ตอนที่ ๕ ยุติปัญหา 3
“อาก็จะทำให้พีชไม่กล้าพูดคำนี้อีกน่ะสิ” แวนเข้าตรงไปหาร่างบาง ฉุดกระชากให้ลงจากเตียงนอนแล้วเผชิญหน้ากันแบบไม่มีใครยอมหลบสายตา “มันไม่ใช่การหวดด้วยไม้เรียวหรือสั่งให้ยืนขาเดียวเหมือนตอนเด็กๆ หรอกนะ แต่อาจะกัดปากจิ้มลิ้มสีชมพูของพีชให้ขาดเลย บางทีอาจจะกัดลิ้นด้วยก็ได้ ต่อไปจะได้ไม่ต้องมาพูดให้ได้ยินว่าเกลียดกันอีก”
“บ้า! พูดอะไรบ้าๆ!” เรเน่พยายามบิดแขนออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย แต่ยิ่งสะบัดหนีมากเท่าไรมือหนาก็ยิ่งบีบแน่นขึ้น “พีชเจ็บนะคะ ทำไมอาแวนจะต้องทำรุนแรงด้วย พีชเกลียดอาแวนมันก็น่าจะดีแล้วไม่ใช่เหรอ เพราะพีชรักอาแวนไปมันก็ไม่มีค่าอยู่ดี”
“ความรักมันมีค่าในตัวของมันเอง อย่าไปดูถูกมันแบบนั้น” แวนเอ่ยจริงจัง “มีเหตุผลหน่อยสิคนสวยของอา อาเข้าใจดีว่าความรักมันห้ามกันไม่ได้ มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน แต่พีชก็ต้องเข้าใจด้วยว่าอาอยู่ในฐานะไหน อาเป็นอาของพีช เห็นพีชมาตั้งแต่วันแรกที่พีชเกิด แล้วก็เป็นคนดูแลเอาใจใส่พีชมาตลอด อยู่ๆ จะให้อามาคิดกับพีชมากกว่าหลานสาวได้ยังไง เข้าใจอาหน่อยสิ...นะ อย่าประชดประชันอดข้าวอดน้ำแบบนี้เลย แค่นี้โนอาห์กับพี่ษาก็กินไม่ได้นอนไม่หลับแล้ว พีชไม่เป็นห่วงพ่อแม่เลยเหรอ” เมื่อได้โอกาสอธิบายหญิงสาวก็นิ่งไปตามคาด อาจมีบางครั้งที่เอาแต่ใจตัวเอง แต่ถ้าแวนแจงเหตุผลให้ฟังทุกครั้ง เธอก็จะเริ่มคิดตามและมองเห็นความผิดของตัวเองเสมอ
“พรุ่งนี้พีชจะไปกราบขอโทษคุณพ่อคุณแม่ค่ะ พีชเองก็ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้หรอก แต่ทุกอย่างมันเพราะอาแวนคนเดียวเลย ตอนแรกพีชอุตส่าห์จะทำใจแล้ว แต่อาแวนก็เอาแต่พูดจาผลักไส แล้วยังมาหอมแก้มอารินโชว์อีก พีชเลย...ทนไม่ได้”
“อากับรินเป็นแค่เพื่อนกัน วันนั้นนายเชนท์มันทำสายตาชีกอ อาเลยเล่นละครเท่านั้นเอง”
“ช่างเถอะค่ะ พีชไม่อยากพูดเรื่องนี้แล้ว” แสร้งทำเป็นตัดบททั้งที่โล่งอกแทบตาย “จะว่าไปพีชก็ไม่ควรพูดว่าเกลียดอาแวนหรอก ยังไงอาแวนก็เป็นคุณอาของพีช เอาไว้ถ้าพีชหายบ้าเมื่อไร พีชจะกลับมาเป็นคนเดิมนะคะ แต่คืนนี้อาแวนออกไปเถอะ พีชยังไม่พร้อมจะเห็นหน้าอาแวนนานไปกว่านี้” พูดแล้วก็ดึงมือหนาออกห่างตัวอย่างนุ่มนวล หมุนตัวหันหลังยืนกอดอกเป็นเชิงไล่ให้ชายหนุ่มออกไปเสีย
แวนยืนมองคนตัวเล็กที่พยายามทำตัวหมางเมินแล้วก็ใจหายชอบกล ถึงแม้จะไม่อยากให้เรเน่รู้สึกกับเขามากไปกว่าความเป็นอาหลาน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องการเห็นเธอทำเป็นไม่สนใจใยดีแบบนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะต้องทนกับความอึดอัดใจพวกนี้ไปสักพัก ได้แต่หวังว่าหญิงสาวจะยอมกลับมาร่าเริงเหมือนเดิม ถ้าได้รู้ว่าสุดท้ายเขาไม่มีทางได้ไปเป็นของใครอื่น นอกจากต้องดูแลปกป้องเธอไปตลอดทั้งชีวิต
“ถ้างั้นก็...ราตรีสวัสดิ์นะ” แวนยอมกลับออกไปอย่างที่เรเน่ต้องการ แต่ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป ชายหนุ่มได้ขยับเข้าไปยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลัง แล้วโน้มตัวลงต่ำเพื่อจุมพิตที่ข้างแก้มนุ่มเนิ่นนาน มีอาการขัดเขินอยู่บ้างเพราะไม่ได้ทำแบบนี้มานานถึงเจ็ดปีแล้ว
นับจากวันนี้ไปเขาจะทำให้บ่อยขึ้นจนเคยชิน สัญญากับตัวเองว่าจะเลิกรู้สึกเกรงใจโนอาห์กับอุษาเสียที ถึงเวลาแล้วที่ต้องหันมารุกว่าที่ภรรยาพรหมจรรย์คนนี้ให้มากขึ้น รับรองได้เลยว่าเธอจะไม่มีทางตัดใจจากเขาได้สำเร็จ ตรงกันข้ามจะต้องรักเขามากกว่าที่เคยรักด้วย คิดแล้วแวนก็ถอยหลังแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องไป ใบหน้าหล่อเหลานิ่วหน้าด้วยความไม่เข้าใจตัวเอง ปากบอกว่าไม่อยากให้เรเน่คิดเกินเลยมาโดยตลอด แต่พอบุพการีของเธอเปิดไฟเขียวให้แล้วเต็มที่ เขาก็ดันตอบสนองอย่างไม่มีอิดออดเลยทีเดียว
เสียงประตูปิดลง...ในขณะที่เรเน่ยืนตาค้างหน้าแดงอยู่ที่เดิมเนิ่นนาน
แวนกำลังจะเดินกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง แต่สวนกับโนอาห์ที่กำลังจะเข้าห้องไปพักผ่อนเช่นกัน คนเป็นพี่ชายมองสบสายตาแล้วแยกยิ้มอบอุ่นเหมือนเคย อุษาที่เดินตามขึ้นมาก็ยิ้มให้ในแบบเดียวกัน ก่อนจะเอ่ยชวนให้แวนเข้าไปคุยกันข้างในห้องสักประเดี๋ยว
“เข้าไปคุยกันก่อนสิเอ็นโซ”
“ได้ครับ” ชายหนุ่มตกลงทั้งที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยถึงเรื่องใดอีก
“นั่งก่อนสิแวน” โนอาห์บอกให้น้องชายนั่งลงบนโซฟาเข้าชุดที่ตั้งอยู่ตรงมุมห้อง “เมื่อกี้ฉันเห็นนายออกมาจากห้องเรเน่ เป็นยังไงบ้าง...ได้บอกเธอไปหรือยังเรื่องที่นายต้องแต่งงานกับเธอ” สีหน้าของคนถามเต็มไปด้วยความคาดหวัง อุษาที่นั่งอยู่ข้างกันก็อยากรู้ด้วย
“ยังหรอกครับ ผมคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลา พวกพี่คงไม่ได้คิดจะให้ผมกับเรเน่แต่งงานกันเร็วๆ นี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ นี่เรเน่ก็บอกมาแล้วด้วยว่าจะไม่รีบร้อนเรื่องนายเชนท์อีก เพราะฉะนั้นพวกเราก็น่าจะมีเวลาอีกเยอะเลย” ชายหนุ่มเอ่ยยิ้มๆ
“ใครบอกล่ะว่ามีเวลาอีกเยอะ ฉันกับอุษาคิดว่าจะให้นายกับเรเน่แต่งงานกันอีกสามเดือนข้างหน้านี้เลย”
“อะไรนะครับ!”
“ไม่ต้องตกใจน่า จะช้าหรือเร็วก็ต้องแต่งอยู่ดี หรือนายไม่ได้รักลูกสาวฉัน”
“พูดอะไรแบบนั้นครับ เรเน่เป็นหลานสาวของผม ผมต้องรักเธอสิครับ” เขายืนยัน
“ฉันว่าต่อไปนี้นายควรจะเปลี่ยนความคิดได้แล้วนะ” โนอาห์ว่าพลางถอนหายใจ “ฉันรู้ว่านายรักเรเน่แบบหลานสาว แล้วก็ไม่มีทางกล้าคิดมากไปกว่านั้น เพราะนายกลัวว่ามันจะเป็นการไม่เหมาะสม นายแคร์ฉันกับอุษามาก แต่ฉันอยากให้นายเลิกเกรงใจ เลิกเอาเราสองคนมาเป็นข้อแม้ในการแบ่งแยกความสัมพันธ์กับเรเน่ ฉันอยากให้นายรักเธอแบบที่ผู้ชายคนหนึ่งรักผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ได้อยากให้นายปิดกั้นตัวเองเพียงเพราะคำว่าอา”
“แต่ว่า...”
“มันอาจจะยังไม่ใช่ตอนนี้ แต่แค่เปิดใจเอ็นโซ เปิดใจให้พีชบ้าง” อุษาเสริมขึ้น
“แล้วพวกพี่มั่นใจได้ยังไงครับว่าเธอจะรักผมแบบอื่นได้” เขาแค่แสร้งถามดู
“นายเองก็รู้อยู่แก่ใจนี่ว่าลูกสาวฉันคิดยังไง” พี่ชายที่ต่างวัยกันถึงยี่สิบปีหัวเราะร่วน “เราได้ยินหมดแล้วที่เรเน่พูดตอนมาถึงบ้าน ฉันกับอุษาแปลกใจกันมาตั้งนานว่าอะไรที่ทำให้เรเน่ตัดสินใจไปเรียนต่อ ที่แท้ก็เพราะนายไม่รับรักนี่เอง ใจร้ายจริงนะแวน” แทนที่จะไม่พอใจ แต่กลับทำเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
“นี่...พวกพี่ได้ยินหมดแล้วเหรอครับ!” ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างด้วยความคาดไม่ถึง
“ใช่จ้ะ เราได้ยินชัดเจนทุกคำเลย เพราะฉะนั้นพีชไม่น่าจะใช่ปัญหาใหญ่อะไร คงต้องดีใจมากด้วยซ้ำถ้ารู้ว่าจะได้แต่งงานกับเอ็นโซ ตอนนี้มันเป็นหน้าที่ของเธอเพียงคนเดียวแล้วนะที่จะต้องเป็นฝ่ายเปิดใจ ลูกสาวของพี่ทั้งสวยทั้งน่ารัก รับรองว่าไม่นานก็ต้องตกหลุมรักแน่นอน”
“มันจะไปแปลกไปหน่อยเหรอครับ ผมคิดมาตลอดว่าถ้าพวกพี่รู้เรื่องที่เรเน่คิดเลยเถิดกับผม พวกพี่จะไม่พอใจมากเสียอีก แต่นี่กลับนั่งยิ้มหน้าตาแจ่มใสเหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถึงผมจะไม่ใช่อาแท้ๆ แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นอา หลานสาวหลงรักอานี่มันออกจะเป็นเรื่องไม่น่ายินดีเลยนะครับ” แวนงงเป็นไก่ตาแตกไปแล้ว
“ความรักมันเป็นสิ่งสวยงามนี่แวน ไม่ว่าจะรักแบบไหนเราก็ไม่มีปัญหาหรอก อีกอย่างนายก็ไม่ใช่อาแท้ๆ ของเรเน่ด้วย ที่พูดไม่ใช่เพราะต้องการย้ำเตือนให้เอาไปคิดมากหรอกนะ สำหรับฉันนายคือน้องชายเพียงคนเดียวที่ฉันรักและไว้ใจมากที่สุดเสมอ จำไว้นะ”
“ใช่จ้ะ พี่ก็รักเธอเหมือนน้องชายแท้ๆ เลยนะ ไม่งั้นคงไม่กล้าขอร้องให้เธอดูแลพีชไปทั้งชีวิตหรอก” อุษายิ้มหวาน แม้เวลาอายุจะล่วงเลยมาจนถึงห้าสิบปีแล้ว ทว่าเธอก็ยังดูสวยอ่อนโยนไม่เคยเปลี่ยน
“ถ้าลูกสาวของเราได้อยู่กับคนดีอย่างเธอ พี่สองคนก็คงไม่มีอะไรให้ห่วงอีกแล้ว”
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจะดูแลเธอด้วยชีวิตของผม เหมือนอย่างที่ผมเคยสัญญาเอาไว้ในวันแรกที่เธอลืมตาดูโลก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะไม่มีวันทอดทิ้งเธอเด็ดขาด แต่พวกพี่ก็ต้องช่วยกันภาวนาขอให้เธอเลิกดื้อเสียที ไม่งั้นผมคงปวดหัวตายแน่” แวนทำหน้าขยาด เรียกเสียงหัวเราะจากสองสามีภรรยาได้เป็นอย่างดี
