของข้าน่ะสิ ส่วนแม่ของเจ้าน่ะก็ตายไปตั้งนานแล้ว เจ้าก็แค่นังหมูอ้วนที่ไม่อ้วนแล้วแต่ถึงอย่างไรก็ยังเป็นหญิงโง่ ที่ไม่มีผู้ใดเอา!นางผู้หญิงหน้าโง่ ไร้ยางอาย นางเด็กเหลือขอแม่ไม่สั่งไม่สอน!" หลินเจียเสวี่ยพูดอย่างถากถางออกมา

ไม่มีใครเอา นังเด็กเหลือขอ? คำพูดนี้ตั้งแต่เกิดมายี่สิบแปดปีก็ไม่เคยมีใครพูดกับเธออย่างนี้มาก่อน ต่อให้อยู่ในทศวรรษที่ยี่สิบสอง มาจากบ้านเด็กกำพร้า และเธอไม่เคยรู้เลยว่าพ่อและแม่ของตัวเองคือใคร

แต่ก็ไม่เคยมีใครมาบูลลี่เธอเช่นนี้เลยด่าทอเธอขนาดนี้เลย ตอนนี้เธอกลับไปโลกปัจจุบันของเธออีกไม่ได้ เธอก็จะใช้ชีวิตใหม่ในร่างของหลินลู่หยุนนี้ให้ดี และจะไม่ยอมให้หลินเจียเสวี่ยเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้มารังแกได้อีกอย่างแน่นอน

“เพี๊ยะ!" หลินลู่หยุนตบลงไปบนใบหน้าของหลินเจียเสวี่ยหนึ่งที และที่ฝ่ามือของเธอก็แสบสะท้านเพราะแรงตบ หลินลู่หยุนไม่มีทางให้เด็กสาวตัวเล็กๆคนนี้มาลามปามถึงมารดาและทำร้ายเจ้าของร่างนี้อีกต่อไปแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอคือ หลินลู่หยุนเวอร์ชั่นใหม่แล้ว

“นางโง่กล้าตบข้าเหรอ? เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาตบหน้าข้า? "หลินเจียเสวี่ยกุมหน้าและมองไปที่หลินลู่หยุนด้วยความไม่เชื่อ

ก่อนหน้านี้หลินลู่หยุนถูกทุกคนรุมรังแก และเมื่อถูกหลินเจียเสวี่ยต่อยตี แม้แต่จะร้องไห้ออกมานางก็ไม่กล้า แต่วันนี้กลับกล้าที่จะมาตบนางอย่างนั้นเหรอ?

“ทำไมข้าจะไม่กล้าตบเจ้า หากอ้างตามอายุแล้วข้าก็เป็นพี่สาวของเจ้า หากอ้างตามชาติกำเนิดแล้วข้าก็เป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลหลิน แต่เจ้าหากไม่เป็นเพราะเมียน้อยอย่างมารดาของเจ้าขึ้นมาครองตำแหน่งแล้วละก็

เจ้าก็แค่ลูกนอกสมรส ไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะมาลอยหน้าลอยตาอยู่ในตระกูลหลินเลยสักนิด" หลินลู่หยุนพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ

หลินเจียเสวี่ยตกตะลึง โดยปกติแล้วหลินลู่หยุนมักจะมึนงงตลอดทั้งวัน ซ้ำยังโง่พูดจาไม่รู้เรื่องอีกต่างหาก เมื่อไหร่กันที่นางกล้าเชิดหน้าชูตา และก็มาพูดสาธยายยืดยาวแบบนี้กับตน

หลินเจียเสวี่ยร้องไห้และวิ่งเข้าไปซบในอ้อมอกของเหยาซูเฟิน และก็พูดออกมาอย่างน้อยเนื้อต่ำใจว่า "ท่านแม่เจ้าคะ ท่านแม่ดูหลินลู่หยุนสินางกล้าตบข้า!"

เหยาซูเฟินมองไปที่ใบหน้าของลูกสาวคนเล็กอย่างเป็นทุกข์ มีรอยตบสีแดงสดอยู่บนนั้นดวงตาแข็งกร้าวของนางวาบผ่านจากนั้นนางก็ลุกขึ้นมาทันทีแล้วก็พูดว่า "ลู่หยุนครั้งนี้เจ้าทำไม่ถูกนะ ทำไมลงไม้ลงมือตบตีน้องสาวอย่างนี้ด้วยล่ะ? "

“น้องสาว? ขอโทษนะท่านแม่ของข้ามีข้าเป็นบุตรสาวเพียงแค่คนเดียว ข้าไม่รู้เลยว่าตัวเองยังมีน้องสาวกับเขาด้วย" หลินลู่หยุนพูด

“หลินลู่หยุนเจ้าอย่าลามปามจนเกินไปนะ เจ้ามีสิทธิ์พูดอะไรในจวนแห่งนี้ด้วยเหรอ!หากเรื่องไปถึงหูของท่านผู้เฒ่าตระกูลหลินไม่มีใครดูดีหรอกนะ!"เหยาซูเฟินพูดออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด

"โอเค...ได้เหยาซื่อเจ้าอยากจะให้เรื่องไปถึงหูของท่านปู่ก็ได้นะข้านั้นพร้อมตลอดเชียวล่ะมาดูกันว่าท่านพ่อจะคิดยังไงเมื่อเขากลับมาและเห็นว่าแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างลูกๆ แบบนี้เหยาซื่อก็จัดการไม่ได้" หลินลู่หยุนพูด

เหยาซูเฟินรู้สึกลังเลใจขึ้นมาแล้ว ปกตินายท่านผู้เฒ่าหลินมักจะไม่พอใจลูกสะใภ้มือที่สามอย่างตนมาโดยตลอด และท่านแม่ทัพฮ่วนก็กำชับตนมาตลอดว่า ไม่มีอะไรก็อย่าไปรบกวนนายท่าน ผู้เฒ่าเพราะสุดท้ายแล้ว พลังอำนาจของจวนตระกูลหลินยังอยู่ในมือของนายท่านผู้เฒ่าอยู่

เมื่อหลินลู่หยุนเห็นว่าเหยาซูเฟินเงียบไป ก็พูดออกมาว่า"ในเมื่อเหยาซื่อไม่มีอะไรและในตอนนี้เช่นนั้นข้าก็จะกลับเรือนล่ะนะ"

ยังไม่ทันที่เหยาซูเฟินจะตอบอะไรกลับมาหลินลู่หยุนก็เดินจากไปแล้ว ซึ่งท่าทางแบบนี้มันแตกต่างกับเมื่อก่อนที่ให้ความเคารพตนอย่างสิ้นเชิง หลินเจียเสวี่ยยังคงร้องไห้อยู่นางเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อและแม่มาตั้งแต่เด็กๆ และไม่เคยมีใครมาทำให้ขุ่นเคืองได้ด้วยจึงทำให้หลินเจียเสวี่ยนั้นหยิ่งผยองและก้าวร้าวต่อหลินลู่หยุนตลอดเวลา

 แต่วันนี้หลินลู่หยุนที่เคยถูกนางรังแกข่มเหงเป็นเบี้ยล่างของนางมาตลอดกลับกล้าที่จะตบหน้านาง? นางจะไม่ปล่อยหลินลู่หยุนไปอย่างแน่นอน!

หลินลู่หยุนเดินกลับเรือนไผ่ด้วยใบหน้าเรียบเฉย ในความทรงจำของเธอ เหยาซูเฟินนั้นมักจะให้หลินลู่หยุนดื่มซุปไก่กินเป็นประจำและตั้งแต่ที่เธอตรวจพบว่าซุปไก่นั่นมีปัญหาเธอก็ไม่เคยดื่มอีกเลย เธอจำได้ว่าส่วนผสมในน้ำซุปไก่นั้นมีรากจ๋ายเชียงผสมอยู่

รากจ๋ายเชียงนี้นานๆผสมในน้ำซุปดื่มสักครั้งจะทำให้ร่างกายผ่อนคลายนอนหลับแต่หากใช้ดื่มเป็นประจำเช่นเหยาซื่อให้หลินลู่หยุนดื่มน้ำก็จะทำให้ร่างกายของเธอบวมและอ่อนแอเป็นอย่างมากสมองจะมึนงง ค่อยๆกลายเป็นคนโง่ไปโดยปริยายบวกกับการแต่งหน้าหนาเตอะเครื่องประดับเต็มศรีษะแล้ว นับว่านางนั้นก็ค่อนข้างอัปลักษณ์มากจริงๆ

ตอนนี้อยู่ในช่วงปิดเทอมฤดูหนาวของสถานศึกษาฉินอี้ที่เจ้าของร่างเคยไปลงทะเบียนเรียนเอาไว้ แต่เป็นเพราะการได้รับรากจ๋ายเชียงมากเกินไปจึงทำให้นางง่วง ซึมและเฉื่อยชากลายเป็นคนขี้เกียจไปโดยปริยาย

แต่เวลานี้หลินลู่หยุนไม่ใช่หลินลู่หยุนคนเดิมอีกแล้วในช่วงอีกหนึ่งเดือนก่อนจะเปิดเรียนนี้นางจะต้องลดน้ำหนักให้ร่างกายอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอย่างเร็วที่สุดและเตรียมตัวเข้าศึกษาต่อให้จบเพื่อรักษาชื่อเสียงของตนเองเป็นการตอบแทนหลินลู่หยุนคนเดิม

ในเวลาค่ำ

หลินลู่หยุนก็กินเพียงแอปเปิ้ลหนึ่งลูก แล้วก็ออกไปวิ่งในทันที หลังจากวิ่งไปสองพันเมตรนางก็กลับขึ้นเรือนมาอาบน้ำ

หลังจากที่นางอาบน้ำเสร็จก็มีสาวใช้จากเรือนใหญ่มาเชิญนางไปยังลานใหญ่ของจวนแม่ทัพ เวลานี้ท่านแม่ทัพฮ่วนบิดาของนางก็ได้รอนางอยู่ในลานแล้ว และหลินเจียเสวี่ยก็ได้นั่งร้องไห้ฟูมฟายอยู่ข้างของเขา

แล้วก็พูดพร่ำอยู่ตลอดเวลาว่าหลินลู่หยุนนั้นได้รังแกตัวเองอย่างไรบ้าง

ทันทีที่แม่ทัพหลินมองเห็นหลินลู่หยุนดวงตาของเขาก็แข็งกร้าวเล็กน้อยแม่ทัพหลินถามออกมาว่า “ลู่หยุนทำไมต้องตบตีเจียเสวี่ยแบบนี้ด้วย

อย่างไงนางก็เป็นน้องสาวของเจ้านะ ขอโทษเจียเสวี่ยเดี๋ยวนี้!”

หลินลู่หยุนหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน แค่คำพูดฝ่ายเดียวของหลินเจียเสวี่ย หลินฮ่วนบิดาเก็บตกก็จะให้นางขอโทษเสียแล้ว แม้แต่โอกาสที่นางจะได้อธิบายก็ยังไม่มีเลยการที่มีพ่อแบบนี้ ลู่หยุนยอมเป็นเด็กกำพร้ายังจะดีกว่าเลย

“ท่านพ่อ เจียเสวี่ยบอกว่าท่านแม่ของข้าเป็นหญิงอายุสั้น และข้าก็จะอายุสั้นตามไปด้วย และข้าจะต้องตายไม่ช้าก็เร็วข้าโกรธมากก็เลยตบตีนางไป ลูกรู้ ลูกไม่มีแม่

ไม่เหมือนเจียเสวี่ยที่มีเหยาซื่อคอยอบรมสั่งสอนต่อไปลูกจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วเจ้าค่ะ"หลินลู่หยุนก้มหน้าและพูดออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา

ด้วยท่าทางที่น้อยเนื้อต่ำใจนี้ ทำให้ความรู้สึกผิดของแม่ทัพหลินฮ่วนพุ่งขึ้นถึงขีดสูงสุด

เพราะท้ายที่สุดแล้วหลินลู่หยุนนางก็คือบุตรสาวแท้ๆของเขาเหมือนกัน

....

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel