
บทย่อ
บุปผางาม…แม้เปี่ยมด้วยกลิ่นหอม ก็อาจซุกซ่อนพิษร้ายไว้ใต้กลีบบาง ผู้ใดคิดแตะต้อง…ย่อมไม่พ้นพบกับความตาย การให้อภัยคือคุณธรรมของผู้สูงส่ง ใครจะถือไว้ก็ช่าง แต่ข้ามิเคยคิดอวดตนว่าเป็นผู้ประเสริฐ และไม่เคยมีใจ…จะยกโทษให้ผู้ใด
บทนำ
บทนำ
ณ ค่ำคืนหนึ่งซึ่งดาวบนฟากฟ้าส่องแสงสลัว แสงจันทร์ทอดเงาเย็นเยียบลงบนเรือนร่างบอบบางของสตรีผู้กำลังเจ็บครรภ์ เสียงร้องแห่งความเจ็บปวดดังก้องในห้องไม้เก่า ๆ ก่อนที่เสียงร้องไห้ของชีวิตใหม่จะกรีดผ่านความเงียบสงัดนั้น
ทารกคนแรกคลอดออกมา พร้อมเสียงร้องสดใสดังพลิ้วไหว แววตากลมใสที่ลืมขึ้นครั้งแรกดูราวกับสะท้อนแสงดาว บรรดาผู้คนในเรือนต่างโห่ร้องยินดี กล่าวขานว่านางคือ “ดาวนำโชค” ที่จะนำความรุ่งเรืองและเกียรติยศสู่ตระกูล
แต่แล้ว… ทารกคนที่สองกลับคลอดตามออกมาพร้อมเสียงร้องแผ่วเบา และรอยปานประหลาดรูปดอกไม้มอดไหม้กลางแผ่นหลัง ดวงตาคู่นั้นมืดมัว ไร้แววความยินดี แทบจะในทันที… มีเสียงหวีดร้องจากแม่นมดังขึ้นอย่างตื่นตระหนก
“นั่นมัน… ดาวหายะนะ!”
ไม่มีแม้คำปลอบโยน ไม่มีแม้โอกาสได้ดูดดื่มน้ำนมจากอกของผู้ให้กำเนิด ทารกน้อยถูกพรากจากอกไปไกลแสนไกล ราวกับเป็นภาระที่ไม่อาจปล่อยให้อยู่ใกล้ผู้คนในเมืองหลวงได้
นางถูกส่งตัวไปยัง เขาพิษ ดินแดนห่างไกลที่ผู้คนต่างเล่าขานถึงสัตว์ประหลาด พิษร้าย และหมอยาเฒ่าผู้มีชีวิตอยู่เกินร้อยปี ผู้ที่เป็นทวดของพวกนาง ผู้ถูกลืมเลือนจากโลกภายนอก นางเติบโตท่ามกลางกลิ่นสมุนไพรคละคลุ้ง เลือดสัตว์ป่าติดปลายดาบ และตำราโอสถที่หนาเท่ากำแพงเมือง ชีวิตของนางไร้แสงสว่าง แต่กลับแหลมคมดั่งมีดที่ลับจนเงาวาว
ในขณะที่พี่สาวผู้เป็นดาวนำโชค เติบโตขึ้นท่ามกลางเสียงหัวเราะและสายตาชื่นชม ถูกห้อมล้อมด้วยผ้าแพรไหม ของหรูหรา และคำชมเชยตั้งแต่จำความได้ นางมีทุกสิ่งที่เด็กหญิงพึงปรารถนา รวมถึง บุรุษหนึ่งผู้เป็นคู่หมั้น ซึ่งครอบครัวจัดเตรียมให้ตั้งแต่วัยเยาว์
ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบ หากไม่มี “เรื่องนั้น” เกิดขึ้น…
ก่อนวันแต่งงานเพียงไม่นาน ดาวนำโชคผู้สว่างไสวกลับเลือกที่จะปลิดชีพตนเองใต้กิ่งหลิว เหลือทิ้งไว้เพียงจดหมายลาตายซึ่งเปื้อนคราบน้ำตา ประโยคสุดท้ายในจดหมายเขียนว่า
“หากเขารักข้า เขาคงไม่โอบกอดสตรีอื่นต่อหน้าข้า…คงมิหักหาญความรักที่ข้ามีต่อเขาถึงเพียงนี้”
และนับจากวันนั้น ชีวิตของดาวนำโชคผู้เคยเฉิดฉายก็เหลือเพียงเงา
ในขณะที่อีกคนหนึ่ง…
ดาวหายนะผู้ถูกลืม ผู้ถูกผลักไสจากอ้อมอกมารดากำลังเหยียบย่างลงจากเขาพิษเป็นครั้งแรกในรอบสิบแปดปี
นางมิใช่เด็กน้อยในผ้าอ้อมผืนเก่าอีกต่อไป
แต่เป็นหญิงสาวที่เติบโตมากับพิษยา เลือดสัตว์ และเงาแห่งความเกลียดชัง
โดยเฉพาะความเกลียดชังต่อผู้เป็นบิดา ผู้ผลักไสนางจากบ้านเกิด ผู้ตัดนางออกจากจวนหลังเดียวกันกับพี่สาวฝาแฝด
กลับกัน…
นางมิได้เกลียดมารดาผู้ให้กำเนิดแม้แต่น้อยเพราะนับตั้งแต่นางถูกพรากจากอกผู้เป็นแม่ ‘อนุจ้าว’ ตกเลือกเสียชีวิตในเวลาไม่นานและคงมิอาจเดาได้ยากเลยว่าใครเป็นแพะรับบาปในสายตาผู้คน
‘อนุจ้าวตกเลือกตาย เพราะให้กำเนิดดาวหายนะ’
“หึ…” เสียงเย้ยหยันลอดออกจากจมูกบาง
โชคดีที่สุดแล้วที่มารดานางยังพอมีแรงสุดท้ายอ้อนวอนให้คนรับใช้ที่ซื่อสัตย์พานางหนีขึ้นเขา มิฉะนั้น…ทารกที่เปื้อนคราบเลือดนั่น คงถูกฝังกลบใต้ดินอย่างไม่มีแม้แต่ป้ายไม้
วันนี้ ครอบครัวฝั่งบิดา กลับส่งคนมารับนางกลับไปยังเมืองหลวง อ้างสายเลือดและบุญคุณ ให้กลับไปในฐานะตัวแทนเจ้าสาวผู้คิดสั้นเพียงเพราะสามีในอนาคตมีจิตปฏิพัทธ์ต่อสตรีอื่น
สัญญาระหว่างสองตระกูลมิอาจล้มเลิกแม้เจ้าสาวจะเปลี่ยนหน้า แต่ตำแหน่ง…ยังต้องมีเจ้าของ
ในอกซ่อนยาพิษร้ายแรงที่กลั่นด้วยมือตนในแขนเสื้อมีมีดลับพร้อมปลิดชีวิตได้ทุกเมื่อ
และในใจ…เก็บงำความลับหนึ่งไว้
