บทที่ 1 ทะลุมิติมาเป็นนางร้าย
"ให้ตายเถอะ นางร้ายเรื่องนี้จะมีชะตาชีวิตที่น่าอดสูเกินไปแล้ว ถูกเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะเพื่อเป็นลูกชังยังไม่พอ ยังต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยการดูสีหน้าของคนในจวนอยู่ตลอดเวลา ที่แย่ไปกว่านั้นนางยังมีจิตใจทะเยอะทะยานอยากจะเทียบเคียงกับบุตรสาวแท้ๆของตระกูลเมิ่งอีกด้วย ช่างไม่เจียมตัวเลยจริงๆ
ฉันอ่านจนจบเล่มแล้ว รู้สึกสงสารตัวละครนี้ได้ไม่สุดจริงๆ มันทั้งสงสารและหมั่นไส้ในคราวเดียวกัน ช่างเป็นนางร้ายที่ไม่ได้เรื่องได้ราวเลยสักอย่าง สุดท้ายแล้วนางก็ตายเพราะความทะเยอะทะยานของตนเอง ส่วนพระเอกที่เป็นท่านโหวก็ปากจัดด่านางร้ายสาดเสียเทเสีย นางเอกที่ชื่อเมิ่งลี่หรูผู้นั้นก็ทำตัวเหมือนแม่ดอกบัวขาวอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายแล้วพระเอกก็เลือกแต่งงานกับนางเอกได้ครองคู่กันไปชั่วชีวิต ตัวร้ายต่างพ่ายแพ้หมด ช่างเป็นนิยายเรื่องสั้นเพ้อฝันที่บอกเล่าเรื่องราวความรักลึกซึ้งของท่านโหวผู้เก่งกาจกับแม่ดอกบัวขาวคนงามโดยเฉพาะ ส่วนตัวละครอื่นๆก็กลายเป็นตัวประกอบเสริมบทให้พระนางรักกันหวานซึ้ง ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยแม้แต่น้อย
เห้อ หากฉันทะลุมิติไปอยู่ในร่างนางร้ายได้นะ ฉันจะทำให้หล่อนเป็นผู้เป็นคนมากกว่านี้ ไม่ต้องมาปักใจรักผู้ชายที่ไม่ได้รักตัวเอง ไม่ต้องทะเยอะทะยานอยากได้อยากมีในสิ่งที่ไม่ใช่ของตน ใช้ชีวิตให้มีความสุขอยู่เงียบๆ การมีชีวิตอย่างสงบสุขก็คือความสุขอย่างถึงที่สุดแล้ว”
เอ่ยจบเมิ่งอ้ายเยว่ก็โยนนิยายเล่มนั้นเข้าไปกองรวมกับกองหนังสือที่เจ้าหล่อนเคยอ่านมาแล้วอย่างไม่ใส่ใจ นิยายเรื่องนี้เธอไม่มีทางหยิบขึ้นมาอ่านซ้ำ
เหตุผลอีกประการที่เธอไม่คิดจะอ่านมันซ้ำก็คือ นางร้ายในเรื่องนี้ดันชื่อเหมือนกับเธอทุกตัวอักษร บัดซบจริงๆ! เธอไม่ได้นิสัยแย่เหมือนนางร้ายในนิยายผู้นั้นเลยสักนิด
เมิ่งอ้ายเยว่ทิ้งกายลงนอนบนเตียง แล้วจึงใช้แผ่นเจลเย็นมาวางประคบเอาไว้ที่ดวงตาทั้งสองข้าง วันนี้เธออ่านนิยายนานไปหน่อยเลยรู้สึกปวดดวงตาขึ้นมาเสียดื้อๆ
เธอมีชื่อว่าเมิ่งอ้ายเยว่ ตอนนี้อายุยี่สิบห้าปีแล้ว สถานะยังไม่มีแฟน ยังไม่แต่งงาน มีอาชีพเป็นสาวออฟฟิศที่เข้างานเช้าออกงานดึก กินมาม่าประทังชีวิต ก่อนนอนก็มาร์คหน้านิดหน่อย อ่านนิยายฆ่าเวลาเล็กน้อย จากนั้นก็นอนหลบอุตุอยู่บนเตียง เก็บแรงเอาไว้เพื่อทำงานในเช้าวันต่อไป เธอมีความฝันว่าอยากจะมีแฟนที่่ร่ำรวยสักคน เขาถนอมเธอเหมือนไข่มุก ไม่ให้เธอทำงานอะไรเลย นอกจากกินๆนอนๆตื่นสายได้ตามใจชอบ แต่ชีวิตจริงคงไม่มีหรอกผู้ชายแบบนี้ คงมีแต่ในนิยายเท่านั้นล่ะ เฮ้อ!
เมิ่งอ้ายเยว่ถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยล้า เมื่อมองไปยังนาฬิกาที่แขวนเอาไว้บนฝาผนังห้อง ก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาตีหนึ่งกว่าๆแล้ว วันนี้เธออ่านนิยายจนเพลินไปหน่อยจึงเผลอนอนดึก อย่างไรคงต้องรีบเข้านอนแล้ว ขอบตาจะได้ไม่ดำเป็นหมีแพนดาด้า
ว่าจบเมิ่งอ้ายเยว่ก็ปิดไฟเข้านอน แต่ทว่าเพิ่งจะหลับไปได้ครึ่งชั่วโมง หญิงสาวก็รู้สึกแน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออก เธอขยับตัวพลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงด้วยความทรมาน
ให้ตายเถอะ!หรือว่ากินขาหมูก่อนนอนเลยทำให้ท้องแน่นจุกเสียด
โอย!หายใจไม่ออก
เมิ่งอ้ายเยว่เปล่งเสียงร้องครวญครางออกมาแผ่วเบา ก่อนจะหมดสติไปในทันที
เมืองหลวงแคว้นเยี่ย
จวนตระกูลเมิ่ง
"คุณหนูเจ้าคะ ท่านรีบตื่นขึ้นมาล้างหน้าผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ก่อนเถอะเจ้าค่ะ หากไปคารวะยามเช้าไม่ทัน ฮูหยินใหญ่ได้โมโหท่านอีกแน่!"
เสียงของสตรีน้อยนางหนึ่งที่เอ่ยอย่างร้อนลนอยู่ข้างหู ทำเอาเมิ่งอ้ายเยว่ถึงกับย่นหว่างคิ้ว ใครกันที่มารบกวนเวลานอนอันแสนสุขของเธอ!
อยู่ๆเมิ่งอ้ายเยว่ก็ลืมตาโพลงขึ้นมา เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเช้านี้ตนเองมีประชุมในตอนเช้า หากไปสายนอกจากจะโดนหัวหน้าเล่นงานแล้ว อาจจะต้องระเห็จไปหางานใหม่ทำอีกด้วย!
เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงดีดกายลุกขึ้นมานั่ง แต่ทว่ากลับเหลือบไปเห็นสตรีน้อยนางหนึ่งกำลังนั่งมองนางตาปริบๆอยู่ข้างเตียงนอน สตรีน้อยผู้นี้หน้าตาน่ารัก ดูแล้วอายุน่าจะสิบสามสิบสี่ปีไม่เกินนี้ นางแต่งกายเหมือนสาวใช้ในซีรี่ย์จีนโบราณ เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็เป็นผ้าเนื้อหยาบ เด็กสาวถักเปียคู่สองข้างดูน่ารักยิ่ง เมิ่งอ้ายเยว่ถึงกับย่นหว่างคิ้วด้วยความสงสัย
ใครกันละเนี่ย? หรือว่าจะเป็นแม่บ้านคนใหม่ แต่หล่อนยังอายุน้อยอยู่เลยนี่นา หรือว่าจะเป็นลูกสาวป้าแม่บ้าน แล้วใส่ชุดจีนโบราณมาทำไมกัน เป็นนักคอสเพลย์เหรอ?
"น้องคะ น้องเข้ามาในห้องพี่ได้ยังไง หรือว่ามาช่วยคุณแม่ทำความสะอาดห้องนอนให้พี่ ชุดที่น้องใส่สวยดีนะคะ เป็นสาวคอสเพลย์เหรอ?"
สาวใช้น้อยนามว่า อาหมี่ เมื่อได้ยินเจ้านายตนเอ่ยถามด้วยภาษาประหลาดพิลึกกึกกือก็ถึงกับตื่นตระหนก หรือว่าเมื่อคืนนี้คุณหนูจะคับแค้นใจเพราะถูกเถียนฮูหยินเรียกไปตำหนิ จึงโมโหจนธาตุไฟเข้าแทรกและสติเพ้อพกไปเสียแล้ว
เมื่อเห็นว่าสาวน้อยตรงหน้าไม่ตอบคำถามอีกทั้งยังมองนางแปลกๆ เมิ่งอ้ายเยว่ก็เริ่มสงสัย นางใช้สายตากวาดมองไปทั่วห้อง แล้วจึงพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ
นี่มันไม่ใช่ห้องฉันนี่!
แล้วฉันอยู่ที่ไหนกันละเนี่ย?
เมิ่งอ้ายเยว่หันรีหันขวางแล้วจึงมองมาที่อาหมี่อีกหน
"น้องชื่ออะไรคะ?"
"คุณหนู ท่านเสียสติจนลืมแม้กระทั่งชื่อบ่าวแล้วหรือเจ้าคะ บ่าวชื่ออาหมี่ เป็นสาวใช้ของคุณหนูอย่างไรเล่า!"
สาวใช้ ชื่ออาหมี่?
ชื่อที่แสนคุ้นเคยนี้ทำเอาเมิ่งอ้ายเยว่ถึงกับชะงัก อาหมี่ที่เห็นอย่างนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงเจ้านายตนจับใจ
"คุณหนูใหญ่ ท่านรีบแต่งตัวแล้วไปคำนับเถียนฮูหยินเถอะเจ้าค่ะ หากชักช้าจะโดนดุเอาได้"
ชื่อตัวละครใหม่นามว่าเถียนฮูหยินทำเอาเมิ่งอ้ายเยว่เริ่มรู้สึกตะหงิดในใจขึ้นมา
"อาหมี่ เธอบอกฉันทีสิว่า ที่นี่คือที่ไหน?"
อาหมี่แม้จะงุนงงอย่างหนัก แต่ก็ยังตอบคำถามเจ้านายอย่างนอบน้อม
"เรียนคุณหนู ที่ี่นี่คือจวนตระกูลเมิ่ง ใต้เท้าเมิ่งของพวกเรารั้งตำแหน่งเสนาบดีกรมพระคลัง มีเถียนฮูหยินเป็นภรรยาเอก นางมาจากตระกูลบัณฑิตที่มีชื่อ ส่วนท่าน เอ่อ ท่านก็คือคุณหนูใหญ่เมิ่งอ้ายเยว่ที่เถียนฮูหยินรับมาเลี้ยงดูตั้งแต่แบเบาะ ยามนั้นเถียนฮูหยินยังไม่มีบุตร ไต้ซือได้ทำนายทายทักว่าให้นำเด็กหญิงที่มีวันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟากตามที่ไต้ซือทำนายมาเลี้ยงเอาไว้ข้างกายเป็นบุตรบุญธรรม แล้วจึงจะสามารถตั้งครรภ์ได้ เถียนฮูหยินจึงสืบเสาะหาเด็กสาวที่ตนต้องการ จนได้พบกับท่านที่นอกเมืองหลวง ซึ่งท่านมีวันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟากตรงตามที่ไต้ซือทำนายพอดี
เถียนฮูหยินจึงซื้อตัวท่านจากครอบครัวชาวนายากจนครอบครัวหนึ่งมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ไม่นานเถียนฮูหยินก็ให้กำเนิดคุณชายใหญ่เมิ่งซาน อีกไม่กี่ปีหลังจากนั้นก็ให้กำเนิดคุณหนูรองเมิ่งลี่หรู เถียนฮูหยินไม่ได้ปิดบังผู้คนในเมืองหลวงเรื่องที่รับตัวท่านมาเลี้ยง อีกทั้งยังบอกกับทุกคนว่าเห็นท่านแล้วถูกชะตาจึงรับมาเลี้ยงดูเหมือนบุตรในอุทร แต่ทว่าบ่าวไม่ทราบนะเจ้าคะว่าครอบครัวเดิมของท่านยามนี้เป็นเช่นไรบ้าง เพราะเถียนฮูหยินไม่ได้บอกเล่ารายละเอียดใดไปมากกว่านี้อีก เอ่อ คุณหนูใหญ่อย่าลงโทษบ่าวเลยนะเจ้าคะ บ่าวก็จำมาจากที่คนในจวนเขาเล่าต่อๆกันมาน่ะเจ้าค่ะ!"
อาหมี่เอ่ยจบก็นั่งตัวสั่นงันงก ก่อนหน้านี้มีหญิงรับใช้คนหนึ่งทำเมิ่งอ้ายเยว่โมโหจึงถูกเมิ่งอ้ายเยว่ลงโทษโบยจนตาย นางจึงเข้ามารับหน้าที่สาวใช้คนใหม่แทน แต่ไหนแต่ไรสิ่งที่เจ้านายของนางเกลียดที่สุดคือการถูกผู้อื่นขุดคุ้ยเรื่องชาติกำเนิดของตน แม้จะได้ชื่อว่าเป็นคุณหนูใหญ่ แต่กลับเป็นเพียงบุตรบุญธรรม ไม่อาจเทียบเคียงบุตรสาวสายตรงของตระกูลเมิ่งได้ ทุกครั้งที่สาวใช้คนใดเอ่ยถึงเรื่องนี้ เมิ่งอ้ายเยว่จะโมโหเป็นอย่างมาก
เมิ่งอ้ายเยว่เมื่อฟังที่อาหมี่เล่าจนจบก็เหมือนวิญญาณหลุดออกมาจากร่างกลายเป็นศพนั่งเหม่อไปเสียแล้ว
เวรกรรมจริงๆ เพิ่งจะด่านางร้ายคนนี้ไปหยกๆ ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าตัวนางได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของนางร้ายชะตาบัดซบผู้นี้เรียบร้อยแล้ว!
ให้ตายเถอะ สวรรค์! ให้นางทะลุมิติมาทั้งที เหตุใดไม่ให้ไปอยู่ในร่างคุณหนูผู้แสนร่ำรวยเล่า ให้มาอยู่ในร่างของนางร้ายชะตาอาภัพผู้นี้ทำไมกัน บัดซบ!
