บทที่5
ใบหน้าสวยดูโฉบเฉี่ยวมีเสน่ห์อันเย้ายวนของโรสรินตกเป็นเป้าสายตา เธอมีเสน่ห์สามารถดึงดูดเพศตรงข้ามได้จนทำให้ใครบางคนที่ยืนแอบมองอยู่เริ่มรู้สึกไม่พอใจเมื่อมีสายตาของผู้ชายจ้องมองมายังเธอ
ร่างสวยของหญิงสาวสวมรองเท้าส้นสูงก้าวขาเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ดวงตากลมโตมองเห็นป้ายห้องน้ำที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวขาไปถึงก็มีแรงกระชากตรงข้อแขนทำให้ร่างสวยของเธอเซถลาไปตามแรงดึง
พรึ่บ
"อื้อ"
"อย่าเสียงดังสิครับ มีคนเดินตามคุณมา"เสียงอ่อนทุ้มฟังดูนุ่มนวลดังขึ้นในขณะที่ฝ่ามือใหญ่ของผู้ชายตรงหน้ากดปิดริมฝีปากของเธอไม่ให้เปล่งเสียงออกมา
ดวงตากลมโตของโรสรินเงยจ้องมองเจ้าของน้ำเสียงนั้น พลันทำให้เธอใจเต้นสั่นขึ้นมาเพราะผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า คือเขาคนนั้นเจ้าของสายตาที่จ้องมองเธออยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ที่เธอเดินทางมาถึงคลับแห่งนี้
'หายไปไหนแล้ววะ'เสียงเข้มซึ่งดังแว่วมาทำให้โรสรินชะงัก เธอหันไปมองยังต้นตอของเสียงก็เห็นร่างสูงใหญ่ของอดีตคนรักอย่างอภาคภูมิซึ่งกำลังยืนหัวเสียอยู่ไม่ไกลราวกับว่าเขามองหาอะไรบางสิ่งบางอย่างไม่เจอ
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ของอดีตชายคนรักเดินออกไปทำให้โรสรินได้สติหมายจะดันตัวออกห่างจากกายของผู้ชายตรงหน้า แต่ทว่าท่อนแขนใหญ่ของเขาออกแรงโอบเอวบางของเธอเอาไว้ แม้จะอยู่ในสภาวะตกใจแต่โรสรินกลับไม่ปริปากร้องขอให้เขาปล่อยเธอ
"ไม่ร้อนเหรอคะ กอดซะแน่นเชียว"เธอเอ่ยปากถามเพราะรู้ดีว่าพยายามหนีก็คงไร้ประโยชน์ที่จะทำ และอีกอย่างเธอเองก็สนใจในตัวของผู้ชายคนนี้อยู่เหมือนกัน
"ผมไม่ร้อนหรอกครับ แล้วคุณล่ะร้อนไหมที่ถูกผมกอดอยู่แบบนี้"
"ไม่รู้สิคะ ตอนนี้ฉันยังรู้สึกหนาว แต่ถ้าหากคุณเอาแต่กอดไม่ยอมปล่อยอยู่แบบนี้ล่ะก็ ฉันก็อาจจะร้อนขึ้นมาก็ได้"หญิงสาวยื่นใบหน้าสวยดูดีมีเสน่ห์ของตัวเองเข้าไปใกล้ในขณะยื่นฝ่ามือเรียวสวยไปวางไว้บนไหล่หนาไล่ต่ำลงมาจนถึงแผงอกใหญ่ตรงบริเวณด้านซ้ายซึ่งอยู่ใกล้กับต่ำแห่งของหัวใจ
"แต่จะว่าไป อยู่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะคะ อุ่นดี"
"อยากอุ่นกว่านี้ไหมล่ะครับ ผมจัดให้ได้นะ"ชายหนุ่มยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้จนปลายจมูกของเขาและเธอแตะชิดกัน
"เจอกันยังไม่ทันถึงสิบนาทีเลยนะคะ และเราสองคนเองก็ยังไม่รู้จักชื่อกันเลยจะรีบไปไหนล่ะคะ"เธอเงยหน้าใช้สายตาจ้องมองเขาอย่างท้าทาย
"ผม ภัคพงศ์ หรือจะเรียก ภัค เฉย ๆ ก็ได้ครับถ้าคุณไม่รังเกียจ"
"ภัคพงศ์ ชื่อเรียกยากจัง"เสียงหวานดังออกมาจากริมฝีปากสวยหญิงสาว เธอเอียงหน้ามองเขาราวกับเด็กน้อยผู้ใสซื่อในขณะที่เธอค่อย ๆ ยื่นเรียวแขนขึ้นมาคล้องลำคอหนาของเขาเอาไว้
"ขอเรียก'ที่รัก'แทนจะได้ไหมคะ ง่ายดี"
"ได้สิครับ สำหรับคุณอะไรก็ได้"ชายหนุ่มยิ้มรับ ใบหน้าหล่อไร้ที่ติยื่นเข้าไปใกล้จนริมฝีปากของทั้งสองใกล้ชิดกัน
"จะเรียก ที่รัก หรืออะไรก็ได้ตามที่ใจของคุณต้องการเลยครับ"
"ปากหวานจังเลยนะคะ"โรสรินคลี่ยิ้มบาง ๆ ออกมา มองปราดเดียวก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้ร้ายไม่เบา
เขารุกเธออย่างมีชั้นเชิง ไม่บุ่มบ่ามทำให้เหยื่อตกใจในขณะที่ยังมีท่อนแขนโอบเอวของเธอเอาไว้ไม่ให้ตีตัวออกห่างไปไหนได้
หล่อ ดูดี มีไหวพริบ แบบนี้สิค่อยน่าเล่นสนุกด้วยกันหน่อย
"เคยชิมแล้วเหรอครับถึงรู้ว่าปากผมหวาน"
"ยังไม่เคยเลยค่ะ แต่ก็คิดว่าคงจะได้ชิมภายอีกในไม่ช้านี้แน่นอน"หญิงสาวดึงฝ่ามือออกมาจากลำคอหนามาแนบสัมผัสกับใบหน้าของเขา ทำเอาชายหนุ่มรู้สึกวูบวาบยามเมื่อปลายนิ้วเรียวสวยของเธอแตะลงบนริมฝีปากสีสดของเขาอย่าแผ่วเบา
"ริมฝีปากของคุณดูดีเป็นธรรมชาติจัง สีสดเหมือนกับลูกพีชเลยนะคะ"เธอพึมพำพูดออกมาตามความคิดของตัวเองในขณะที่สายตายังคงจ้องมองริมฝีปากของภัคพงศ์
"อยากลองชมดูไหมล่ะครับ รับรองว่าหวาน อืม"เสียงครางในลำคอดังขึ้นทันทีเมื่อภัคพงศ์พูดจบ
ริมฝีปากสีหวานของหญิงสาวประทับรอยจูบอันหวานล้ำลงบนริมฝีปากของเขาอย่างอ้อยอิ่ง นั่นคือสิ่งที่ภัคพงศ์ไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำ
ความหวานล้ำเริ่มแทรกซึมเข้ามา ทั้งสองหลับตาถ่ายทอดความหอมหวานผ่านริมฝีปากไปให้ต่างฝ่าย
"อื้อ"เสียงครางด้วยความพึงพอใจดังขึ้น รสชาติจูบจากริมฝีปากของเธอยิ่งปลุกอารมณ์ปรารถนาในกายของเขาให้พุ่งสูงมากยิ่งขึ้น
ความพึงพอใจในการตอบสนองจากเธอภัคพงศ์เต็มสิบ เธอรู้จักวิธีตั้งรับและหลอกล่อรุกสู่ให้เขาคล้อยตามอย่างมีชั้นเชิง
ยิ่งได้สัมผัส ยิ่งได้ดื่มด่ำมันยิ่งยากต่อการถอนตัว
ฝ่ามือใหญ่เคลื่อนต่ำลงไปลูบไล้เอวบาง ในขณะที่ฝ่ามือเรียวสวยของหญิงสาวทำหน้าที่ค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำตัวหนา นานกี่นาทีแล้วนะที่พวกเขาใช้เวลายืนกอดรัดกันอยู่ในซอกแคบ ๆ ตรงนี้
"อืม ที่รักคะ พอก่อนค่ะ"โรสรินถอนริมฝีปากออกมาด้วยความเสียดายเมื่อฝ่ามือของชายหนุ่มเริ่มสอดเข้าไปในเสื้อลูกไม้สายเดียวของเธอเพื่อหวังกอบกุมทรวงอกใหญ่
"ทำไมล่ะครับ หรือว่าคุณไม่อยากไปต่อ"
"เปล่าค่ะ แต่มันต้องไม่ใช่ที่นี่"ภัคพงศ์เหมือนจะคิดได้ ซอกแคบแทบจะไม่มีช่องให้ได้ระบายหายใจในสถานที่แบบนี้มันคงไม่เหมาะที่จะทำเรื่องอย่างว่า
"ถ้าอย่างนั้นเราไปดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ ที่ห้องของผมดีกว่านะครับ"
"เครื่องดื่มอุ่น ๆ ที่ว่า คืออะไรเหรอคะ"โรสรินฉีกยิ้มหวานเอียงศีรษะถามดูช่างน่ารัก ทำเอาภัคพงศ์หลุดหัวเราะยิ้มออกมากับความน่ารักของเธอ
"ถ้าคุณอยากรู้ก็ต้องไปดูที่ห้องของผมนะครับ"
พรึ่บ
"อ้าว จะกลับแล้วเหรอ"ปัทมาเอ่ยถามเมื่อเห็นเพื่อนสาวเดินกลับมายังโต๊ะก่อนจะหยิบกระเป๋าใบสวยขึ้นสะพายไหล่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มราวกับคนกำลังมีความสุข
"อืม จะกลับแล้ว"
"กลับยังไง แท็กซี่เหรอ"ปัทมาลุกขึ้นยื่นเอ่ยถาม ซึ่งบทสนทนาของสองสาวก็เป็นที่สนใจของชายหนุ่มทั้งสี่ โดยเฉพาะภาคภูมิซึ่งดูสนใจเป็นพิเศษ
ซึ่งคำถามจากปากของเพื่อนซี้ทำเอาโรสรินยิ้มตาหยีออกมา เธอก้าวขาเข้าไปใกล้ยื่นใบหน้าไปกระซิบข้าง ๆ ใบหูขาวของเพื่อนสาว
"นักล่า"
"จริงเหรอ"ปัทมาตาลุกวาวราวกับเห็นของเล่นชิ้นโปรด รอยยิ้มตรงมุมปากของโรสรินซึ่งเป็นเครื่องยืนยันทำเอาปัทมาใจเต้นสั่นแทบจะเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่
"อยากเห็นหน้าว่าเป็นใคร หล่อไหมโรส"ปัทมาเอ่ยถามด้วยความสนใจยิ่งสร้างความสงสัยให้กับสี่หนุ่มที่กำลังตั้งใจฟัง
"อยากรู้เหรอ"
"อืม มาก"
"ตรงทางออก ผู้ชายที่ใส่เชิ้ตสีดำและกำลังมองมาทางนี้"
พรึ่บ
"แม่เจ้า ของดี"ปัทมาร้องออกเสียงหลงออกมาเมื่อสายตาของเธอหันไปมองร่างสูงใหญ่ของชายผู้นั้น
"แต่ว่า นั่นมันคุณภัคพงศ์นี่ นักล่าของแท้เลยนะยัยโรส"ปัทมาเอ่ยเตือน เพราะรู้จักชื่อเสียงของอีกฝ่ายมาพอสมควร
"จะไหวเหรอ"
"ไม่ลองก็ไม่รู้ จริงไหม"มุมปากสวยของหญิงสาวแสะยิ้มส่งไปให้
ความสัมพันธ์ในที่แบบนี้อย่าหวังที่จะได้หาความจริงจังดั่งที่ใจหวังเอาไว้ ใช่ เธอไม่ได้คิดว่าความสัมพันธ์ของเธอกับภัคพงศ์จะยาวนานตลอดไปหลังจากเรื่องราวในค่ำคืนนี้ระหว่างเขาและเธอจบลง
"ฉันไปก่อนนะ"
"โชคดีล่ะ อย่าหักโหมจนลืมนัดของเรานะ"
"โอเค"สองเพื่อนซี้โบกมือลา ร่างสวยของโรสรินเดินฝ่าฝูงชนไปหาร่างสูงใหญ่ที่กำลังยืนรอเธออยู่ตรงหน้าประตู โดยมีสายตาของทั้งห้าคอยลอบมองการกระทำของทั้งคู่ซึ่งกำลังก้าวขาเดินออกไป
'โรสรินเคยเป็นเมียกู เธอเคยเป็นของกู'
"คุณภาคภูมิคะ"เสียงหวานของเพื่อนสนิทแฟนสาวดังขึ้นมาดึงสายตาของภาคภูมิให้หันไปมอง เขาก็เห็นร่างของปานชีวาอยู่ในสภาะเมามายจนเพื่อนกลุ่มเธอต้องคอยประคองเอาไว้
"ครับ"
"คือยัยปานเมามากแล้วค่ะ พวกเราเลยคิดว่าจะกลับกันแล้ว"สีหน้าและอาการของผู้หญิงคนนั้นดูท่าแล้วก็คงจะเมามากไม่น้อย ในกลุ่มของแานชีวาสภาพคือดูแทบไม่ได้เลยสักคน
"ครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง"
