บท
ตั้งค่า

1(nuptang/ron)

Nuptang/Ron

"แม่เงินเราจะหมดแล้วนะ เจ้าหนี้ก็มาทวงทุกวี่ทุกวัน..เอยว่าแม่ต้องขายบ้านที่ดินของพ่อนังนับเอามาใช้หนี้แล้วเราก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศกันดีไหม"นับตังค์ยืนแอบฟังเอิงเอยคนเป็นลูกและแม่ของเธอกำลังพูดคุยกัน

"ขายบ้าน"หญิงสาวใบหน้าสวยพึมพำกับตัวเองแล้วกวาดสายตามองไปรอบ ๆ อย่างสลดใจ ถ้าแม่เลี้ยงขายบ้านแล้วเธอจะไปอยู่ไหนกันล่ะ

"ก็ดีเหมือนกัน แม่ก็ไม่อยากอยู่ที่นี่นักหรอก"

"ไม่นะ"หญิงสาวร่างเล็กตัดสินใจเดินออกมาจากที่ซ่อนแล้วเอ่ยคัดค้าน

"แกมีสิทธิ์อะไรมาห้ามไม่ให้แม่ฉันขายบ้าน..ลืมไปแล้วเหรอพ่อแกให้แม่ฉันเป็นเจ้าของบ้านและที่ดินทั้งหมด"เอิงเอยลูกติดแม่เลี้ยงยืนขึ้นท้าวเอวแล้วพูดกระชากเสียงใส่นับตังค์

"แต่บ้านหลังนี้เป็นของพ่อกับแม่นับนะ..."แล้วหันไปที่แม่เลี้ยงแล้วยกมือขึ้นพนม

"...น้าออยอย่าขายบ้านเลยนะนับขอล่ะ"แม่เลี้ยงลุกจากโซฟาแล้วใช้นิ้วชี้จิ้มที่หน้าผากหญิงสาวแรง ๆ

"แกไม่ต้องมาห้ามฉัน ยังไงฉันจะขายทั้งบ้านทั้งที่ดินทั้งหมด"นับตังค์ได้ฟังแบบนั้นก็น้ำตาคลอ

"ละ แล้วนับจะไปอยู่ที่ไหนล่ะคะ"เธอเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ

"นั้นมันก็เรื่องของแก...ไปกันเถอะยัยเอย"ว่าจบผู้เป็นแม่ก็หันไปพูดกับลูกสาวของตน

"น้าออย..."

"ถ้าฉันกลับมาแกยังทำงานบ้านไม่เสร็จโดนดีแน่"ยังไม่ทันที่นับตังค์จะได้เอ่ยอะไร ออยผู้เป็นแม่เลี้ยงก็แทรกพูดขึ้นด้วยคำสั่งก่อนจะเดินออกไปตามด้วยเอิงเอยผู้เป็นลูกสาว

Nubtang/Nipada

ฉันฟุบตัวนั่งลงที่พื้นพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้มหลังจากสองแม่ลูกออกจากบ้านไป ฉันรู้สึกเสียใจอย่างมากที่น้าออยยืนยันที่จะขายบ้านและที่ดินของพ่อกับแม่ที่ท่านช่วยสร้างกันมา

"พ่อ แม่"ฉันหยัดกายลุกขึ้นแล้วยกมือปาดน้ำตาลวก ๆ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้อง. พอเข้ามาด้านในฉันก็เดินไปยืนที่หน้ากรอบรูปพ่อแล้วแม่ก่อนที่จะหยิบมันขึ้นมากอดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน

แม่ของฉันเสียไปตอนที่ฉันยังเด็กอยู่เลย จากนั้นพ่อก็แต่งงานใหม่กับน้าออย ที่เป็นแม่หม้ายลูกติด แต่พ่อฉันก็รักและเอ็นดูพี่เอิงเอยเหมือนกับลูกคนหนึ่ง ช่วงแรกที่น้าออยกับพี่เอิงเอยย้ายมาอยู่ที่บ้านเรา เธอดีกับฉันมากและคิดว่าเธอคงจะรักฉันเหมือนลูกแท้ ๆ แต่พอนานไปกลับไม่เป็นแบบนั้น เธอได้แสดงฐานแท้รับบทแม่เลี้ยงใจร้ายเต็มตัว ต่อหน้าพ่อก็จะพูดดีและทำดีกับฉัน แต่หลับหลังจิกใช้ฉัน และยังด่าทอถึงแม่ฉันอีก แต่ฉันก็ยังทนเพื่อให้พ่อสบายใจ

ฉันต้องสูญเสียคนที่รักไปอีกหนึ่งคน เมื่อพ่อฉันประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต หัวใจฉันแทบจะหยุดหายใจ รู้สึกโดดเดียว อ้างว้าง เส้นทางมืดมนไปหมด แต่ยังไงฉันก็ต้องเข้มแข็ง มีชีวิตอยู่ต่อไป หลังจากงานศพพ่อฉันไม่ได้รับเงินช่วยเหลือที่เพื่อนพ่อให้เลย เพราะแม่เลี้ยงเอาไปหมด ขณะที่ฉันกำลังเรียนอยู่ก็ต้องดรอปออกมาทำงาน และยังต้องกลับมาทำงานบ้านทุกอย่างคนเดียวอีกด้วย ใจจริงฉันอยากจะหนีสองแม่ลูกไปให้ไกล แต่ทว่าก็เป็นห่วงบ้านหลังนี้ที่พ่อกับแม่ร่วมสร้างกันมา แต่ทว่าสุดท้ายแล้วฉันก็คงจะรักษามันไว้ไม่ได้

"นับจะทำยังไงดีล่ะ ฮือออ"ฉันยืนกอดกรอบรูปพ่อกับแม่ร้องไห้อยู่นานพอควรก่อนที่จะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาจึงวางกรอบรูปพ่อแม่ลงแล้วเดินมานั่งที่เก้าอี้ก่อนจะดึงลิ้นชักที่โต๊ะออกมา แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเก่า ๆ ออกมา

"นับอยากเจอรุ่นพี่ใจดีอีกจัง"สิ่งนี่เป็นที่ทำให้ฉันมีรอยยิ้มขึ้นมาและช่วยเติมพลังให้ฉันมีแรงสู้ต่อ

ย้อนกลับไปตอนที่ฉันเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้นซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนชื่อดัง มีอยู่วันหนึ่งฉันโดนกลุ่มรุ่นพี่ผู้หญิงมัธยมปลายรุมทำร้าย เนื่องจากหนึ่งในนั้นที่เป็นหัวหน้าแก็งค์เข้าใจผิดว่าฉันไปอ่อยแฟนของเขา ฉันถูกผลักจนล้มหัวเข่าแตกจนมีเลือดออก ขณะที่พวกรุ่นพี่กำลังจะเข้ามารุมทำร้าย

"ทำไรกัน"มีเสียงทุ้มดังเข้ามาทำให้กลุ่มรุ่นพี่ที่กำลังจะทำร้ายฉันต้องชะงักแล้วหันไปมองซึ่งเป็นนักเรียนชายมัธยมปลายที่มีใบหน้าหล่อคมคาย และสูงมาก

"....."พวกเธอพากับถอยออกจากฉันอย่างเกรงกลัวในขณะที่ชายร่างสูงเดินล้วงกระเป๋าเข้ามาจ้องหน้าพวกรุ่นพี่สาว

"หมาหมู่"แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งแล้วใช้ลิ้นกระพุ้งที่แก้ม

"เอ่อ..พวกเรา..."

"ไสหัวไป!"หัวหน้าแก็งค์ยังพูดไม่จบรุ่นพี่ผู้ชายก็ตวาดใส่ ก่อนที่พวกรุ่นพี่ผู้หญิงจะพากันรีบเดินหนีไป

รุ่นพี่ชายหนุ่มหันมาที่ฉันเขาย่อตัวลงแล้วมองที่เข่าฉันด้วยสีหน้านิ่งเรียบก่อนที่จะล้วงไปในกระเป๋าเสื้อคว้าผ้าเช็ดหน้ายื่นมาให้ฉัน

"...."เขาไม่พูดอะไรได้แต่มองหน้าฉันนิ่ง ๆ

"ขอบคุณค่ะ"ฉันรับมาแล้วบอกขอบคุณเขาก่อนจะคลี่ยิ้มหวานให้

"ปิดเลือดไว้"ฉันทำตามที่เขาบอก

"เดินไหวไหม"ฉันผงกหัวหงึก ๆ แล้วพยายามจะหยัดกายลุกขึ้น แต่ทว่าเข่าฉันมันตึงมาก จึงลุกค่อยข้างลำบาก จนทำให้รุ่นพี่ชายหนุ่มมีสีหน้าหงุดหงิด ก่อนที่จะหันหลังแล้วย่อตัวลง

"ขึ้นมา"ฉันตกใจเล็กน้อยที่รุ่นพี่ชายจะให้ฉันขี่หลัง

"เอ่อ..."

"ขึ้นมา!"เขาตวาดใส่ด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์

"ค่ะ ค่ะ"ฉันตอบรับแล้วขึ้นหลังเขาตามสั่ง ฉันรู้สึกเขินอายมาก ๆ เมื่อได้อยู่บนตัวชายหนุ่มหล่อ ฉันได้กลิ่นกายหอม ๆ ของเขามาแตะที่จมูกจนทำให้ใบหน้าเห่อร้อนหัวใจเต้นแรงจนผิดจังหวะ

รุ่นพี่คนนั้นมาฉันมายังห้องพยาบาล ก่อนที่จะพาฉันให้พยาบาลที่อยู่ทำแผล พอทำแผลเรียบร้อยฉันออกมาก็ไม่เจอรุ่นพี่คนนั้นแล้ว

"เฮ้อ ลืมถามชื่อเลย"ฉันพึมพำแล้วก้มมองผ้าเช็ดหน้าของเขาที่อยู่ในมือ

หลังจากนั้น น้าออยเสนอกับพ่อให้ฉันย้ายโรงเรียนเพราะที่ฉันเรียนอยู่ค่าเทอมแพง พ่อได้มาถามความสมัครใจฉัน และแน่นอนฉันก็ตอบตกลง. จากนั้นก็ไม่ได้เจอรุ่นพี่ใจดีคนนั้นอีกเลย

.

.

.

Ron/Ronnakorn

บ่อน

"คุณรณครับ มีลูกหนี้เอาลูกสาวมาขัดดอกอีกแล้วครับ"ทัชมือหนาคนสนิทเดินเข้ามาแล้วพูดขึ้น ผมยกยิ้มมุมปาก

"พาไปรอที่ห้อง แล้วออกไปได้ล่ะกูจะทำงานต่อ"

"เอ่อ..มีอีกเรื่อง"ผมเงยหน้ามองสีหน้านิ่ง.

"เรื่องที่ดินที่จะซื้อมาขยายบ่อน..มีมาเสนอขายกันหลายเจ้าเลยคุณรณสะดวก..."

"อาทิตย์หน้า"ผมตอบกลับไปทันที

"ครับ"ทัชผงกหัวเล็กน้อยแล้วเดินออกไป ผมก็ทำเอกสารบนโต๊ะต่อ ครืนนน ครืนนน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นผมจึงหยุดชะงักแล้วใช้มองไปที่หน้าจอด้วยสายตาราบเรียบก่อนจะคว้ามันขึ้นมากดรับ

"มีไร"

(มาดื่มเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ)นั้นเป็นเสียงทอยพี่ชายต่างมารดา

"ไม่ว่าง"ผมปฏิเสธไปสั้น ๆ

(มีของกินอยู่แล้วนะสิ....พี่รณมีเผื่อผมไหม)ประโยคท้ายเป็นเสียงไอ้เทมโปน้องชายผม

"ไม่มี"

(โห อะไรว่ะแบ่งน้องบ้างก็ไม่ได้)ไอ้เทมคงแย่งโทรศัพท์ทอยมาคุยเอง.

"หึ"ผมแค่นเสียงหัวเราะกลับไป

(ไม่ต้องมาหัวเราะเลย รู้งี้ขอพ่อมาคุมบ่อนดีกว่า น่าจะมีของกินมากกว่าที่ผับ)น้องชายตัวแสบผมยังบ่นไม่เลิก พ่อทอร์ชแบ่งหน้าที่ให้พวกผมกันดูแล ทอย พี่ชายคนโตมันได้ไปเป็นรองประธานบริษัทของครอบครัว ซึ่งมีลุงเหนือเป็นประธานบริษัท

ลุงเหนือมีลูกสองคน'บีน่า' เป็นลูกสาวคนโตคนเล็กเป็นผู้ชายชื่อ 'เจ้าคุณ' ซึ่งตอนนี้น้าจาร์ส่งไปเรียนเมืองนอก ไอ้เทมโป น้องชายคนเล็กที่ยังเรียนไม่จบแต่พ่อให้มันมาช่วยดูแลผับ ส่วนผมได้มาคุมบ่อน และก็กำลังจะขยายให้เป็นคาสิโน

"กูจะทำงาน แค่นี้"สิ้นเสียงผมก็กดวางสายทันที แล้วก้มหน้าก้มตาตรวจเอกสารต่อ

_______________

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel