บท
ตั้งค่า

ตอนที่2. ถูกหลอก

ดุลยาได้แต่พยักหน้ารับ เธอไม่ชอบแต่หน้าหนาและจัดจ้านแบบนี้ แต่เพราะงานเธอจึงจำเป็น รอบนี้ได้มาทำงานถึงพัทยา มารำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ VIP ของโรงแรมหรูระดับห้าดาว งานนางรำเป็นรายได้เสริมที่ทำมาหลายปีตั้งแต่อยู่มัธยมปลาย แรกๆ เพราะเธอพอมีพื้นฐานด้านฟ้อนรำเพราะตอนที่อยู่ต่างจังหวัดมีคนเฒ่าคนแก่สอนรำบ้างตามประสาเด็กต่างจังหวัด มีรุ่นพี่ที่รู้จักชวนให้เธอไปรำในร้านอาหารซึ่งแขกส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ บางคนก็ไปคล้องพวงมาลัยให้นักท่องเที่ยว มันจึงเป็นรายได้เล็กๆ น้อยๆ ของเธอ ที่ไม่กระทบกับการเรียน แม่จึงไม่ห้ามปรามอะไร เธอจึงรับงานมาเรื่อย เข้ามหาวิทยาลัยแล้วก็ยังมีงานรำให้ทำอยู่ ไปๆมาๆ กลายเป็นงานที่เพิ่มรายได้ มีเธอกับเพื่อนๆ หลายสิบชีวิตที่ทำงานแบบเดียวกัน ระหว่างนี้ที่ยังไม่มีงานประจำทำ เธอจึงทำงานรำได้เต็มที่กว่าก่อน เธอไม่ได้รังเกียจงานนางรำ เพียงแค่หวังว่าสักวัน เธอจะหางานประจำมีรายได้เลี้ยงตัวเอง เพียงแค่นั้น

ครั้งนี้ได้มาไกลถึงพัทยา หญิงสาวชอบทะเลแต่ไม่มีโอกาสได้มาเที่ยวบ่อยนัก เพราะพ่อกับแม่เลี้ยงไม่ค่อยชอบ บ่นว่าเหนียวตัว ทำให้เธอพลอยอดไปด้วย แต่ถึงวันนี้จะได้มาโรงแรมหรูหราแต่ก็เพราะเรื่องงาน หญิงสาวเช็ดเครื่องสำอางเสร็จก็ลุกจากหน้ากระจก ตั้งใจเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ แต่ดูเหมือนคนอื่นทยอยเดินขึ้นจากหาดแล้ว

“อีกครึ่งชั่วโมงกลับนะดาว”

“รับทราบค่ะ”

ดุลยายกมือขึ้นแตะปลายคิ้วเลียนแบบท่าทหารรับคำสั่ง แล้วเดินไปที่ชายหาด ใส่ชุดไทยแบบนี้คนหันมามองหลายคนเชียว แต่ส่วนใหญ่เป็นแขกของโรงแรม แต่เธอก็ชินแล้ว เธอถอดรองเท้าแตะที่สวมอยู่แล้วรั้งชายผ้าถุงให้สูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อจะได้ไม่เปียกน้ำทะเล ปล่อยเท้าเปลือยเปล่าให้สัมผัสเม็ดทรายและฟองคลื่น

หญิงสาวรู้สึกถึงสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองอย่างไม่เกรงมารยาท เธอเงยหน้าขึ้น ยกมือขึ้นปัดเส้นผมของตนเองก็เห็นชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อยืดกับกางเกงขาสามส่วน ดวงตาคมเข้มคู่นั้นจ้องเธอเขม็ง เธอรู้ว่าเธอออกจะดูแปลกๆ ไปสักหน่อย แต่ไม่ใช่คนบ้าหรือคนอันตรายนะ สายตาของเขาทำให้เธอหลบตาแล้วหมุนตัวเดินกลับขึ้นมาที่ห้องแต่งตัวเพื่อหยิบกระเป๋าเตรียมขึ้นรถเดินทางกลับ

“น้องดาว ดุลยาหรือเปล่าคะ” หญิงสาววัยสี่สิบนิดๆ เดินเข้ามาทักด้วยรอยยิ้ม

“ค่ะ” ดุลยายิ้มรับ จำได้ว่าเจอผู้หญิงคนนี้ตอนที่ถ่ายรูปร่วมกับแขกที่เข้ามาชมการแสดง

“ลูกชายพี่ชอบน้องมากเลยค่ะ รบกวนขอถ่ายรูปคู่กับเด็กหน่อยได้ไหมคะ”

ดุลยาเห็นว่ายังพอมีเวลาจึงพยักหน้ารับ ได้ยินว่าคำว่าเด็ก ก็ไม่อยากให้เด็กเสียใจ เธอยอมเดินตามผู้หญิงคนนั้นออกจากห้องแต่งตัว เพียงแต่เดินออกมาได้ไม่กี่ก้าว ร่างก็ถูกโอบรัดจากด้านหลัง ยังไม่ทันตั้งตัว ผ้าผืนหนึ่งก็ถูกปิดครึ่งปากครึ่งจมูก ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจ เท้าเล็กๆ เตะไปมาแต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรได้เลย พยายามกลั้นหายใจแต่กลิ่นประหลาดนั้นก็ทำให้ร่างที่ดิ้นรนอยู่ค่อยๆ หยุดนิ่งพร้อมดวงตาที่ปิดสนิทลง

“เจ้แน่ใจนะว่าไม่มีปัญหาที่หลัง” ชายคนที่อุ้มร่างที่หมอสติบ่นพึมพำ

“จะมีปัญหาได้ ก็ยัยแม่สั่งมาเองนี่” หญิงสาวคนเดิมพูดแล้วก้มลงเก็บกระเป๋าข้าวของหญิงสาวที่ตกพื้นขึ้น “มัวแต่พูดมากรีบไปได้แล้ว”

“ครับเจ้”

คนสองคนช่วยกันพาร่างคนที่หมดสติเข้าไปในรถตู้ หญิงสาววัยสี่สิบมองใบหน้าคนที่หมดสติไป ใบหน้าหวานรูปร่างบอบบาง ผิวขาวอมชมพูแบบธรรมชาติ หน้าไร้เครื่องสำอางแต่กลับดูน่ามองกว่าเมื่อครู่ที่อยู่บนเวทีเสียอีก

รถตู้พาหญิงสาวที่หมดสติมายังสถานที่แห่งหนึ่ง หญิงเริ่มรู้สึกตัวแต่ยังขยับตัวเคลื่อนไหวไม่ได้ดั่งใจ เธอรู้สึกเพียงว่ามีมือมาจับเนื้อตัวเธอ หญิงสาวพยายามปัดป้องแต่ทำได้แค่คิดเพราะยกมือยังไม่ขึ้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel