บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 คนใจร้าย

วันต่อมา..

-มหาวิทยาลัย-

ดาริกาถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ ขณะที่ตามองจอโปรเจคเตอร์ที่อาจารย์กำลังสอน แต่ทว่าเหมือนสิ่งที่อาจารย์สอนจะไม่เข้าสมองเลยสักนิดเพราะเอาแต่คิด และกังวลเรื่องใครบางคน

"ดา"

"ยัยดา"

คิดจนไม่ได้ยินเสียงเรียกที่ดังขึ้นจนเพื่อนสาวอย่างแยมต้องยื่นมือไปหยิกแขนเบา ๆ หากถ้าเรียกดังกว่านี้เกรงอาจารย์จะได้ยิน

"อู้ยยย.."

คนถูกหยิกถึงกับสะดุ้งหน้านิ่วคิ้วขมวดรีบใช้มือลูบแขนปอย ๆ ด้วยความเจ็บ ก่อนจะหันไปพูดกับเพื่อนสาวเบา ๆ "เจ็บนะ หยิกเราทำไม"

"ก็ฉันเรียกตั้งหลายครั้งแกไม่ได้ยิน" แยมมองสบแววตาเพื่อนสาว ก่อนจะพยักเพยิดหน้าไปทางเพื่อนอีกคน "ไม่เชื่อถามมินท์ดู"

"ใช่ แยมเรียกดาตั้งหลายครั้งแล้ว" มินท์ตอบแล้วอมยิ้มนึกตลกเพื่อนทั้งสองคนที่ชอบกัดกันเป็นประจำ แต่ถามว่าทั้งสองรักกันมากไหมบอกเลยว่ามาก เพียงแค่ชอบแกล้งกันเจ็บ ๆ เท่านั้น

คราวนี้ดาริกาได้แต่ส่งยิ้มแหย่ ๆ ให้แยมกับมิ้นท์

"คิดอะไรอยู่ ที่อาจารย์สอนได้ฟังบ้างรึเปล่าเนี่ย"

แยมมองหน้าเพื่อนสาวเชิงตั้งคำถามช่วงสองสามอาทิตย์มานี้เธอเห็นเพื่อนนั่งเหม่อลอยอยู่บ่อยครั้งทั้งที่ปกติจะตั้งใจเรียนมาก

"คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ"

"ฉันว่าไม่เรื่อยเปื่อยแล้วล่ะ ดูหน้าแกดิ" แยมค้านเพราะสีหน้าเพื่อนสาวมันฟ้องชัดว่ามีเรื่องทุกข์ใจ "เรื่องแม่ หรือเรื่องพี่ศรัณย์สุดที่รักล่ะ"

และเรื่องที่ทำให้เพื่อนสาวเป็นได้ขนาดนี้ก็มีไม่กี่อย่าง ไม่เรื่องแม่ก็เรื่องศรัณย์ผู้ชายที่เพื่อนรัก

"ระ.."

"สองคนนั้นคุยอะไรกัน"

ไม่ทันที่ดาริกาจะได้อ้าปากตอบเสียงอาจารย์ก็ดังแทรกขึ้นพร้อมด้วยแววตาดุที่จ้องมองมาทำทั้งสองรีบหันมองจอโปรเจคเตอร์

"เวลาเรียนไม่ตั้งใจ สอบตกขึ้นมาฉันจะสมน้ำหน้าให้" มิวายโดนอาจารย์ดุตอบท้ายอีก ขณะที่มิ้นท์แอบขำอยู่คนเดียว

หลังจากเลิกเรียนทั้งสามก็พากันมานั่งทำการบ้านที่อาจารย์สั่งใต้ตึกคณะมนุษยศาสตร์จนเสร็จจึงแยกย้ายกัน

ดาริกายืนหน้าตึกคณะรอรถของที่บ้านมารับเหมือนเช่นทุกวัน ทว่าเวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมงก็ไร้วี่แวว

ฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อย ๆ ยกนาฬิกาข้อมือดูปรากฏว่าหกโมงครึ่งแล้ว เธอตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาลุงชัยคนขับรถ

"ลุงชัยอยู่ไหนแล้วคะ" กรอกเสียงลงตามสายทันทีที่ปลายสายกดรับ

(ขอโทษนะหนูดา หนูดาต้องกลับเองแล้วล่ะ ลุงถูกคุณศรัณย์สั่งไม่ให้ห้ามไปรับหนู ถ้าลุงขัดคำสั่งคุณศรัณย์จะไล่ออก)

"แล้วทำไมลุงไม่โทรมาบอกหนูสักคำล่ะคะ ปล่อยให้หนูรอจนมืด"

(คุณศรัณย์ไม่ให้โทร)

"เข้าใจแล้วค่ะ"

เธอเหยียดยิ้มออกมาราวกับตลกกับคำตอบจากลุงชัย แต่ไม่ใช่เลยมันเป็นรอยยิ้มของความเสียใจต่างหาก ไม่คิดว่าศรัณย์คนที่เธอมองว่าแสนดีมากจะใจร้ายกับเธอได้ถึงเพียงนี้

แค่เขาสั่งลุงชัยไม่ให้มารับก็ว่าใจร้ายแล้ว แต่นี่ไม่ให้โทรมาบอกด้วยปล่อยให้เธอยืนรอจนค่ำ หากเธอไม่โทรถามก็คงยืนรอโง่ ๆ ต่อไปจนดึกดื่น

เขาไม่คิดบางหรือว่าเธอเป็นผู้หญิงเดินทางกลับบ้านคนเดียวดึกดื่นอาจจะเกิดอันตรายได้ หรือคิดแต่ไม่สนใจขนาดใช้เธอเป็นของเดิมพันยังทำมาแล้วเลยนับประสาอะไรกับเรื่องแค่นี้

จากคนที่ใจดีที่สุดกับเธอในวันนั้นกลายเป็นคนที่ใจร้ายกับเธอที่สุดในวันนี้

น้ำสีใสพลันเออคลอดวงตาอย่างกลั้นไม่อยู่ แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาอ่อนแอ ขืนช้ากว่านี้รถโดยสารอาจจะหมดเธอคงได้เดินกลับบ้านแน่ ๆ รีบใช้มือเช็ดน้ำตาที่คลั่งในหน่วยออกพร้อมสูดลมหายใจเข้าปอดยาว ๆ

จากนั้นก็เดินออกไปรอรถหน้ามหาวิทยาลัย เหมือนโชคของเธอยังดีอยู่บ้างเพราะจู่ ๆ ก็มีรถเก๋งคันสีดำเคลื่อนมาจอดลงริมฟุตบาทตรงหน้าเธอ

จำได้ว่ารถคันนี้เป็นรถของพี่รหัสที่เรียนอยู่ปีสาม เขาเปิดประตูลงจากรถเดินตรงมาหาเธอ

"มืด ๆ ค่ำ ๆ ทำไมยังมายืนอยู่ตรงนี้ครับ เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวอันตรายนะ"

"กำลังรอรถเมล์กลับบ้านค่ะ" เธอระบายยิ้มอ่อน ๆ ให้รุ่นพี่หนุ่ม

"กว่ารถเมล์จะมาคงอีกนาน พี่ไปส่งดีกว่า" โจเสนอตัวเพราะรู้สึกเป็นห่วงรุ่นน้องสาว

"..."

"ถ้าน้องดาเกรงใจ งั้นไว้เลี้ยงข้าวพี่สักมื้อดีไหมครับถือเป็นค่ารถ" เมื่อเห็นรุ่นน้องสาวมีท่าทีเกรงใจจึงเสนอความคิดหวังว่าจะช่วยลดความเกรงอกเกรงใจของเธอได้บ้าง

เหมือนจะได้ผลคราวนี้รุ่นน้องสาวยิ้มออกแถมยังพยักหน้าตกลง

"ก็ได้ค่ะ"

"งั้นเชิญครับ" เขามองรุ่นน้องสาวอย่างเอ็นดู ก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับให้เธอเข้าไปนั่ง จากนั้นก็เดินอ้อมไปขึ้นประจำตำแหน่งคนขับ

"น้องบอกทางพี่ด้วยนะครับ" นี่เป็นการไปส่งรุ่นน้องสาวที่บ้านครั้งแรกเขาจึงต้องให้เธอช่วยบอกทาง

"ได้ค่ะ ยังไงก็ขอบคุณพี่โจมากนะคะ" ดาริกายิ้มรับ ก่อนจะเอ่ยขอบคุณไปด้วยความซาบซึ้ง ถ้าไม่มีรุ่นพี่หนุ่มไม่รู้ว่าจะได้กลับบ้านเมื่อไรพานทำให้นึกถึงคนใจร้าย

เขามันใจร้ายที่สุด...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel