ตอนที่ 4 ชายหนุ่มเลือดฮ่องกง
อลัน หยาง ชายหนุ่มเลือดฮ่องกงวัยสามสิบสองเดินเข้ามาดูร่างที่ยังหลับใหลบนเตียงนอนของเขา ดวงตาดุดันมักฉาบรอยเศร้าอยู่เสมอ เขาถอนหายใจอย่างไร้เหตุผล กลับได้กลิ่นหอมละมุนจากเรือนกายหญิงสาวทำให้ต้องถอยห่างออกมาอย่างไม่เข้าใจตัวเองนัก
เขาควรกบดานอยู่เงียบๆ ไม่ให้ใครรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ ปล่อยให้คนที่แอบลอบฆ่าได้ใจว่ามีฝีมือสามารถปลิดชีวิตเขาได้ คิดเพียงแค่นี้ใบหน้าแบบหนุ่มเลือดมังกรก็กระตุกยิ้มที่มุมปาก เขาต้องแสร้งทำเป็นคนตายหลบมาอยู่ไกลถึงเมืองไทย เพียงเพื่อจะได้สืบข่าวได้ว่าใครเป็นคนวางแผนลอบฆ่าเขา เดิมทีเขาคิดจะหลบซ่อนตัวเองในกลุ่มนักท่องเที่ยวแถวพัทยา เพราะต้องการสืบเสาะหาเบาะแสอะไรบ้างอย่าง ทำให้บังเอิญเข้าไปเวทีการประมูลลับๆ นั่น
เดิมที่เขาเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนจิตใจด้านชา ไร้ความรู้สึกไปแล้ว หากแต่เพราะดวงตาฉ่ำน้ำตาเต็มไปด้วยแววอ้อนวอนนั้นทำให้เขาตัดใจทำเป็นไม่สนใจไม่ได้ ยอมเสียเงินสองแสนเพื่อซื้อผู้หญิงคนนี้มา อลันเดินไปนั่งที่เก้าอี้ยาวริมระเบียง หยิบแว่นกันแดดที่แหนบอยู่ที่อกเสื้อขึ้นมาสวม เอนกายในท่าสบาย แล้วปิดเปลือกตาพักผ่อน
‘เสียงคลื่น เสียงทะเล’
ดุลยาเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ เสียงคลื่นกระทบฝั่งทำให้เธอคิดว่าตัวเองฝันไป จวบจนเปิดเปลือกตาและตั้งสติ ไม่ใช่แค่เพียงเสียงเท่านั้น เธอยังสัมผัสลมเย็นๆได้อีก หญิงสาวยันตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอน เบื้องหน้าคือระเบียงเล็กๆ ที่ทำให้เธอมองเห็นผิวน้ำสีครามเบื้องหน้า หากไม่เพราะตัวเองยังใส่ชุดนางรำอยู่ เธอคงคิดว่าตัวเองฝันไปแล้วแน่ๆ แต่กระนั้นเธอก็ยังคงก้าวลงจากเตียงเดินผ่านร่างที่เอนตัวบนเก้าอี้ยาวไปหยุดที่ราวระเบียงราวกับต้องมนตร์
“ทะเล”
“ว้าย!”
ดุลยาเผลอร้องอย่างตกใจ ไม่คิดว่าจะมีคนอยู่ใกล้ๆนี่ด้วย เธอพลิกตัวหันมาเผชิญหน้า แผ่นหลังชิดราวระเบียง สายลมที่พัดแรงทำให้ผมยาวปลิวสยายจนเธอต้องยกมือขึ้นรวบผมไว้ เธอเพ่งมองชายหนุ่มที่ค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั้งเหมือนแมวเกียจคร้าน เขาจ้องมองหญิงสาวที่ท่าทีตื่นตระหนกก่อนถอนลมหายใจยาวเฮือกใหญ่แล้วถอดแว่นกันแดดออกเปิดเผยดวงตาคมเข้มคู่นั้น แล้วหญิงสาวก็อ้าปากค้าง เขาคือผู้ชายคนเดียวกับเธอที่เคยพบตอนที่เธอไปเดินเล่นที่ชายหาดคนเดียว
“คุณ!!”
“อลัน” เขาพูดแล้วลุกขึ้นยืน ก้าวเท้าเข้าไปใกล้ “ชื่อของผมคือ อลัน หยาง”
ดุลยาอ้ำอึ้งไปไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าเขาจะลุกขึ้นมาแนะนำตัวเองแบบนี้
“ตามมารยาทคุณก็ควรแนะนำตัวเองเสียหน่อยนะ อย่างน้อยผมก็ช่วยคุณไว้”
พอโดนเขาจี้เข้าแบบนี้ดุลยาก็ได้สติขึ้นมา
“ชื่อดุลยาค่ะ เรียกดาวก็ได้”
เธอกวาดตามองเขาอย่างไม่เกรงมายาท แต่กลับทำให้อีกฝ่ายหัวเราะออกมา ก็แน่ล่ะ คนอย่าง อลัน หยาง ไม่เคยถูกมองแบบนี้แน่ หากเป็นหญิงสาวก็ส่งสายตาเชิญชวน หากเป็นผู้ชายถ้าไม่อยากฆ่าเขาก็หวาดกลัวไม่กล้าสบตา
การหัวเราะอย่างเปิดเผยของเขาทำให้ดุลยาขมวดคิ้ว ทำไมล่ะ เขาวิปริตไปแล้วเหรอ จู่ๆ ก็หัวเราะออกมาแบบนี้
“คุณ! หัวเราะอะไรกัน แล้วที่นี่ที่ไหน ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“รีสอร์ทริมทะเล”
เขาตอบจ้องมองหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เขาเป็นคนฮ่องกงแต่พูดไทยได้ชัด แต่เป็นสำเสียงไทยปนจีนนั้นแหละ แต่เขาก็ฟังภาษาไทยได้รู้เรื่อง เมื่อเห็นว่าหญิงสาวคลายอาการตื่นตระหนกได้บ้างก็เบาใจลง แต่เพราะใส่ชุดไทยแบบนี้หรือเปล่านะ ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ เหมือนเธอหลุดออกมาจากภาพวาดยังไงไม่รู้
“แล้ว?”
“ผมแบกคุณออกมาจากเวทีประมูล” เขาพูดง่ายราวกับว่าเพิ่งไปร้านสะดวกซื้อมา
ดุลยารู้สึกปวดหัวตุบๆ จนต้องหลับตาลงทันที นี่ความจริงใช่ไหม? เธอถูกวางยาสลบแล้วเอาไปเร่ขายเหมือนสัตว์เลี้ยงชนิดหนึ่ง และ ‘เขา’ คือผู้ชายแปลกหน้าคนนี้ที่อยู่ดีๆ ก็มาซื้อตัวเธอในราคาสองแสนบาท
