บท
ตั้งค่า

บทที่ 1

“เกิดอะไรขึ้น! แกทำอะไรน้องอีกยัยข้าว” สุวดีผู้เป็นแม่แทบใจสลายเมื่อออกมาเห็นลูกสาวคนโปรดล้มกองอยู่กับพื้นในสภาพเนื้อตัวเต็มไปด้วยร่องรอยเขียวช้ำจากการล้มกระแทก ภาพที่เห็นทำให้คิดเป็นอื่นไปไม่ได้เลย นอกจากขวัญข้าวกำลังทำร้ายน้องสาว

“พี่ข้าวผลักขวัญค่ะแม่ ขวัญแค่ขอดูตุ๊กตาของพี่ข้าวหน่อยเดียวเอง” คำบอกเล่าที่ไม่เป็นความจริงของน้องสร้างความตกใจแก่คนถูกกล่าวหาไม่น้อย เพราะไม่คิดว่าน้องสาวจะกล้าโกหก แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้แก้ต่างให้ตัวเอง มารดาก็หันมาตวาดใส่หน้ากันเสียก่อน

“ก็แค่ตุ๊กตาตัวเดียวจะอะไรกันนักกันหนายัยข้าว!” เพราะความรักลูกไม่เท่ากัน สุวดีจึงไม่แม้แต่จะสอบถามความเป็นจริงจากทั้งสองฝ่าย เธอเลือกที่จะเชื่อทุกคำพูดจากลูกสาวคนเล็ก ต่างจากคนที่เป็นพี่สาวที่ไม่เคยแม้แต่จะได้รับความรักความอบอุ่นจากผู้เป็นแม่สักครั้ง

“แม่คะ ข้าวไม่ได้…”

“ไม่ต้องมาแก้ตัว! เป็นพี่แทนที่จะดูแลปกป้องน้อง นี่อะไรกลับทำร้ายน้องเสียเอง คุณพี่ต้องจัดการนะคะ ไม่อย่างนั้นน้องไม่ยอมจริง ๆ ด้วย” กระทั่งเดือดร้อนไปถึงผู้เป็นพ่ออย่างสุรชัยที่ต้องเป็นคนจัดการ ซึ่งเขาก็เต็มใจรับหน้าที่นี้ เพราะหากปล่อยให้ภรรยาเป็นคนจัดการเองก็เกรงว่าลูกสาวคนโตอาจไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะเห็นได้ชัดว่าภรรยาไม่แม้แต่จะสอบถามหรือฟังความของอีกฝั่ง เป็นแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่ลูก ๆ ทะเลาะกัน

“เอาน่าคุณ เรื่องแค่นี้จะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไปทำไม ผมว่าคุณรีบพายัยขวัญเข้าไปทำแผลก่อนเถอะ เดี๋ยวทางนี้ผมจัดการเอง” ผู้เป็นภรรยาไม่ได้พูดอะไรต่อ นอกจากก้มลงไปจูงลูกสาวคนโปรดเข้าบ้าน ด้วยเชื่อว่าสามีจะจัดการลงโทษลูกสาวคนโตได้อย่างเหมาะสมตามที่อีกฝ่ายสมควรจะได้รับ เพราะถ้าหากเขาไม่ทำเธอนี่แหละจะเป็นคนลงมือด้วยตัวเอง

“เกิดอะไรขึ้นข้าว ทำไมจู่ ๆ น้องถึงได้ล้มลงไปกับพื้นแบบนั้น” ลับหลังภรรยาสุรชัยจึงหันกลับมาสอบถามความจริงจากปากของลูกสาวคนโต ด้วยเชื่อว่าขวัญข้าวไม่มีทางทำร้ายน้องสาวอย่างที่ถูกกล่าวหา ที่รู้เพราะเขาเลี้ยงลูกคนนี้มาเองกับมือ ย่อมรู้จักนิสัยของแกดีกว่าใคร ๆ

ลูกคนนี้เหมือนเขาแทบจะทุกอย่าง ขวัญข้าวมีความใจเย็น ต่างจากขวัญนรีที่ใจร้อน ซ้ำยังเอาแต่ใจตัวเอง จนบางครั้งเขาก็อดตำหนิตัวเองไม่ได้ว่าปล่อยให้ภรรยารักลูกไม่เท่ากันแบบนี้มาได้ยังไง แต่ครั้นจะให้ล้มกระดานแล้วเริ่มต้นใหม่ก็เกรงว่ามันคงจะสายไปแล้ว สิ่งที่พอจะทำได้ก็คงเห็นแต่จะมีแค่ให้ความรักลูกคนนี้แทนผู้เป็นแม่แท้ ๆ ที่ไม่เคยแม้แต่จะเหลียวแลแกเท่านั้น

“เป็นความผิดของข้าวเองค่ะพ่อ ขวัญอยากได้ตุ๊กตาตัวนี้ แต่ข้าวให้น้องไม่ได้ เราสองคนเลยแย่งกันจนทำมันขาด ข้าวโกรธเลยเผลอผลักน้องจนล้มค่ะ เป็นความผิดของข้าวเองค่ะ” ขวัญข้าวตอบพร้อมสะอื้นไห้อย่างหนักกับสภาพของตุ๊กตาที่ขาดจนไม่เหลือโครงเดิมให้ได้เห็น มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกเสียใจที่ปกป้องของขวัญชิ้นแรกที่พี่พีอุตส่าห์ให้มาไม่ได้ แต่ที่เสียใจยิ่งกว่านั้นคือนี่เป็นครั้งแรกที่เธอควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเองไม่อยู่จนเผลอทำให้น้องสาวบาดเจ็บ

“จำไว้นะลูก ข้าวเป็นพี่ ต้องเสียสละให้น้อง” นี่คือประโยคที่ทุกคนมักจะคอยตอกย้ำให้เธอฟังอยู่เสมอตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ว่าน้องสาวอยากจะได้อะไรก็ต้องได้ทุกครั้ง

แม้ว่าบางครั้งของที่น้องสาวอยากได้มันจะเคยเป็นของเธอมาก่อนก็ตาม และไม่ว่าเธอจะรักของชิ้นนั้นมากสักแค่ไหน ขอเพียงแค่น้องสาวปรารถนาอยากจะได้ เธอก็ต้องตัดใจจากมันแล้วยกให้น้องสาวไป

“ข้าวโกรธน้องไหมลูก” เมื่อได้รู้ถึงต้นตอของสาเหตุคนเป็นพ่อก็ได้แต่ลอบถอนหายใจ มันเป็นความผิดของทุกคนที่พากันคิดเอาเองว่าขวัญนรีควรได้รับความห่วงใยมากกว่าขวัญข้าว ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงแล้วเด็กสองคนนี้เกิดห่างกันแค่ไม่กี่นาที แม้อีกคนจะอ่อนแอกว่า แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่ใครต่อใครจะรักเด็กสองคนไม่เท่ากัน เพราะผลสุดท้ายแล้วขวัญนรีก็กลายเป็นคนที่มีความเชื่อผิด ๆ ว่าอยากได้อะไรแล้วต้องได้ แม้ว่าของสิ่งนั้นมันจะไม่ใช่ของตัวเองก็ตาม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel