EPISODE01 จุดเริ่มต้น
“ถึงแล้วครับคุณริกะ” คนรถบอกเมื่อรถจอดที่บ้านไร่อุ่นรัก ที่นี่ยังให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนเดิมเลยนะบ้านเกิดของรัก บ้านที่อยู่มาตั้งแต่เด็ก ๆ บ้านที่เรียกได้เต็มปากว่าบ้าน
“ไทน์จัดงานน่ารักดีนะคะ” มองดูรอบ ๆ ด้านนอกรถทำให้เห็นสถานที่ถูกจัดแต่งอย่างน่ารัก
“คุณยิ้มเป็นคนออกแบบงานเองครับ” คนรถพูดถึงเจ้าสาวของไทน์
“ยิ้มชอบของน่ารักตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว” ยิ้มหวานเป็นคนน่ารัก
แต่พี่ชายของยิ้มไม่หลงเหลืออะไรให้อยากรัก
หากจะถามหาจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่พังไม่เป็นท่ามันคงเริ่มที่วันนั้น… จุดเริ่มต้นของเรามันเกิดขึ้นวันนั้น วันที่ไทม์เดินเข้ามาบอกพ่อแม่ว่าทำผู้หญิงท้องต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน มันเป็นวันที่ฉันรู้สึกเสียใจที่สุดตั้งแต่เกิดมาเพราะไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำนั้นจากปากไทม์ ร่างกายของฉันชาวาบ คล้ายทุกอย่างหยุดนิ่ง หูดับชั่วขณะ ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้เลยว่าควรทำใจรับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้นยังไงดี ไม่รู้ว่าต้องวางตัวแบบไหน
คิดอะไรไม่ออก ตัดสินใจอะไรไม่ได้จึงออกมาดื่มที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งเพียงลำพังเพราะทนอยู่บ้านไม่ได้จริง ๆ
“ริกะ” เสียงของใครสักคนเอ่ยเรียกชื่ออยู่ใกล้ ๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นจึงได้เห็นเจ้าของเสียงทุ้ม
“มีไร” ฉันตอบกลับด้วยเสียงห้วน ไม่อยากจะพูดดีด้วยเลย เขามันคนบ้า เขามันชอบทำตัวนักเลง เป็นคนใจร้าย ไม่มีความอ่อนโยน ชอบทะเลาะต่อยตีกับไทม์ไทน์ ที่สำคัญชอบแกล้งฉัน ชอบล้อว่าฉันไม่มีพ่อมาตลอดตั้งแต่เล็กจนโต เมื่อแม่ฉันแต่งงานใหม่เขาก็ยังหาเรื่องล้อไม่จบไม่สิ้น พฤติกรรมของเขาทำให้ฉันไม่ชอบหน้า ฉันชอบเรียกเขาว่าไอ้บ้ายักษ์เพราะเขามันบ้าจริง ๆ นี่ก็เป็นบ้าอะไรไม่รู้ถึงได้มาทักฉันในเวลาแบบนี้ จะหาเรื่องล้อฉันอีกหรือไง “วันนี้ไม่มีอารมณ์จะกัดด้วย”
“ไม่ได้มาชวนกัด ดึกแล้ว เดี๋ยวไปส่งบ้าน”
“ฟ้าผ่าเถอะ ต้องการอะไรไม่ทราบ” เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาคนนี้จะหวังดีกับฉัน เราทั้งสองคนไม่เคยพูดดีด้วยกันสักครั้ง โตมาก็ไม่เคยจะคุยภาษาคนกันด้วย แล้ววันนี้จะมาพูดเหมือนห่วงใยมันไม่ใช่นิสัยของผู้ชายคนนี้
“เธอ”
“หมายถึงอะไร”
“ต้องการคนอยู่ข้าง ๆ ไหมล่ะ ปกติเธอไม่ได้จะดื่มคนเดียวนี่ ทุกทีเห็นมีไอ้แฝดตามประกบตลอด หวงอย่างกับลูก” เห็นไหมมันกำลังล้อฉัน มันตอกย้ำความเจ็บปวดฉัน หาว่าฉันเป็นหมาหัวเน่าไม่มีใครรัก ฉันบอกแล้วไอ้คนนี้มันคบไม่ได้
“ทำไม ดื่มคนเดียวมันผิดอะไร กินข้าวคนเดียวบ้างมันแปลกตรงไหน คนโตแล้วต้องรู้จักอยู่คนเดียวบ้างสิ มาทักฉันทำไมหรือว่านายอยากจะอยู่ด้วย อยากแกล้งฉันงั้นเหรอ” คงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์บวกความเสียใจ อารมณ์หงุดหงิด โมโห อยากท้าทายทำให้ฉันพูดอะไรแบบนี้ออกไป ซ้ำยังพูดกับคนที่ไม่ควรจะพูด ผู้ชายคนนี้น่าพูดด้วยที่ไหน ฉันเมาจนเพี้ยนแล้วแน่ ๆ
“ถ้าให้อยู่ก็ยินดีที่จะอยู่ เธออยากให้ฉันอยู่แกล้งเธอไหมริกะ” เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าฉันในระดับที่เรียกได้ว่าใกล้ชิด ตั้งแต่โตมานี่เป็นครั้งแรกที่เราใกล้กันขนาดนี้ ไม่ต้องไปนับวัยเด็กที่ตีกันเป็นว่าเล่น ตีกันแต่ละทีได้เลือดทุกครั้ง
“งั้นก็อยู่สิ อยู่ด้วยหน่อย คืนนี้ไม่อยากอยู่คนเดียว ไม่ชอบอยู่คนเดียวเลย” ฉันเอ่ยเสียงเศร้า จู่ ๆ อารมณ์ก็เปลี่ยน แค่คิดว่าอยู่คนเดียวจู่ ๆ ก็รู้สึกเศร้า ฉันอยู่คนเดียวในเวลาแบบนี้มันยากจริง ๆ ฉันไม่ชอบเลย ไม่อยากให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง ฉันอยากให้ทุกอย่างเหมือนเดิม อยากอยู่ที่เดิมที่มันเป็นพื้นที่ของฉัน
“ได้ดิ แต่ในฐานะอะไรดี” เขานั่งที่เก้าอี้ข้าง ๆ ฉัน สีหน้าเขาดูพอใจ ดูสนุกเหมือนวัยเด็กที่เราเล่นด้วยกันแล้วฝ่ายเขาได้เปรียบ
“อืม ไม่รู้สิ อยากเป็นอะไรก็ได้ทั้งนั้น แต่ขอไม่เป็นศัตรูสักพักนะ ตอนนี้ทะเลาะด้วยไม่ไหว”
“ด้วยความยินดี”
“โอเค ดีล” ฉันยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าของยักษ์ ถือว่าตกลงกันแล้ววันนี้เราจะไม่กัดกัน
“ครับ” ยักษ์ยกนิ้วก้อยขึ้นมาเกี่ยวก้อยสัญญา
“พูดเพราะก็น่ารักนะเนี่ย”
“แล้วลองรักดูไหม”
“...” ฉันจ้องใบหน้าคมเข้ม แววตาของเขากำลังท้าทายฉัน แล้วฉันต้องกลัวเหรอ ฉันไม่เคยกลัวเขาสักครั้ง พวกเราทะเลาะกันมาตลอดไม่มีใครยอมใคร ยักษ์เป็นผู้ชายตัวสูง พ่อเขาเป็นคนใต้ทำให้ได้ความคมเข้มมาจากพ่อ ไม่ใช่แค่ใบหน้าที่คมเข้ม สีผิวเองก็เช่นกัน ยักษ์น่าจะสูง 189 เซนติเมตร น้ำหนักฉันเดาว่า 75 กิโลกรัม ซึ่งขนาดของเขากับขนาดของฉันต่างกันมาก ฉันเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นที่ตัวเล็กนิดเดียว สูง 152 เซนติเมตร หนัก 40 กิโลกรัม ยืนข้างกันฉันเสียเปรียบตลอด ฉันตัวเล็ก เขาตัวใหญ่ ตอนเด็กยักษ์ตัวใหญ่ตัวอ้วนกว่าเพื่อนทุกคน พอโตมาเขาก็สูงกว่าคนอื่นและผอมลง
พูดความจริงไม่อคติเขาคือผู้ชายฮอตปรอทแตก เป็นคนที่มีผู้หญิงเข้าหาเยอะ แค่เขาหันไปผู้หญิงพร้อมพลีกาย ไม่ว่าจะแถวบ้านหรือที่มหาวิทยาลัย
