1 วิวาห์ว้าวุ่น (4)
วันนี้แล้วเชียวที่หล่อนจะทำการส่งมอบเด็กใหม่ให้กับเสี่ยเกษมไปเป็นศรีสะใภ้เพื่อขัดดอกเบี้ยพนัน แต่ดูเถอะสาวเจ้ากลับท้องเสียซะนี่ อย่างนี้จะเอาเด็กใหม่ที่ไหนไปส่งให้เสี่ยเกษมล่ะ สายตาเจ้าเล่ห์กลอกไปมาอย่างใช้ความคิด สุดท้ายก็มาหยุดที่เด็กสาวในสังกัดอีกคนซึ่งควบคุม และสั่งการได้ง่ายกว่า
“ยัยธิดา” รุ่งอรุณดีดนิ้วตาวาว จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายในทันที…
แสงจันทร์สีเงินในคืนเดือนเพ็ญเปิดม่านประชันโฉมกับหมู่ดาว เสียงปีกจักจั่นดังแว่วขับขานแข่งเสียงเรไร เสียงยอดไม้สะบัดไหวตามแรงลม บรรยากาศของเรือนสีขาวหลังเล็กในสวนสวยขนาดเล็กกะทัดรัดแห่งนี้จึงดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง กลิ่นกุหลาบขาวปลูกข้างหน้าต่างกำลังผลิบานรับน้ำค้าง
กลางคืนของทิชาจึงอวลไปความสุขสงบ แม้เพื่อน ๆ หลายคนซึ่งเคยเข้ามาพักที่นี่ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่าบ้านของเธอน่ากลัว แต่สำหรับทิชาแล้ว กลับรู้สึกว่าชื่นชอบ และยินดีที่จะอยู่กับความเงียบสงบเหล่านี้
หลังจากจัดการอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนตัวเก่าเรียบร้อย หญิงสาวจึงหยิบเอาหนังสือเล่มโตที่อยู่ในกระเป๋าหนังสือออกมาเรียงกัน คืนนี้เธอยังมีภารกิจชิ้นสำคัญที่ต้องทำแทนธิดา นั่นก็คือ ‘ทำรายงาน’ ส่งคุณครูนั่นเอง
ทว่าทิชาต้องหยุดมือลงเมื่อเสียงเคาะประตู พร้อมเสียงแจ้ว ๆ ของน้องสาวดังขึ้น
“เปิดประตูหน่อย ยัยทิชา” คนใจร้อนทุบประตูปึงปังสลับกับเสียงเรียก
ก็ว่าจะแกล้งให้เรียกอยู่อย่างนั้น แต่น้ำเสียงอ้อแอ้เหมือนคนเมาเร่งเร้าให้ทิชารีบลุกขึ้นไปเปิดประตูจนได้
“ไงแม่เด็กดี ป่านนี้ยังไม่นอนอีกเหรอ พรุ่งนี้ไม่มีสอบหรือไง?”
คนเกาะประตูเท้าสะเอวสะอึกอึ๊ก ๆ ศีรษะตก ก่อนสะบัดรองเท้าส้นเตี้ยสีเงินออกจากปลายเท้า เดินโย้ไปเย้มาไปทิ้งตัวนอนลงบนเก้าอี้ตัวนุ่ม ส่วนคนที่ปิดประตูบ้านเดินตามหลังธิดาถึงกับกุมขมับ ทั้งนี้เป็นเพราะสภาพของน้องสาวฝาแฝดนั่นเอง
เส้นผมดำมันขลับยาวครึ่งหลังถูกดัดด้วยเกลียวไฟฟ้าเป็นลอนสวยปล่อยสยายไปด้านหลัง แต่ตอนนี้มันยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงจนดูไม่ได้ ส่วนใบหน้านั้นไม่ได้น้อยหน้ากว่าทรงผมเลย อีกทั้งชุดสวยแสนเซ็กซี่สีแดงเพลิงของธิดานั้นก็สั้นเต่อปิดก้นแทบไม่มิด ยิ่งเจ้าหล่อนล้มตัวนอนโดยลืมว่าตนเองสวมกระโปรงด้วยยิ่งดูไม่ได้ หากเรียกว่า ‘หมดสภาพ’ ก็คงไม่ผิด
“ฉันติดต่อยื่นคำร้องขอเข้าสอบปลายภาคให้เธอแล้วนะธิดา” ทิชาหุบเปลือกตามองวงหน้าที่เคลือบเครื่องสำอางหนาเตอะเกินวัย แล้วเลยมายังริมฝีปากที่เปื้อนรอยลิปสติกเป็นทาง ซึ่งคนที่เธอสนทนาด้วยยังปิดเปลือกตานิ่งสนิท
“นี่ ฟังที่ฉันพูดอยู่หรือเปล่า?”
“อื้อ... ก็ดี” สาวน้อยที่นอนอยู่บนเก้าอี้ตัวยาวผงกศีรษะขึ้นมาปรือตาตอบ แต่พฤติกรรมนั่นกลับทำให้ทิชาหงุดหงิดมากกว่าเก่า
ดูว่าคืนนี้แฝดน้องของเธอจะเมาหนักกว่าทุกคืน ทั้งนี้เป็นเพราะกลิ่นแอลกอฮอล์ที่โชยออกมาจากตัวธิดาพร้อมด้วยกลิ่นน้ำหอมราคาแพงนั่นเอง เฮ้อ... อีหรอบนี้คงต้องทำเครื่องดื่มแก้เมาในตอนเช้าเหมือนเดิม
“คุณครูบอกว่าหลังจากเธอส่งรายงานครบแล้ว ถึงอนุญาตให้เข้าสอบได้ ยังไงวันจันทร์นี้เธอก็ไปเข้าสอบแล้วกัน ฉันจัดการเรื่องรายงานให้เรียบร้อยแล้ว “
เงียบ... ไม่มีเสียงตอบรับอย่างเคย
“ได้ยินหรือเปล่าธิดา?”
คนถูกถามพริ้มตาหลับสบาย คำตอบที่ทิชาได้รับมีแต่เสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอเท่านั้น ทิชาจึงสะกิด
“นี่ ได้ยินหรือเปล่ายัยธิดา?” หญิงสาวใช้พลังเสียงมากกว่าเก่า ผลก็คือ ธิดาลืมตาขึ้นมาแล้วผลักทิชาหงายท้องก้นจ้ำเบ้ากับโต๊ะรับแขกในทันที
“โอ๊ยรำคาญ! อะไรนักหนาคนจะหลับจะนอน จะทำอะไรก็เชิญตามสบายเลย ไม่ต้องมาวุ่นวายกับชีวิตฉันได้มั้ย?” ต่อว่าจบ ธิดาก็เดินโซซัดโซเซเข้าห้องไปดื้อ ๆ ซ้ำยังปิดประตูกระแทกดังโครมตามมา ซึ่งสิ่งที่สาวน้อยขี้เมาเหลือทิ้งไว้ให้ทิชาแบกรับนั้น ทำเอาหญิงสาวหน้าแดงก่ำดวงตาไหวระริกด้วยความโกรธระคนน้อยใจ
“ให้ได้อย่างนี้สิ ยัยธิดาบ้า!” ทิชาสบถหัวเสีย ดวงตาแดงก่ำเหมือนคนจะร้องไห้
ความเงียบเสมือนเพื่อนสนิทเข้ามาปลอบประโลม พอระงับอารมณ์ได้แล้ว หญิงสาวจึงปรายตาไปยังรูปถ่ายมารดาอันตั้งอยู่บนแท่นบูชาพร้อมกระถางธูปด้วยดวงตาเศร้าสร้อยมีหยดน้ำมาคลอที่เบ้าตา
“แม่คะ หนูทำถูกหรือผิดที่ไปเคี่ยวเข็ญยัยธิดาอย่างนั้น?” หญิงสาวถามเสียงเศร้า ปิดเปลือกตาลงด้วยความรู้สึกถวิลหาอ้อมกอดอันอบอุ่นของมารดา
หลังจากรวีวรรณมารดาของเด็กแฝดทั้งสองลาลับจากโลกใบนี้ไป ทรงศักดิ์ผู้เป็นบิดาจึงตรอมใจเสียชีวิตตามไปอีกคน ทุกสิ่งทุกอย่างจึงตกอยู่ในความดูแลของรุ่งอรุณโดยถูกต้องตามกฎหมายมาตลอด
เมื่อสูญเสียเสาหลักในชีวิตไป ชีวิตเด็กสาวทั้งคู่จึงเคว้งคว้าง ด้วยกลัวว่าจะถูกรุ่งอรุณอับเปหิออกจากบ้าน เพราะทิชาและธิดาเป็นแค่ลูกนอกสมรสที่ถูกตราหน้าว่า ‘ลูกเมียน้อย’ เท่านั้น ทิชากังวลสารพัดว่าจะไร้ที่ซุกหัวนอน กลัวอนาคต กลัวการอยู่ลำพัง กลัวการถูกทอดทิ้ง
ถึงบิดาจะทิ้งทุนทรัพย์สำหรับเป็นค่าเล่าเรียนไว้ให้ทั้งเธอและธิดา แต่เงินจำนวนนั้นก็ไม่พอสำหรับซื้อที่อยู่ใหม่อยู่ดี อีกอย่างเธอยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ จะหยิบจะจับอะไรก็ดูจะเกินตัวไปซะหมด แต่ก็ยังดีที่ว่าสิ่งที่ทิชากลัวมาตลอดยังไม่เกิดขึ้น... ทั้งนี้เป็นเพราะฝีมือของธิดานั่นเอง
น้องสาวฝาแฝดของเธอมีนิสัยคล้ายคลึงกับรุ่งอรุณหลายอย่าง ถึงทั้งสองจะต่างวัยกัน แต่รสนิยมรวมทั้งการใช้ชีวิตที่เหมือนกัน จึงทำให้ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนต่างวัยในที่สุด คุณรุ่งอรุณแม้อายุจะเข้าหลักสี่แล้วก็ตาม แต่เธอยังออกเที่ยวตระเวนราตรี ซ้ำยังติดการพนันงอมแงม ซึ่งธิดาได้เจริญรอยตามแม่เลี้ยงแบบไม่มีแตกแถวสักนิด
แรก ๆ ธิดาแค่ออกเที่ยวตามแบบฉบับเด็กสาวเพิ่งออกตระเวนราตรีกลับบ้านดึก แต่ก็ยังกลับ ทว่าพักหลัง ๆ มานี่ธิดาเปลี่ยนไปมาก ธิดาเริ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเรื่องนี้ทิชาคอยคัดค้านพฤติกรรมของน้องสาวตัวเองตลอด แต่แม่ธิดาคนงามกลับไม่ฟัง ซ้ำยังบอกว่า
