(7)ตาม
ตาม
(เธอจะได้รับผลที่ขัดคำสั่งฉัน และเธอจะต้องจำมันไปจนตาย!)คำพูดของเทมโปทำให้ฉันรู้สึกว่าหัวใจสั่น ๆ หวาดกลัวอยู่เหมือนกัน เพราะน้ำเสียงเขาดูจริงจังแฝงความโกรธอย่างที่ไม่เคยเป็น
"...."ฉันนิ่งไม่ได้ปริปากพูดอะไรออกไป
(เตรียมตัวไว้ล่ะกัน!)เสียงคำขู่จบลง เทมโปก็กดวางสายไป
ฉันจ้องไปที่หน้าจอโทรศัพท์พร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่อย่างเอือมระอากับคนที่มักจะเอาแต่ใจ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ออร์แกน ทำอะไรอยู่"นั่นเป็นเสียงแม่ฉันที่พูดขึ้นอยู่ที่หน้าประตูห้อง.
"แต่งตัวอยู่ค่ะ"ฉันขานกลับไปแต่ไม่ได้ไปเปิดประตูให้ท่าน
"เร็ว ๆ หน่อยนะพ่อกับแม่รออยู่"
"ค่ะ แกนจะรีบตามไป"พูดจบ ก็มีเสียงฝีเท้าบางเดินออกไป จากนั้นฉันก็รีบแต่งตัวทันที
พอออกมาจากลิฟต์ก็เห็นพ่อกับแม่รออยู่ที่ล็อบบี้ทั้งคู่เห็นฉันก็ลุกขึ้นจากโซฟา
"อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม"พ่อเอ่ยถามเมื่อฉันเดินมาถึง.
"อะไรก็ได้ค่ะ แล้วแต่พ่อกับแม่เลย"ฉันพูดพร้อมกับยิ้มหวานให้ท่าน จากนั้นพวกเราก็พากันออกมาจากโรงแรมมุ่งตรงไปยังร้านอาหารที่แถวชายหาด
พอมาถึงพนักงานก็พาฉันไปที่โต๊ะซึ่งบรรยากาศดีมาก ระหว่างที่ฉันกวาดสายตาไปรอบ ๆ ร้านก็ได้สบตากับชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเขาก็หันมาสบตากับฉันพอดี
"คุณ/คุณ"เราอุทานขึ้นเบา ๆพร้อมกับยกยิ้มให้กัน ก่อนที่ชายคนนั้นจะลุกจากเก้าอี้เดินมายังโต๊ะที่ฉันนั่งอยู่กับพ่อแม่
"สวัสดีครับ"สิ้นเสียงพ่อกับแม่ก็เงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยท่าทางสงสัยก่อนที่จะหันมาที่ฉัน
"นี่คุณภิสิงห์..."
"คุณออร์แกนเป็นคนช่วยผมไว้เราน่ะครับ"ยังไม่ทันได้พูดอะไรภิสิงห์ก็แทรกพูดขึ้นมาซะก่อน แต่ก็ไม่ได้ทำให้พ่อแม่หายสงสัย
"เชิญนั่งก่อนค่ะ"แม่เป็นคนเอ่ยชวน ภิสิงห์ก็นั่งลงข้าง ๆ ฉัน
"เรื่องมันเป็นยังไง ทำไมยัยแกนถึงไปช่วยคุณได้"พอภิสิงห์นั่งปุ๊บแม่ก็ถามขึ้นทันที
จากนั้นภิสิงห์ก็เล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้พ่อกับแม่ฟังโดยไม่ผิดเพี้ยน
"แบบนี้เองสินะ"พ่อฉันพึมพำเบา ๆ พอได้ยินหลังจากภิสิงห์เล่าจบ
"ผมขอถือโอกาสนี้เลี้ยงอาหารทุกคนนะครับ"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ ในขณะที่พ่อแม่และฉันต่างพากันมองหน้ากัน
"เอ่อ..."
"ถ้าจะบอกว่าเกรงใจ...ไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับถ้าคุณออร์แกนไม่ช่วยผมไว้ป่านนี้ผมอาจจะเป็นผีเฝ้าทะเลไปแล้ว"พอภิสิงห์พูดจบฉันก็คลี่ยิ้มเบา ๆ ก่อนที่จะพูดขึ้น
"เรียกแกนเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ เรียกคุณรู้สึกไม่ชินเลย แหะ ๆ"ฉันพูดขึ้นพร้อมกับเอามือเกาท้ายทอยด้วยความเขิน
"ทำงานทำการอะไรเหรอคะคุณ"คำถามของแม่ทำให้ฉันกับพ่อหันไปที่ท่านพร้อมกัน ทางพ่อก็มองแม่ด้วยสีหน้าดุนิดหน่อย.ฉันพอรับรู้ได้ว่าเป็นคำถามที่ไม่ควรถามสำหรับคนเพิ่งจะเจอกัน
"ผมทำงานที่บริษัท2Z"ภิสิงห์ตอบกลับแล้วล้วงไปในกระเป๋าหยิบนามบัตรมาให้พวกเรา พ่อแม่ลูกคนล่ะใบ
"บริษัทอสังหา?"ฉันพึมพำเบา ๆ เมื่อได้เห็นนามบัตรที่ภิสิงห์ยื่นให้
"ใช่ครับ มีปัญหาเรื่องบ้าน ที่ดินปรึกษาผมได้นะครับ"ต่างคนก็ผงกหัวรับ ฉันจ้องไปที่นามบัตรนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า ทางบ้านของเทมโปก็มีบริษัทเกี่ยวกับอสังหาเหมือนกัน แต่บริษัทนั้นค่อนข้างใหญ่โตและมีชื่อเสียงระดับหนึ่ง และที่สำคัญพ่อฉันก็ทำบริษัทนั้น ด้วยความช่วยเหลือจากเทมโป
"อืม"พ่อฉันขานรับสั้น ๆ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าท่านก็ทำงานบริษัทอสังหาเหมือนกัน
"คุณภิสิงห์เป็นลูกชายเจ้าของบริษัท?"ฉันพลั้งปากเอ่ยถามขึ้นเหมือนเห็นนามสกุลประธานกับรองประธานเป็นนามสกุลเดียวกัน
"ใช่ครับ..."เขาตอบกลับพร้อมคลี่ยิ้มบาง ๆ
"...เรียกพี่แทนคุณได้ไหมเหมือนกันกับที่แกนไม่อยากให้เรียก"
"เหอะ"ฉันกลั้วหัวเราะเบา ๆ แล้วพยักหน้าตอบ.
อาหารเริ่มทยอยมาเสิร์ฟ พวกเราก็ลงมือรับประทานอาหารกัน แต่ฉันสังเกตว่าพ่อมีท่าทางราวกับรอใครบางคนอยู่ ท่านมักจะมองไปยังรถยนต์ที่ขับเข้ามา
"พ่อมองหาใครหรือเปล่าคะ"
"เทมโปน่ะ เห็นบอกว่าจะตามมา"เคร๊งงง สิ้นเสียงคำพูดของพ่อ ฉันเกิดรู้สึกมือไม่อ่อนแรงขึ้นมาทันที ช้อนที่อยู่ในมือจึงร่วงหล่นกระทบจานเสียงดังทำให้คนในห้องต่างพากันมองมาที่ฉัน
"ขอโทษค่ะ"ฉันกล่าวออกไปพร้อมกับก้มหน้างุดหัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก
"นั่นไงเทมโปมาแล้ว"เคร๊งงง ช้อนในมือฉันร่วงหล่นเป็นครั้งที่สอง พร้อมกับหันหน้าไปมองตามพ่อก็เห็นรถคันหรูที่คุ้นเคยขับเข้ามาในลานจอดรถของร้านอาหาร ไม่นานชายหน้าที่มีใบหน้าหล่อเหลาแต่นิสัยชั่วร้ายเอาแต่ใจก็ลงจากรถแล้วเดินเข้ามาในร้าน
"เทมโปทางนี้"พ่อของฉันโบกมือเรียกเขาที่อยู่ไม่ไกล.เทมโปส่งสายตามาที่ฉันแล้วยกยิ้มมุมปากแต่ต้องชะงักนิดหน่อยเมื่อเห็นว่าฉันไม่ได้นั่งอยู่คนเดียว ซึ่งมีภิสิงห์นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาก้าวขายาวเดินเอามือล้วงกระเป๋ามาที่โต๊ะ
"ใครเหรอแกน"ภิสิงห์กระชิบเอ่ยถามเบา ๆ
"เอ่อ เพื่อนแกน.."
"สวัสดีครับ"ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ เทมโปก็เดินมาถึงแล้วยกมือสวัสดีทักทายพ่อกับแม่ฉันก่อนที่จะส่งสายตามาที่ฉันสลับไปจ้องหน้าภิสิงห์
"เชิญนั่ง ๆ"พ่อผายมือไปที่เก้าอี้หัวโต๊ะให้กับหลานชายเจ้านายของตนนั่ง
"ขอบคุณครับ..กำลังทานกันอยู่เหรอครับ"ปากหนาเอ่ยแต่สายตายังจ้องมาที่ฉัน
"เพิ่งจะเริ่มทานกันได้นิดหน่อย อยากทานอะไรเพิ่มไหม.."พ่อพูดจบก็กำลังจะกวักมือเรียกพนักงานเสิร์ฟ แต่เทมโปก็ห้ามไว้
"ไม่ครับผมทานที่อยู่บนโต๊ะได้"เขาพูดและยิ้มให้พ่ออย่างสุภาพ
"ออร์แกนตักข้าวให้เทมโปหน่อยสิ"นั้นเป็นคำสั่งของแม่ซึ่งบนหน้าเทมโปมีถ้วยจานช้อนวางอยู่แล้ว ฉันลอบหายใจเบา ๆ แล้วหยิบจานเปล่าตักข้าวให้เขา
"ลืมแนะนำเลย..."พ่อพูดขึ้นแล้วหันไปที่ภิสิงห์
"...นี่เทมโปเป็นเพื่อนออร์แกน และเป็นหลานชายเจ้านายน้าเอง"ว่าจบภิสิงห์ที่ยิ้มทักทายเทมโปตามมารยาทแต่ทว่าเขากลับทำหน้านิ่งแล้วหันไปทางอื่น
"เทมโปนี่คุณภิสิงห์เป็นลูกชายเจ้าของบริษัท.."
"ขอโทษครับผมไม่อยากรู้"เทมโปแทรกพูดขึ้นอย่างไม่มีทารยาท ทำให้พ่อดูหน้าเสียนิดหน่อย ฉันก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วส่ายหน้าแล้วหันไปพูดกับภิสิงห์
"แกนขอโทษแทนเทมโปด้วยนะคะ เขาก็เป็นคนแบบนี้แหละ"
"ไม่เป็นไร"ภิสิงห์ตอบกลับแล้วคลี่ยิ้มให้ พร้อมกับตักอาหารใส่ลงมาที่จากฉัน
"ลองทานนี่สิอร่อยนะ"
"ขอบคุณค่ะ"ฉันกล่าวก็ยิ้มหวานให้เขา หางตาเห็นว่าเทมโปทำหน้านิ่งมองมาที่ฉันอยู่ตลอด
