กระชากรักภรรยารีเทิร์น

137.0K · จบแล้ว
บุษบาบัณ/นศามณี
81
บท
17.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ไทเลอร์ เครก หนุ่มหล่อที่ไม่ได้มีแค่ดีกรีมหาเศรษฐีหมื่นล้านแต่มาพร้อมกับความอึดถึกทนจนหญิงสาวหลายคนแอบตั้งตั้งฉายาเขาว่า ‘พี่ม้า’ เขาไม่เคยลืมรักครั้งแรกผู้หญิงหน้าใสแต่ใจโคตรร้าย ‘พิลาสินี วอร์วิค’ เมื่อมีโอกาสที่ได้เจอเธออีกครั้งเขาก็ไม่พลาดโอกาสที่จะกระชากเธอกลับมาเป็นของเขายิ่งรู้ว่าแม่หนูมาลี เด็กหญิงสดใสที่มีลูกแมวตัวน้อยคอยเดินตาม เป็นลูกสาวที่ติดท้องเธอไปด้วยแล้ว งานทวงของรักกระชากเมียและลูกกลับคืนสู่อ้อมกอดจึงบังเกิดขึ้น  “อายผมหรือไง ไม่เห็นต้องอาย ผมเห็นหมดแล้วทุกซอกทุกมุม เมื่อคืนผมยังเช็ดให้คุณไปทั่วทั้งตัว” คนได้กินอิ่มเต็มคราบบอกอย่างอารมณ์ดี “เช็ดด้วยอะไร บอกมานะ” พิลาสินีถามใบหน้าแดงจัด ไทเลอร์ผุดยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเลียริมฝีปากมองจ้องเธอเขม็ง “ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นเช็ดตัวให้ ที่จริงตั้งใจจะใช้อย่างอื่นเช็ด แต่กลัวว่าจะไม่ได้เช็ดแค่อย่างเดียว....” “คนบ้า เลิกหื่นใส่ฉันได้แล้ว พอๆ...” พิลาสินีร้องปราม “ถึงยังไงฉันก็อาย ปล่อยให้ฉันอาบน้ำเองเถอะค่ะ ฉันจะรีบไปดูลูก เดี๋ยวมาลีจะถามหา” “ผมฝากคุณแม่ดูมาลีไว้แล้ว คุณไม่ต้องห่วงหรอกแพตตี้ ลูกอยู่กับคุณแม่วางใจได้” “ถึงอย่างนั้นก็เถอะค่ะ คุณแม่ของคุณจะคิดยังไงที่ฉันหายไปไม่ดูแลลูก แล้วมาขลุกอยู่กับคุณแบบนี้” “คุณแม่ท่านเข้าใจ ท่านไม่ว่าอะไรคุณหรอก” “คุณก็พูดเอาแต่ได้” พิลาสินีส่ายหน้า ผิดกับไทเลอร์ที่ยิ้มกว้างอย่างมีความสุขแล้วอุ้มร่างบอบบางไปวางในอ่างอาบน้ำ ดวงตาสีสนิมมองจ้องร่างอรชรที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งเต็มตึงด้วยสายตาร้อนแรงอีกครั้งทำเอาพิลาสินีต้องรีบยกมือขึ้นปกปิดเรือนร่าง “ไหนบอกจะช่วยอาบน้ำไงคะ”

นิยายรักโรแมนติกประธานผู้ชายอบอุ่นรักแรกพบโตมาด้วยพระเอกเก่งจีบเมียเก่าเศรษฐีรักหวานๆ18+

บทนำ

ศูนย์สุขภาพชายแห่งหนึ่ง เป็นคลีนิคไม่ใหญ่แต่ขึ้นชื่อว่าผู้ชายที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพหากได้รับการรักษาที่นี่ จะกลับไปเป็นปกติดีแทบทุกคน เพราะเป็นคลีนิคไม่ใช่โรงพยาบาลชั้นเลิศแบบที่เคยรักษามาทำให้ไทเลอร์ เครกมหาเศรษฐีเพลย์บอยหนุ่มถึงไม่เคยคิดจะมาใช้บริการ แต่ล่าสุดเขาได้พบกับเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนไฮสคูลและยังคบหากันอยู่มาเล่าให้ฟัง

เพื่อนของเขามีปัญหาที่ตรงข้ามกับเขาอย่างสิ้นเชิง ด้วยความเป็นซี้ปึกคุยกันได้ทุกเรื่อง เพื่อนของเขาเคยเล่าให้ฟังครั้งสุดท้ายที่งานเลี้ยงรุ่นว่า มีปัญหาเรื่องอาการแข็งตัวช้าและขนาด จนทำให้แฟนสาวไม่พอใจ แต่หลังจากได้รับการรักษาแล้วก็กลับมาเป็นปกติ และที่สำคัญดีกว่าเดิมมาก

ดังนั้นไทเลอร์ เพลย์บอยหนุ่มที่สาวๆ ทุกคนการันตีว่าโปรไฟล์ดีเยี่ยมแต่กลับมีปัญหาเรื่องในร่มผ้า ที่บังเอิญมีมากจนทำให้ผู้หญิงกลัว แม้ว่าการรักษาที่โรงพยาบาลจะเห็นผลอยู่บ้าง แต่ไทเลอร์ก็อยากจะหายจากโรคนี้เร็วๆ เมื่อได้ผลการันตีจากเพื่อนที่เชื่อถือได้ ก็ทำให้ไทเลอร์ตัดสินใจลองมาพบแพทย์ที่นี่โดยให้เลขาของเขาทำการนัดหมายเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย

เมื่อไทเลอร์มาถึงเขาถึงกับยืนงง ผู้ชายหลายวัยกว่าสามสิบคนนั่งรอเรียกคิวเป็นเครื่องการันตีได้ระดับหนึ่งว่าคลีนิคแห่งนี้คงจะรักษาผู้ชายที่มีปัญหาได้ผลดีระดับหนึ่งเลยทีเดียว ไทเลอร์ไม่ได้แสดงตัวตนหรือใช้สิทธิพิเศษใดๆ เขานั่งรอจนถึงคิว เมื่อพยาบาลเรียกชื่อให้เข้าไปพบแพทย์ ไทเลอร์จึงเดินเข้าไปในห้องตรวจด้วยรอยยิ้มแห่งความหวัง แต่แค่เพียงเขาพบแพทย์เจ้าของไข้นั่น ก็ทำให้เขารู้ว่า เขาอยากย้อนเวลากลับไปสักห้าวินาทีก่อนหน้านี้ เพราะเขาจะไม่มีทางเดินเข้ามาในห้องนี้ แต่จะหันหลังกลับขึ้นรถและไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว

‘พิลาสินี วอร์วิค’ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมรรถภาพทางเพศชายกำลังอ่านแฟ้มประวัติคนไข้ จากนั้นเธอก็เงยใบหน้าสวยเฉี่ยวเกินที่จะเป็นคุณหมอขึ้นมา

“สวัสดีค่ะคุณไทเลอร์ เชิญนั่งสิคะ”

ไทเลอร์สะดุ้งเฮือก “แพตตี้!” แล้วเปิดประตูจะเดินออกจากห้องไป ไม่ใช่เพราะความสวยของคุณหมอ ซึ่งความสวยของเธอประหัตประหารผู้ชายมาตั้งแต่สมัยไฮสคูลแล้ว เรื่องนี้เขารู้ดี แต่ใครจะไปคิดว่า พิลาสินี วอร์วิค หลังจากเรียนจบไฮสคูลแล้ว ไม่มีใครพบเธออีกเลย แต่วันนี้เธอจะกลายมาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสมรรถภาพทางเพศ

“นี่คุณไทเลอร์ คุณจะไปไหน จับคนไข้เอาไว้”

คุณหมอสาวเอ่ยเสียงดุขัดกับใบหน้าสวย เจ้าหน้าที่เวรเปลหุ่นล่ำราวกับนักมวยปล้ำ ที่เดินสวนมาพอดีรีบตรงเข้ามาจับแขน ผายมือเชิญให้ไทเลอร์กลับไปนั่งที่เก้าอี้ หลายนาทีที่ไทเลอร์ต้องกัดฟันด้วยความอาย เขาข่มอารมณ์ให้ต้องนั่งอยู่บนเก้าอี้ เจ้าหน้าที่เวรเปลหุ่นล่ำแอบมองเขาเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ลุกหนีไป ก่อนจะค้อมศีรษะให้คุณหมอสาวสวยแล้วออกไปเฝ้าหน้าห้อง

“ไม่เจอกันหลายปีสบายดีนะคะ คุณไทเลอร์” น้ำเสียงเธอหวานแต่ทิ่มแทงสุดหัวใจ เธอย้ำว่าจำเขาได้

ไทเลอร์ขบกรามแน่น นี่เขากำลังถูกบังคับให้เข้ารับการรักษาอย่างไม่เต็มใจใช่ไหม เขานั่งฟังพิลาสินีวิเคราะห์ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น สมาธิเขาแตกซ่านพาลให้เหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้าผาก จนรู้สึกกระอักกระอ่วนมวนในช่องท้อง

เมื่อรู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงคุณหมอสาวพูดขึ้น

“เชิญไปนอนรอที่เตียงเลยค่ะ”

ไทเลอร์สะดุ้ง “ทำไมผมต้องไปนอนรอที่เตียงด้วยครับหมอ”

คุณหมอคนสวยยิ้ม “คุณไม่น่าจะสงสัยนะคะ ดิฉันก็ต้องตรวจในอวัยวะส่วนที่คุณมีปัญหาประกอบการวินิจฉัยโรคสิคะ อย่าลืมถอดกางเกงรอหมอด้วย เพื่อความสะดวกรวดเร็ว”

ถ้าเป็นหมอผู้ชายความอายคงจะไม่บังเกิด ไทเลอร์เองก็ชินแล้วกับหมอผู้ชาย แต่นี่หมอสาวแถมเป็นอดีตแฟน เขาควรโทษตัวเองที่ไว้ใจเลขาจึงไม่ได้ถามก่อนว่า แพทย์มือดีที่นัดไว้เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายและชื่ออะไร หรือโทษเลขาที่สมควรจะรู้ว่าไม่ควรนัดแพทย์ผู้หญิงให้กับเขาตั้งแต่แรกแล้ว เสียงพยาบาลในห้องตรวจ บอกให้เขานอนบนเตียงปลดกางเกงออกแล้วก็เดินจากไป แต่หัวใจไทเลอร์เต้นตุบตับระส่ำ เมื่อคุณหมอสาวเดินเข้าห้องมา เขาเห็นเธอเดินไปสวมถุงมือแพทย์สีขาวแล้วเดินกลับมาส่งยิ้ม

“ไม่ต้องเขินนะคะ หมอเห็นจนชินแล้วค่ะ”

“หมอชินแต่ผมไม่ชินนี่ครับ” ถ้าไม่ให้ผมเขิน หมอมาแก้ผ้าให้ผมดูบ้างไหมล่ะ นั่นเป็นสิ่งที่ไทเลอร์คิดเอาไว้แต่ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด

“ไม่ต้องเกร็งนะคะ เอามือกอดอก ทำตัวตามสบาย”

ไทเลอร์รู้สึกอายสุดจะบรรยายแม้จะมีฉากกั้นเอาไว้ แต่เขาก็ยังเห็นหน้าคุณหมอคนสวย เห็นไปถึงนัยน์ตาเบิกกว้างตอนเธอก้มดูความอลังการ ที่อยู่ระหว่างขาของเขา

“นี่เหรอปัญหาของคุณ” หากเขาฟังไม่ผิด เสียงนั้นเหมือนจะแอบสงสาร เวทนา แกมสมน้ำหน้าสะใจในคราเดียวกันแล้วก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เขาถูกหมอผู้ชายลูบจับ สัมผัส โยกซ้าย โยกขวามันไม่เคยรู้สึกอะไร แต่นี่ช่างน่าอายเหลือเกินมันกำลังแข็งขืนอยู่ในอุ้งมือคุณหมอสาว

พิลาสินีหยิบกรรไกรสีเงินเงาวับชูขึ้น แล้วนั่นทำให้ไทเลอร์สะดุ้งเฮือก ร่างกำยำดีดตัวขึ้นมานั่ง สองมือกอบกำความใหญ่โตเอาไว้อย่างหวงแหน แต่กลายเป็นว่าเขากำลังจับมือคุณหมอที่มีตัวประกันไว้ในมือ

“เฮ้ย! นี่คุณปล่อยผมนะ ถึงกับจะตัดกันเลยเหรอมันโหดร้ายไปหน่อยนะ”

พิลาสินีกล่าวเสียงดุ “พยาบาลคนไหนมาลืมกรรไกรไว้ตรงนี้เอาไปเก็บให้เข้าที่ คนไข้เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว”

พยาบาลที่อยู่ในห้องรีบมาหยิบกรรไกรไปวางไว้ในถาดเครื่องมือแพทย์ พิลาสินีมองหน้าไทเลอร์ที่สงบลงบ้างแล้วแต่ความอายพุ่งถึงขีดสุด

พิลาสินีจ้องหน้าไทเลอร์แล้วเลิกคิ้วถาม “คุณคิดว่าฉันจะทำอะไร เอากรรไกรมาตัดเหรอคะ อืมใหญ่โตขนาดนี้ กรรไกรไซซ์คงจะบิ่นเสียก่อน คงจะต้องใช้กรรไกรตัดหญ้า”

“ผมไม่ตรวจแล้ว” แต่ไทเลอร์ขยับไม่ได้ เมื่อตัวประกันนั้นยังอยู่ในมือคุณหมอ

“นอนลงไปค่ะ” พิลาสินีกล่าวเสียงดุ

“ไม่นอน ไม่ตรวจ ผมจะกลับ”

“กลับไม่ได้ค่ะ คุณจำเป็นต้องเข้ารับการรักษา ถ้าอยากจะหายก็ต้องอดทน นอนลงค่ะ” เธอสั่งเสียงดุทว่าไทเลอร์อมยิ้มร้าย

“โอเค ผมจะนอนลงก็ได้ ถ้าคุณหมอรับปากว่าจะนอนข้างล่าง และให้ผมเป็นฝ่ายนอนทับอยู่ข้างบน”

“คุณ!” พิลาสินีตวาดแล้วเผลอกำมือแน่นนั่นทำให้ไทเลอร์หน้าแดงก่ำ บิดเบี้ยว เพราะไทเลอร์น้อยกำลังถูกคุณหมอบีบคอจนหายใจไม่ออก

“จรรยาบรรณแพทย์อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมารวมกับเรื่องงานสิคุณ ปล่อยน้องชายผมนะ”

“หมอก็กำลังทำการรักษาอยู่ไงคะ กรุณาให้ความร่วมมือด้วย ไม่งั้นเกิดอะไรขึ้นกับน้องชายคุณ หมอไม่รับผิดชอบนะ” พิลาสินีแกล้งเอ็ด ก่อนจะเริ่มตรวจอาการของคนไข้ตัวแสบ ใช้เวลาทำการตรวจโรคไม่นานก็เดินออกมาจากฉากกั้น ปล่อยให้คนไข้จัดการแต่งตัวให้เรียบร้อย

คุณหมอสาวสูดลมหายใจเข้าลึก เรียกสติไม่ให้หวั่นไหว เพราะอีกเดี๋ยวเธอต้องเผชิญหน้ากับเขา

พิลาสินีกลับมานั่งที่โต๊ะเขียนใบสั่งยาเสร็จแล้ว ตอนที่ไทเลอร์เดินออกมาพอดี เธอบอกให้ไทเลอร์นั่งลง แต่เป็นเขาที่ชิงถามขึ้นก่อน

“ผลตรวจเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ”

“ปกติดีค่ะ ถ้าคุณทานยาอย่างต่อเนื่อง โรคนี้ก็จะไม่สร้างความเดือดร้อนรำคาญใจให้กับคุณ คุณจะมีชีวิตปกติรวมถึงสามารถใช้ชีวิตคู่ได้อย่างราบรื่น ไม่ต้องกังวลนะคะ หมอเขียนใบสั่งยาให้แล้ว เชิญคุณออกไปรอรับยาที่ด้านนอกได้เลย” พิลาสินีบอกเสียงเรียบ แล้วก็คิดว่า ระหว่างเธอกับไทเลอร์คงจบกันแค่นี้ เขาคงจะเดินออกไปแต่โดยดี ทว่าจากครรลองสายตาก็พบว่า ไทเลอร์ยังไม่ยอมลุกไป หนำซ้ำเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าเขาจ้องหน้าเธออยู่

“มีอะไรคะ หมอบอกให้ออกไปรอรับยาด้านนอก ไม่เข้าใจหรือคะ”

“ผมเข้าใจดี แต่คุณหมอต่างหากที่ไม่เข้าใจ”

ที่ผ่านมาไทเลอร์คิดมาตลอดว่าทำไมไม่จริงจังกับใครสักคน หรือรับใครมาอยู่ในใจได้เต็มพื้นที่เสียที ก็เพราะเธอคนนี้ยังอยู่ในหัวใจเขา แล้วมันชัดเจนเมื่อต้องมาพบกันอีกครั้ง

“ผมต้องพูดให้คุณหมอเข้าใจผมเรื่องหนึ่งก่อน คุณหมอเข้าใจผิดเรื่องผมมีคู่ครองแล้ว ความจริงคือ ผมยังเป็นโสดอยู่ แต่คิดไปคิดมาก็อยากมีชีวิตคู่เหมือนกัน ถ้าหากคุณหมอสนใจจะใช้ชีวิตคู่กับผม ผมก็อยากสละโสด”

พิลาสินีวางปากกาในมือลง บอกอย่างข่มอารมณ์หมั่นไส้ “เวลานี้หมอกำลังทำงานอยู่นะคะ คุณไม่ควรมาล้อเล่นแบบนี้ กรุณาให้เกียรติหมอด้วย”

ไทเลอร์อมยิ้ม ยิ่งเห็นแก้มพิลาสินีแดงก่ำเขายิ่งชอบ “คุณหมอพูดแบบนี้หมายความว่า ถ้าผมคุยด้วยเวลาอื่นที่ไม่ใช่เวลาทำงาน ผมสามารถคุยกับคุณหมอได้ใช่ไหมครับ ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้ผมจะรอรับคุณหมอกลับนะครับ ผมอยากเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารคุณหมอสักมื้อ”

“หมอไม่ไป และกรุณาอย่ามาล้อเล่นแบบนี้อีก หมอยังมีคนไข้รออยู่ เชิญคุณกลับไปได้แล้ว” พิลาสินีไล่ไม่เต็มเสียงนักว่าไม่พอใจการกระทำเขา เพราะหัวใจที่เต้นโครมครามจนจะกระเด็นออกมานอกอก เมื่อสายตาคู่คมมองมาอย่างลึกซึ้ง ทำให้คิดถึงช่วงเวลาที่เคยคบหากับอีกฝ่ายขึ้นมา

“กลับก็ได้แต่ผมจะรอรับคุณหมอนะครับ ยังไงผมก็จะรอ กรุณาอย่าลืมนัดของเรา” ไทเลอร์บอกเสียงจริงจังแล้วก็ยืดตัวขึ้น มิวายโปรยยิ้มให้พิลาสินีอีกครั้ง ก่อนเดินจากไปทิ้งให้พิลาสินีมองตามอย่างเข่นเขี้ยว

“คนบ้า ฉันไม่มีวันไปเจอกับคุณหรอก” พิลาสินีตะโกนไล่หลังเสียงดังแล้วต้องสะดุ้งตื่น ร่างบางผวาจากเตียงนอน กวาดสายตามองไปรอบห้องนอน มือเรียวยกขึ้นปาดเหงื่อที่ใบหน้า หัวใจยังเต้นแรงตุ้บๆราวกับเหตุการณ์เมื่อครู่คือเรื่องจริง

แต่มันไม่ใช่!

พิลาสินีกวามองรอบตัวอีกครั้ง ตอนนี้เธออยู่ที่บ้านของตัวเอง แสดงว่าเมื่อกี้นี้เธอฝันไปความฝันที่จะได้เป็นหมอตามมาหลอกหลอนอีกแล้ว พิลาสินีระบายลมหายใจยาวเหยียด เธอเรียนไม่จบหมอจึงเป็นได้แค่ผู้ช่วยแพทย์ และถึงอยากช่วยผู้ชายคนนั้นให้หายขาดจากโรคที่เขาเป็นอยู่แต่เธอก็ไม่มีโอกาสจะได้ช่วยเขาอีกแล้ว สิ่งที่เธอทำได้ตอนนี้คือต้องตัดใจจากเขาไม่ควรคิดถึงเขาอีก

เธอไม่ใช่พิลาสินี วอร์วิคคนเดิมอีกต่อไป เพราะเธอเป็นแม่ม่ายสามีตาย มีลูกสาวตัวน้อยหนึ่งคนให้ต้องดูแล พิลาสินีสะบัดหน้า ตื่นจากความฝัน ดวงตากลมโตที่มีแพขนตางอนยาว มองไปที่ร่างเล็กป้อมที่นอนข้างๆ อีกครู่เดียวลูกสาวของเธอก็จะตื่นแล้ว เธอต้องรีบไปทำอาหารเช้าและทำความสะอาดบ้านก่อนที่แม่หนูจะตื่นขึ้นมาแล้วจะเล่นซนจนเธอไม่มีเวลาทำอะไรเลย

“ฝันอะไรเป็นตุเป็นตะ พิลาสินี เธอเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยแล้วฝันว่าจะเป็นหมอได้ยังไง ตื่นมาพบกับความจริงได้แล้ว เธอก็เป็นได้แค่ผู้ช่วยแพทย์”