กุหลาบในเพลิงรัก

145.0K · จบแล้ว
พิมพ์ชนก
59
บท
2.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ชีวิตเหมือนถูกสาปให้อยู่กับความรักที่ต้องเลือก และหัวใจเธอก็ไม่สามารถเลือกอย่างถูกต้องได้ ชล เย็นเป็นน้ำชาร์ล ร้อนเป็นไฟโรสสราควรจะเลือกใครที่ดีต่อหัวใจ เพียงแค่หนึ่งเดียว

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบัน

ตอน 1

เมื่อดอกไม้ผลิบานส่งสัญญาณเริ่มต้นชีวิตใหม่ดั่งเช่นหญิงสาวผู้งดงามอ่อนช้อย ทั้งรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณผุดผาด นามโรสสรา จรุงจิต เจ้าของร้านดอกไม้เลื่องชื่อย่านแหล่งธุรกิจชั้นนำบนถนนเส้นหลักแหล่งรวมเศรษฐกิจ ร้านโรสเดลี่ ฟลาวเวอร์ หญิงสาวจึงมักคิดเสมอว่าชีวิตเธอเริ่มใหม่ได้ทุกวัน ด้วยกิจวัตรประจำวันของสาวสวยผู้มีชีวิตรายล้อมไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ คือการเนรมิตให้เหล่าบุบผาชาติได้มีชีวิตชีวาเพื่อต้อนรับวันใหม่ในทุกวัน

แต่นั่นไม่ใช่วิถีที่ตั้งใจเรียนมาตั้งแต่แรกเริ่ม ทั้งหมดคือบิดาต้นคิดท่านดำรงยศทหารชั้นนายพลได้ยัดอาชีพนี้ให้เธอต่างหาก เพียงเพราะท่านให้เหตุผลเพื่อลดทอนอารมณ์รุนแรงใจนักเลงของเธอลงให้เหลือสักครึ่งย่อมดีกว่าปล่อยตามใจ ทั้งที่เสียดายอาชีพที่เคยทำหลังจากเรียนจบสถาปัตยกรรม

“ลาออกจากสถาปนิกซะโรสเชื่อแม่” พนิตนันท์ จรุงจิต มารดาผู้เป็นห่วงบุตรสาวห้าวหาญไปต่อกรกับชายชาตรีเช่นเพื่อนร่วมงานเมื่อสัปดาห์ก่อน

โรสสรากลับมาที่บ้านหลังเลิกงานในเย็นวันหนึ่ง ร่างอรชรที่ไม่ว่าผู้ใดพบเห็นย่อมเห็นต้องกัน โรสสราอ่อนช้อยงดงามไร้ที่ติ ร่างบอบบางกระแทกก้นลงนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นภายในบ้าน อันรายล้อมไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น ท่านนายพลโปรดปรานความร่มรื่นจึงสั่งให้นายทหารรับใช้ตกแต่งสวนให้ร่มรื่นสวยงามโดยท่านเป็นผู้ไปหาซื้อต้นไม้พร้อมคุณหญิงพนิตนันท์ ภรรยาคู่ใจผู้งามสง่าไม่เคยเปลี่ยนด้วยตัวเอง

“ว่ายังไงยังลังเลอยู่ทำไมล่ะโรส” คุณหญิงเอ่ยขึ้นอีกคราเพื่อหว่านล้อมให้บุตรสาวเชื่อในสิ่งที่ท่านนายพลผู้เป็นสามีเสนอทางออกอันดีให้กับโรสสรา

“ขอคิดดูก่อนได้ไหมคะแม่” โรสสราขอทบทวนตัวเองกับบิดาและมารดาสักครู่ใหญ่ด้วยเสียดายความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาเพราะใจรักจริงๆ ความฝันที่เธอจะได้อยู่เหนือผู้ชายร่างล่ำๆแมนๆ บัดนี้ความฝันได้ดำเนินมาสักระยะแต่สักระยะก็มักวิวาทกับผู้ชายมักดูถูกเธออยู่ร่ำไป นี่ไม่ใช่ยุคพระเจ้าเหาที่ผู้หญิงโดนกดขี่ทางเพศอีกต่อไป

“แม่ว่าดีทุกอย่างนะโรส” คุณหญิงพยายามชักแม่น้ำทั้งห้าตั้งแต่สามีอธิบายเหตุผลในการให้โรสลาออกจากงานประจำแล้วให้เปิดร้านดอกไม้

“โรสเสียดายความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาน่ะค่ะแม่” หญิงสาวสารภาพกับมารดาด้วยใบหน้าหมองเศร้า

“บางทีคนเรางานการที่มันไม่เหมาะกับตัวเรา เราย่อมเลือกหนทางอื่นได้นี่จ๊ะ” คุณหญิงไม่อยากเลยที่ต้องเห็นบุตรสาวไปมีเรื่องชกต่อยกับผู้ชายเพื่อนร่วมงาน บางครั้งถึงกับลาออกส่วนในครั้งนี้ถึงกับโดนพักงาน ซึ่งไม่ดีจริงๆประวัติการทำงานคงไม่สวยหากองค์กรอื่นรู้ประวัติ

“แค่โรสไปชกไอ้หน้าตัวเมียชอบดูถูกเพศหญิงหรือคะไม่เหมาะ” สมควรโดนแล้วกับปากมอมแบบนั้น ชอบคิดว่าตัวเองอยู่เหนือผู้หญิงหรืออย่างไรลองทำงานแข่งกันหน่อยเป็นไร

“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โรสไปมีเรื่องกับเพื่อนร่วมงาน...เอ่อที่เป็นผู้ชาย” มารดาก็ไม่อยากปรักปรำบุตรสาว มักทำเกินกว่าเหตุไม่ค่อยควบคุมอารมณ์แต่ถ้าใครไม่อยู่ในเหตุการณ์คงไม่เข้าใจสถาการของโรสสรา

“มันสมควรแล้วไอ้หน้าหม้อนั่นน่ะ” หญิงสาวปั้นปึงเมื่อนึกถึงหน้าหื่นๆของภูริ

“แล้วเป็นไงผลคือโดนพักงานทั้งคู่” มารดาตอกย้ำเพื่อให้บุตรสาวเพียงคนเดียวเลิกทำงานที่ตัวเองรัก แล้วเชื่อฟังในสิ่งที่บิดาเสนอนั่นคือทำร้านดอกไม้ ท่านนายพลมีกลอุบายที่คุณหญิงยังตามไม่ทัน แต่เมื่อฟังสามีอธิบายคุณหญิงถึงกับยอมรับและเห็นดีด้วยจึงพยายามกล่อมบุตรสาว

เมื่อสัปดาห์ก่อนในตอนพร้อมหน้าเข้าร่วมประชุมสถาปนิก ทุกท่านต่างได้รับมอบหมายให้ดูแลโครงการใหญ่ โรสสราคือหนึ่งในทีมสถาปนิกทั้งหมดห้าคนสี่คนชายล้วนรูปร่างบึกบึนทะมัดทะแมง มีเพียงโรสสราคือหนึ่งหญิงในกลุ่มชายล้วนได้ถูกวางตัวให้เข้าร่วมในโครงการใหญ่นั้น และโรสสรายังได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของบริษัท คือคุณแม็ก เกร็นนีย์ เจ้าของบริษัท รับออกแบบรับเหมา กิจการงานด้านอสังหาริมทรัพย์ทั่วราชอาณาจักร ในนาม โซไซตี้ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด มหาชน โรสสราหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่หัวหน้าคุมทีมงานใหญ่ทั้งทีม ทั้งต้องออกแบบงานโครงสร้างรวมทั้งควบคุมขั้นตอนการก่อสร้างอีกด้วย

ขณะที่ผู้ชายต้องกลายเป็นผู้ตามหลังหญิงสาวร่างบอบบางอ้อนแอ้นแถมความสวยความพราวเสน่ห์จัดได้ว่ากระชากใจผู้ชายทั่วหล้า แล้วอย่างนี้จะมีอำนาจอะไรสามารถควบคุมผู้ชายตัวใหญ่โตกว่าได้ สถาปนิกหนุ่มรายหนึ่งชื่อภูริ รู้สึกติดใจรูปร่างหน้าตาดุจนางฟ้า แต่ดันมาทำงานบุกบั่นเช่นชายไม่เหมาะกันเลยสักนิด

“โรสผมว่า...” แล้วภูริเดินวนรอบกายอรชรเย้ายวน พลางสำรวจร่างบางในชุดทะมัดทะแมงไม่วางตา โรสสรามองตามร่างสูงสมส่วนในชุดหนุ่มทำงานเสื้อเชิ้ตสีเข้มตัดกับสีผิวขาวสะอาดเช่นหนุ่มลูกครึ่งไทยจีนทั่วๆไป ด้วยไม่เข้าใจคำพูดที่ค้างๆคาๆจากปากหนาคู่นั้น ภูริจัดเป็นผู้ชายหน้าตาดี แต่ไม่ใช่ชายในฝันของโรสสรา เขาจึงไม่อยู่ในสายตาเธอเลยสักนิด

“หยุดเดินเถอะฉันเวียนหัวมีอะไรก็ว่ามา” วาจาดุดันหากว่าไม่ก้าวร้าว แต่จะก้าวร้าวหากภูริไม่ยอมหยุดสำรวจร่างเธอด้วยสายตาแปลกประหลาดซะที

“ผมว่าคุณไม่เหมาะกับอาชีพนี้” ภูริเอ่ยออกมาตรงๆ หากสายตายังคงลามเลียไปทั่วร่างอรชรภายใต้ชุดทะมัดทะแมงในสไตล์ที่โรสสรามักสวมใส่ เพราะงานอย่างเธอจะให้สวมเดรสไปตรวจงานกลางแจ้งคงไม่เหมาะเสื้อเชิ้ตกับกางเกงขายาวคงเหมาะกว่า

“คุณเอาอะไรมาวัดว่าเหมาะไม่เหมาะ” หญิงสาวผู้สวยสะคราญแฝงความห้าวหาญไว้ในอุปนิสัยเฉพาะตัวเข้าสู้โหมดระงับอารมณ์กรุ่นสุดกำลัง รับรองภูริให้เหตุผลไม่ถูกต้องเธอได้วาดลวดลายขย้ำผู้ชายหน้าไม่อายคนนี้แน่ๆ

“งานนี้มันเหมาะกับผู้ชายคุณไม่รู้หรือโรส” ภูริเอ่ยขึ้นพลางเชิดหน้าสาวร่างงามงอนเช่นโรสสราเหมาะกับสิ่งเดียวในความคิดของภูริคือเป็นเมียไม่ควรเป็นผู้นำในเรื่องการงานนอกบ้านงานในบ้านเหมาะสมที่สุด

“มีกฎหมายมมาตราไหนระบุไว้ผู้หญิงควรประกอบอาชีพอะไรและไม่ควรประกอบอาชีพอะไร” เธอย้อนได้เจ็บลึกทีเดียวแต่ทว่าคนดื้อด้านอย่างภูริมีหรือยอมจำนน

“ไม่มีกฎหมายแต่เป็นกฎกะเกณฑ์จากความรู้สึกของผู้ชายอันพึงมีต่อผู้หญิงสวยงามอย่างคุณนะโรสยอมรับเถอะคุณมันไม่เหมาะเลยกับงานกลางแจ้งแบบนี้ ดูซิผิวเสียหมด” ภูริยื่นมือไปคว้าเรียวแขนภายใต้เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวพอดีตัวเข้ากับรูปร่างอรชร โรสสราไม่ฝืนปล่อยให้คนไร้ความคิดได้กระทำตามใจ

“ความรู้สึกของใคร” เธอย้อนถามด้วยไม่เกรงวาจาผู้ชายชอบดูถูกผู้หญิงเช่นภูริ ทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับภูริ เขามักจะส่งสายตาลามเลียทั่วเรือนร่างของโรสสรา สิ่งนี้เธอไม่ชอบเป็นทุนยิ่งได้มาฟังประโยคดูถูกดูแคลนอารมณ์เดือดที่กักเก็บไว้จวนระเบิดออกมาหากไม่ท่องขันติไว้ในใจ

“ของผมและเพื่อนๆสถาปนิกผู้ชายด้วยกันกับผมยกเว้นคุณนี่ไง” ว่าพลางภูริหันไปขอความเห็นจากแนวร่วมทั้งที่เขาคิดขึ้นมาเองทั้งหมด พวกนั้นถอยหลังไปด้านหลังหนึ่งก้าวพร้อมๆกันไม่เกรงภูริจะเคืองแต่อย่างใด พวกเขาไม่เคยดูถูกความสามารถของโรสสราเลยสักนิด หนำซ้ำเวลาเห็นโรสสราสั่งโน่นสั่งนี่พวกเขามีความสุขซะอีก หากขาดโรสสราไปสีสันส่วนนี้คงขาดหาย

“อ้อ...ความเห็นส่วนตัว” ฉะนั้นโรสสราไม่ควรฟังหมอนี่สินะ เธอคิดว่าตัวเองแน่พอถึงได้ร่วมงานกับทางโซไซตี้ พร็อพเพอร์ตี้ เธอเข้ามาร่วมกับองค์กรนี้เมื่อตอนอายุ 23 หลังจากต้องออกจากบริษัทแรกที่เข้าไปทำงานในตำแหน่งสถาปนิกฝึกหัด เกิดเหตุสุดวิสัยบางอย่างให้เธอต้องจากที่นั่นมาเพราะผู้ชายชอบเอาเปรียบผู้หญิงไม่ต่างจากภูริเช่นในเวลานี้ ห้าปีแล้วสำหรับการร่วมงานกับโซไซตี้ บางทีการที่เธอก้าวข้ามขึ้นมาเป็นหัวหน้าหากมองเผินๆอาจมาจากบารมีบิดาทว่าจริงๆเธอนั้นเป็นคนมีนิสัยมุ่งมั่นในการทำงานแม้บิดามาดหมายจะให้รับราชการทหารอย่างท่านหากแต่เธอไม่ค่อยชอบงานราชการนักจึงเบนเข็มมาเรียนด้านสถาปัตยกรรมการออกแบบ

การมุ่งมั่นเพื่อให้บิดาเห็นว่าเธอสามารถทำงานของผู้ชายได้อย่างไม่ต้องสงสัยเธอจึงมุ่งมานะสร้างผลงานให้เจ้านายอย่างแม็กส์ได้ประจักษ์กระทั่งวางใจให้ขึ้นมาคุมงานใหญ่ร่วมกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้ชายทั้งหมด เธอไม่เคยหยิ่งผยอง หรือยกตนข่มท่านมีเพียงภูริที่พยายามแขวะเธอได้ทุกครั้งที่เจอหน้า เธอนั้นพยายามเลี่ยงเสียเกรงต้องตบะแตกกับนิสัยชอบดูถูกผู้หญิงเห็นผู้หญิงเป็นแค่เครื่องระบายอารมณ์ การมีเรื่องกับเพื่อนร่วมงานในบริษัทดูไม่ดี เพราะย่อมส่งผลไม่ดีต่อการทำงานโดยตรง สุดท้ายโรสสราไม่อาจเลี่ยงได้วันนี้ได้เดินทางมาถึง

“เอางี้ ผมหาทางออกให้โรสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” เขาเสนอพร้อมต้องการงัดความคิดของตัวเองที่มีต่อโรสสราออกมาเผยให้เธอได้รู้

“อะไร” เธอแสร้งถามทั้งที่ไม่อยากรู้สักนิดไอ้หน้าตี๋หล่อจัดขาวผ่องคนนี้จะเสนออะไรเพื่อเธอ

“มาเป็นแฟนกับผมรับรองผมจะไม่ให้คุณทำงาน จะให้อยู่บ้านสบายๆเป็นแม่ของลูก และ...” เขาทิ้งจังหวะทั้งส่งสายตาจ้องมองโรสสราราวกับจะกลืนกินเธอทั้งร่าง ร่างที่เขาเฝ้ามองวาดฝันอยากให้มานอนคร่ำครวญใต้ร่างของเขาตั้งแต่พบในวินาทีแรกเมื่อเธอได้ก้าวเข้ามาทำงานในตำแหน่งสถาปนิกจูเนียร์

“และอะไร” อยากรู้นักประโยคที่เว้นวรรคไว้พร้อมๆกับสายตาท่าทียียวนจากภูริหมายถึงอะไร ถ้าให้เดาคงไม่พ้นเรื่องให้เธอเป็นแฟนของหมอนี่ คนอย่างภูริจะคิดอะไรได้นอกจากกดผู้หญิงให้อยู่ใต้ร่างของตัวเอง

“เมียที่เร่าร้อนบนเตียงที่บ้านผม” ภูริเผยธาตุแท้โดยนิสัยออกมาต่อหน้าโรสสราเขากระซิบแผ่วชิดริมหูหญิงสาว เธอถดกายหนี ทว่ายังได้ยินประโยคนั้นแจ่มชัดโทสะที่พยายามระงับไว้กำลังสิ้นสุดแนวกรอบของมันเตรียมระเบิดอย่างที่สุดจะทานทน

“งั้นหรือ” โรสสราสะกดกั้นอารมณ์เดือดไว้จวนจะล้นแก้วทว่าการสะกดกั้นได้สิ้นสุดลงเมื่อมือเล็กเนียนสวยข้างตัวบีบเข้าหากัดจนแน่นดวงตาไม่แสดงความโกรธเกรี้ยวแม้แต่อย่างใดหากว่า...