กลรักดักเลขา

85.0K · จบแล้ว
ซีฟางกั๋วเจีย/เอสเต้
53
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ชายหนุ่มผู้ร่ำรวยสามคนต้องเผชิญหน้ากับหญิงสาวเจ้าเล่ห์ที่เข้ามาพัวพันเพราะต้องการล้วงความลับทางธุรกิจ แต่หนุ่มๆ กลับใช้วิธีตลบหลังด้วยการทำให้พวกเธอติดกับดักเร่าร้อนแทน!

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบัน

บทที่ 1 สาวไซด์ไลน์

“อย่าบีบแขน!” เสียงหญิงสาวในชุดกี่เพ้าสีแดงเงยหน้าขึ้นจากที่เอาหน้าผากชนผนังลิฟต์เอาไว้ เอียงคอเล็กน้อยเพื่อบอกผู้ชายที่พยุงเธออยู่

“นิ่งๆ สิ! เดี๋ยวก็ถึงห้องแล้ว” ชายหนุ่มร่างกำยำกระซิบบอก

มิกกี้เดินเข้าไปยืนด้านในลิฟต์ เขาเหลือบมองคนทั้งสองเล็กน้อย คอนโดมิเนียมที่นี่อยู่ย่านใจกลางเมืองสองซอยถัดไปเป็นสถานบันเทิงหรูหรามีระดับ ดังนั้นที่นี่จึงมีหลายสิบห้องที่เป็นสถานที่ให้หนุ่มๆ ผู้มีอันจะกินนำสาวๆ มาซุกไว้ที่นี่ แน่นอนว่าส่วนใหญ่พวกเธอก็คือสาวสวยที่ทำงานในสถานที่เหล่านั้น

เมื่อตัวเลขบนปุ่มไล่ไปถึงสิบเอ็ด มิกกี้ก็ออกจากลิฟต์ไป เขาไม่สนใจมองสองหนุ่มสาวเสียด้วยซ้ำ เรื่องแบบนี้มีให้เห็นทุกวัน เขาพลิกข้อมือเล็กน้อย หน้าปัดนาฬิกาแบบเข็มบอกเวลาเกือบตีหนึ่ง ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปาก

‘อืม...เวลาปิดพอดี เห็นทีคงหิ้วกันกลับมาต่อที่ห้อง’

ตึง! ตึง! ตึง!

ชายหนุ่มเงยหน้ามองบนเพดาน

“อะไรวะ? ห้องนี้อีกแล้ว สงสัยอยากจะหาเรื่อง”

นับตั้งแต่เขามาพักอยู่ที่นี่ ทุกสามวันห้าวันห้องข้างบนมักจะมีเสียงนี้ดังขึ้นในตอนดึก แต่ดังแค่สามครั้งแล้วก็หายไป มิกกี้รู้สึกหงุดหงิดยิ่งนักเขาคิดจะขึ้นไปบอกเจ้าห้องอยู่หลายครั้งแต่ติดที่ว่าตอนที่เกิดเสียงคือตอนตีหนึ่งและเกิดเพียงสามครั้งแล้วก็เงียบไป ทำให้เขาเดาไม่ถูกว่านั่นคือเสียงอะไร?

ความรู้สึกหงุดหงิดที่มีแต่เดิมยิ่งทับทวีคูณ เขาอุตส่าห์เก็บเนื้อเก็บตัวไม่ค่อยสุงสิงกับผู้อื่น นับตั้งแต่การระบาดของไวรัสโควิดเขาก็ต้องปิดไนต์คลับ บาร์ เล้าจน์ และร้านอาหารกว่ายี่สิบแห่งทั่วเมืองหลวง ชายหนุ่มหนีไปพักผ่อนที่เชียงรายได้หลายเดือน ครั้นจะกลับมาเฮียแจ็คหุ้นส่วนสุดหล่อของเขาจึงได้บอกให้มาพักที่นี่

เขารอฟังว่าหากยังมีเสียงดังขึ้นอีกครั้งล่ะก็จะบุกขึ้นไปจัดการห้องข้างบนสักหน่อย ถ้ายังพูดกันไม่รู้เรื่องเห็นทีคงต้องผลักดันให้ห้องข้างบนออกไปซะ!

‘แน่ะ! พอคิดจะไล่เท่านั้นล่ะ เหมือนรู้เลยแฮะ เงียบไปแล้ว’

มิกกี้อาบน้ำสระผมแล้วเถลือกไถลไปบนเตียงนอนนุ่ม เขาตัดสินใจว่าพรุ่งนี้ต้องขึ้นไปเจรจากับห้องข้างบนให้รู้เรื่อง จะว่าไปเขาก็อดทนเสียงนี้มาเกือบเดือนแล้วเห็นทีควรจะได้ปรับความเข้าใจกับเจ้าของห้องข้างบนเสียที

ชายหนุ่มตื่นแต่เช้า เขาลองเดินขึ้นไปชั้นสิบสองห้องหมายเลขตรงกับห้องของเขา ‘น่าจะเป็นห้องนี้ล่ะ หนึ่งสองหนึ่งสอง’

กริ๊ง………..! กริ๊ง...................!

เขากำลังจะกดกริ่งอีกครั้ง ทว่าได้ยินเสียงกุกกักๆ จากข้างใน ชายหนุ่มรู้สึกว่าไม่เหมือนกับเสียงเดินนักแต่เมื่อเสียงนั้นเข้ามาใกล้ประตูเขาจึงได้แต่ยืนรอ

“คราย....?” เสียงยานคางนั้นดังคล้ายจะตวาด

“เพื่อนบ้านของคุณครับ?” เขาตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ฟังดูเหมือนเจ้าของอยากจะยียวนกวนประสาท

ตึง! ตุ๊บ! แกร็ก!

แอ้ด.....!

“เฮ้ย! ผี!” มิกกี้ร้องลั่นเมื่อเห็นศีรษะที่มีแต่ผมยาวปิดแน่นโผล่ขึ้นมาจากพื้น

“ไม่ใช่ผีเว้ย! คนต่าง....หาก...ดูดีๆ สิ!”

ร่างของหญิงสาวในชุดกี่เพ้าแดงค่อยๆ โหนมือจับประตูขึ้นมายืนพิงผนังข้างประตูแล้วใช้มือหนึ่งแหวกผมที่รุงรังเผยให้เห็นดวงตาที่เลอะเทอะด้วยคราบมาสคาร่าเป็นรอยดำปื้นใหญ่ใต้ตาสองข้าง

“อะ เอ่อ...คุณครับ! สภาพของคุณแบบนี้เราจะคุยกันรู้เรื่องเหรอ?”

“ว่ามาสิคะ! ถ้าฉันฟังไม่รู้เรื่องฉันจะบอกคุณเอง” น้ำเสียงของหญิงสาวยังคงงัวเงียคล้ายคนไม่สร่างเมา” พูดจบก็หันหัวไปพิงผนังห้องเอาไว้

“คุณยังยืนไม่อยู่เลยนี่ จะไหวเหรอ?”

“พูดมาเถอะค่า....ฉันจะได้ไปนอนต่อ”

มิกกี้มองข้ามไหล่ไปในห้องเขาเห็นหมอนพิงอันเล็กร่วงอยู่บนพื้น ดูท่าแม่สาวคนนี้คงจะนอนอยู่โซฟาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ชายหนุ่มจำได้ว่าเห็นเธออยู่ในลิฟต์กับผู้ชายร่างล่ำบึ้ก เห็นทีเมื่อคืนเธอคงผ่านศึกหนักแต่ดูแล้วชุดกี่เผ้าก็ไม่ยับเท่าไหร่? ระหว่างที่เขาเอาแต่ยืนนิ่ง ปูเป้ก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดเสียเอง

“ตกลงคุณจะพูดไหมคะ?” เธอเอียงหัวที่พิงผนังเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง

“อืม...ก็ได้! ผมอยู่ห้องข้างล่างตรงกับห้องของคุณ ทุกสามวันผมมักจะได้ยินเสียงตึงตังดังอยู่เรื่อย ผมอยากขึ้นมาขอให้พวกคุณหยุดทำเสียงนั่นด้วยครับ!”

ทีแรกเธอไม่ได้มองเขาเต็มตานักเพราะสติยังเลื่อนลอยอยู่ แต่พอเขาพูดเรื่องเสียงดังที่เขาได้ยินทุกสามวันนั่นเธอจึงสะบัดหน้าเล็กน้อยแล้วตั้งใจมองคนตรงหน้า

‘ว้าว! หล่อกว่าหมายเลขหนึ่งที่เล้าจน์อีกแน่ะ!’

“เอ่อ...เรื่องเสียงที่คุณพูดถึง ฉันจะบอกให้เพื่อนเลิกทำค่ะ ขอโทษด้วยที่ทำให้คุณต้องรำคาญ” ปูเป้หรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มที่มาต่อว่าดูดีๆ แล้วใบหน้าเรียวได้รูป ดวงตาเรียวเปลือกตาสองชั้น จมูกเป็นสันตรงสวยรับกับปากกระจับที่ดูน่าจูบนัก

‘ไม่ได้ๆ ฉันจะคิดลามกกับคนแปลกหน้าไม่ได้’ เธอรู้สึกตกใจที่มีความรู้สึกว่าอยากจะลวนลามเพื่อนบ้าน

“ถ้างั้นผมก็จะรอดูก็แล้วกันว่าคุณจะทำได้อย่างที่บอกหรือไม่? ขอบคุณที่รับฟังครับ ผมไปล่ะ!” เขาทำท่าจะผละจากไป

ปูเป้คิดจะสอบถามเขาอีกสักหน่อย เธอจึงรีบเปิดประตูออกผวาตามไป แต่....

โครม!

“โอ๊ย!”

มิกกี้ที่กำลังหันหลังเดินกลับถูกแม่สาวกี่เพ้ารวบเอวจากด้านหลัง เขาถลาไปข้างหน้า ดีที่ใช้มือสองข้างค้ำเอาไว้หน้าจึงไม่กระแทกกับพื้นแต่แขนข้างหนึ่งกลับลื่นจนพลิกไป ชายหนุ่มรู้สึกปวดแปลบจึงร้องลั่น

ใบหน้าของปูเป้แนบอยู่ที่ก้นของเขา แขนสองข้างเลื่อนมากอดอยู่ที่หน้าขา เมื่อได้ยินเสียงร้องของชายหนุ่ม เธอก็รีบปล่อยแขนมาค้ำร่างขึ้น ก่อนจะชะโงกหน้าไปใกล้เขา

“คุณเจ็บตรงไหนคะ?”

มิกกี้กัดฟันกรอดๆ ตะแคงใบหน้ามามอง “คุณคิดจะฆ่าผมงั้นเหรอ?”

“ไม่ใช่! ไม่ใช่นะคะ ฉันแค่อยากจะแลกเบอร์โทรศัพท์กับคุณ เผื่อว่าเพื่อนฉันทำเสียงอย่างงั้นอีกคุณจะได้โทรบอกฉันได้”

“คุณเรียกผมก็ได้นี่? ทำไมต้องกระโจนใส่กันด้วย?” ชายหนุ่มนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด “สงสัยแขนผมจะหักแล้ว”

ปูเป้หน้าเหวอถึงกับสร่างเมาในทันที “ฉันไม่ได้ตั้งใจค่ะ เมื่อครู่ฉันลื่นรองเท้าแตะถึงได้ล้มมากอดคุณ ขอโทษนะคะ งั้นฉันพาคุณไปคลินิกใกล้ๆ นี่ก็แล้วกัน เรื่องนี้ฉันรับผิดชอบเอง” เธอเข้าไปประคองชายหนุ่มให้ลุกขึ้น

ชายหนุ่มทำหน้าเหวี่ยงใส่เธอแต่เพราะไม่มีทางเลือกจำต้องยอมให้แม่สาวไซด์ไลน์คนนี้พาเขาไปหาหมอ

“โอ๊ะ! ขาผมๆ” ข้อเท้าข้างขวาของเขาก็ดูเหมือนจะแพลงด้วย

********************************

ไรท์แนะนำ...ติดตามผลงานของไรท์ในนามปากกา "เอสเต้" และ "ซีฟางกั๋วเจีย" ได้ ทางแฟนเพจเฟสบุ๊ก "เอสเต้และซีฟางกั๋วเจีย" ค่ะ