ตอนที่ ๕ ยุติปัญหา 2
“ค่ะ! พีชมันใจง่าย” ถูกต่อว่าด้วยถ้อยคำที่ตรงข้ามกับความจริง เธอก็ถึงกับน้ำตาคลอ ไม่ได้สนใจอยากจะอธิบายความจริงให้เขาฟัง เพราะนอกจากมันไม่เกิดประโยชน์แล้ว แผนของเธอก็จะพังไม่เป็นท่าอีก “ถึงจะไม่ท้องแต่พีชก็ต้องแต่งงานค่ะ พี่เชนท์ต้องรับผิดชอบในตัวพีช”
“ไม่จำเป็น อาเองก็นอนกับผู้หญิงมาหลายคน ไม่เห็นต้องรับผิดชอบอะไรเลย”
“อาแวนไม่ใช่สุภาพบุรุษ” เธอพ่นพูดออกมาเมื่อคิดถึงสิ่งที่เขาทำกับเธอในบ้านของสุริษา
“มันอาจจะใช่ในส่วนที่อาลึกซึ้งกับคนอื่นทั้งที่ไม่ได้แต่งงาน แต่มันคือความเต็มใจของทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่การรักสนุกแบบเด็กๆ ที่พอเสียตัวแล้วก็มาเรียกร้องให้รับผิดชอบ ที่สำคัญคนที่พีชอยากได้จนตัวสั่นมันก็มีลูกเมียแล้วด้วย อยากให้สังคมตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยนักเหรอฮะ! ทำอะไรหัดคิดถึงหัวอกพ่อแม่บ้าง รู้ไหมว่าเมื่อวานพี่ษาร้องไห้หนักขนาดไหน”
“พีช...” หญิงสาวรู้สึกผิดมากเหมือนกันที่ปล่อยให้ความต้องการของตัวเองมาทำร้ายบุพการี “พีชเสียใจค่ะที่มันเป็นแบบนี้ แต่พีชอยากแต่งงานให้เร็วที่สุด อาแวนเองก็น่าจะชอบไม่ใช่เหรอคะ ต่อไปจะได้ไม่ต้องมาเหนื่อยหน่ายเพราะพีชอีก พีชมันน่ารำคาญนักนี่!”
“อาไม่ชอบแบบนี้ มันไม่ควรเป็นแบบนี้” แวนขบกรามแน่น ทุบพวงมาลัยรถไปสามทีซ้อนเพื่อระบายความอัดอั้นใจ “อาเคยพูดว่าอยากให้พีชได้แต่งงานมีครอบครัวที่ดี แต่มันต้องไม่ใช่กับไอ้หมอนี่ มันไม่คู่ควรกับพีช มีลูกเมียอยู่แล้วก็ยังกล้ามาใช้คำว่าแฟนกับพีชอีก มันไม่ถูกต้องนะ!”
“อาแวนจะสนใจทำไมคะ แค่ให้พีชไปไกลสายตาก็น่าจะพอใจแล้ว”
“อย่างี่เง่านะเรเน่! เรื่องบ้าพวกนี้มันไม่มีเหตุผลเอาซะเลย”
“เหตุผลน่ะมีแน่ค่ะ เหตุผลที่ทำให้พีชไม่อยากอยู่ที่นี่ก็เพราะอาแวน!” เรเน่หมดความอดทน “ถ้ากลัวจะเสียหน้าเพราะพีชไปแย่งสามีชาวบ้าน ก็ได้ค่ะ...พีชจะไม่แต่งงานก็ได้ แต่พีชจะย้ายกลับไปอยู่ฝรั่งเศส หาสามีฝรั่งเอาที่นั่น เพราะยังไงพีชก็จะไม่อยู่ทนมองหน้าอาแวนอีก พีชเกลียดอาแวน เกลียด!” เธอตะโกนทั้งน้ำตา แวนสะบัดหน้าหันมามองด้วยความไม่เข้าใจ
“อาไปทำอะไรให้เกลียดนักหนา” เสียงทุ้มฟังดูสับสนมากกว่าจะเสียใจ
“เพราะอาแวนใจร้ายน่ะสิ! พีชรักอาแวนแทบตาย แต่อาแวนก็เอาแต่มองข้ามความรู้สึกของพีช!” จังหวะนั้นเองที่รถแล่นเข้าไปสู่เขตคฤหาสน์เลอฟรองด์ ชายหนุ่มหยุดรถลงที่โรงจอดรถ เรเน่เปิดประตูออกแล้วตั้งท่าจะวิ่งหนีเข้าบ้านไป โชคร้ายที่แวนไวกว่ามากจึงตามลงมาคว้าข้อมือเล็กไว้ได้ทัน
“ที่พูดมันหมายความว่ายังไง” เขาถามเสียงดังฟังชัด
“พีชโกหกค่ะ...ที่เคยบอกว่าพีชไม่ได้รักอาแวนแบบอื่น!” เธอก็ตอบเสียงดังฟังชัดเช่นกัน “พีชยังรักอาแวนเหมือนอย่างที่เคยบอกไปเมื่อเจ็ดปีก่อน พีชไม่ได้รักอาแวนแบบอา แต่มันมากมายกว่านั้น พีชพยายามแล้วที่จะเลิกคิดบ้าๆ แต่มันทำไม่ได้...ทำไม่ได้เข้าใจไหมคะ!”
“นี่พีช...” แวนอึ้งจนพูดไม่ออก มือที่กุมข้อมือเธอไว้หลุดออกไปโดยอัตโนมัติ
“ถ้าวันนั้นพีชบอกความจริงไป อาแวนก็จะเอาแต่หลบหน้าพีชอีก พีชโกหกไป เพราะอยากให้อาแวนอยู่ด้วยตลอดเวลา อยากมองเห็นอาแวนในสายตาเสมอ พีชไม่ชอบให้อาแวนไปอี๋อ๋อออดอ้อนกับใครเหมือนที่ทำกับอาริน พีชทั้งหึงทั้งหวง แต่อาแวนก็ไม่เคยดูออกเลย” เรเน่ร้องไห้ไปและพูดไปไม่ยอมหยุด วันนี้เธอจะบอกเหตุผลทุกอย่างที่เขาอยากรู้ จะได้เลิกกล่าวหาว่าเธองี่เง่าเอาแต่ใจแบบไร้เหตุผลเสียที
“ทำไม...” หัวใจของแวนเต้นแรง พูดไม่ออกไปเสียแล้ว
“ความจริงพีชกับพี่เชนท์ไม่เคยมีอะไรเกินเลยกัน พีชโกหกเพราะอยากแต่งงานแล้วไปให้พ้นจากชีวิตอาแวน พีชทรมานกับความรู้สึกของตัวเองค่ะ พีชเลิกคิดไม่ได้ ทำยังไงมันก็เลิกรักอาแวนแบบอื่นไม่ได้ ขืนพีชยังอยู่ต่อไป พีชจะต้องเป็นบ้าตายแน่ที่เห็นอาแวนไปแต่งงานกับคนอื่น” ริมฝีปากบางสั่นระริก ดวงตาสีเทาหม่นมองสบกับดวงตาสีฟ้ากระจ่างด้วยความเศร้าเสียใจ
“อาไม่เคยรู้เลยว่ามันจะทำให้พีชทรมานขนาดนี้” แวนเสียใจยิ่งกว่าเมื่อรู้ถึงความน่าสงสารของเธอ
“ไม่ต้องมาสมเพชเวทนาพีชนะคะ ถ้าอยากช่วยก็แค่ช่วยให้พีชได้ไปอยู่ให้ไกลก็พอ ก่อนที่พีชจะตายเพราะรักอาแวนข้างเดียว ในเมื่อรู้แบบนี้แล้วก็ไม่ต้องหนีหน้าไปไหนอีกนะคะ คราวนี้พีชจะไปเองเหมือนเดิม แต่จะต่างจากเดิมตรงที่พีชจะไม่กลับมาอีกแล้ว พีชจะไม่มารกสายตาอาแวนอีก!” หญิงสาวยกมือขึ้นปาดน้ำตาให้ตัวเอง แล้วเดินกึ่งวิ่งเข้าไปข้างในบ้าน หยุดชะงักเล็กน้อย เมื่อเห็นบิดามารดายืนนิ่งอึ้งอยู่ตรงหน้าประตู ก่อนจะรีบหนีหน้าด้วยการวิ่งขึ้นไปเก็บตัวอยู่บนห้องนอน เอาแต่นั่งกอดตัวเองร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ตามลำพัง
แวนเอนหลังพิงรถเบนซ์คันโปรดด้วยท่าทางเหมือนคนสิ้นหวัง ไม่เคยคิดเลยว่าเรเน่ต้องทุกข์ทรมานใจมากมายกับการที่หลงรักเขาอย่างจริงจัง เขาเลี้ยงดูเธอมาในฐานะหลานสาว แต่มันเกิดอะไรขึ้นเธอถึงได้คิดเลยเถิดไปไกล ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองแล้วสูดลมหายใจเข้าให้เต็มปอด เรื่องของเรเน่เอาไว้ค่อยหาทางออกทีหลัง ตอนนี้เขาควรไปบอกข่าวดีกับโนอาห์และอุษาเสียก่อน ว่าเรเน่ไม่ได้ชิงสุกก่อนหามอย่างที่โกหกไว้เต็มคำ
แวนลากร่างที่หนักอึ้งของตัวเองเดินเข้าไปในห้องโถง พบสองสามีภรรยานั่งสงบนิ่งอยู่ตรงนั้น อุษายิ้มให้เมื่อชายหนุ่มเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา สีหน้าที่ดูแปลกไปอยู่ในทีทำให้เขาเริ่มกังวล กลัวว่าทุกอย่างจะแย่ลงหากทั้งคู่ได้ยินคำพูดทั้งหมดของเรเน่ แต่คงไม่ เพราะโรงจอดรถห่างออกจากตัวบ้านไม่น้อยเลย ไม่มีทางได้ยินหรอกถ้าไม่ได้ออกไปยืนข้างฟังอย่างตั้งใจ
“ผมข่าวดีครับ วันนี้พาเรเน่ไปตรวจที่โรงพยาบาลมาแล้ว ผลปรากฏว่าเธอไม่ได้ตั้งท้องอย่างที่พูดให้พวกเรากลัว เธอบอกว่าเธอไม่เคยมีอะไรเกินเลยกับหมอนั่นเลยด้วยซ้ำ แต่พูดแบบนั้นเพราะอยากรีบแต่งงาน อยากกลับไปอยู่ที่ฝรั่งเศส ผมเดาว่าเธออาจจะแค่เบื่อเมืองไทยน่ะครับ”
“ทั้งที่กลับมายังไม่ถึงเดือนเนี่ยนะแวน” โนอาห์ทำหน้าเหลือเชื่อ
“เอ่อ...ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” แวนยักไหล่และฝืนยิ้มให้เหมือนดูสบายใจขึ้น “อย่างน้อยมันก็ดีที่เธอไม่ได้ท้อง เพราะฉะนั้นเรื่องที่พวกพี่ต้องการให้ผมทำ ผมคงไม่มีความจำเป็นต้องทำแล้วใช่ไหมครับ หมายถึงว่า...ถ้าเราขัดขวางการแต่งงานของเรเน่กับนายเชนท์ได้ มันก็จะไม่มีใครมาว่ากล่าวหาว่าเรเน่เป็นมือที่สาม ทุกอย่างจะยังคงปกติ”
“เธอแน่ใจเหรอว่ามันปกติน่ะเอ็นโซ...มีอะไรที่เธอไม่ได้บอกเราหรือเปล่า” อุษาถามเพื่อหยั่งเชิง แวนคงไม่รู้ว่าเธอกับโนอาห์ได้ยินคำพูดของลูกสาวหมดแล้วทุกคำ ต้องยอมรับว่ามันเป็นความจริงที่น่าทึ่งมาก “เรเน่น่าจะมีเหตุผลที่มากกว่านั้นสำหรับการยอมทิ้งพ่อแม่ไปอยู่ที่อื่น ที่ผ่านมาเธอพูดเสมอนะว่ารักเมืองไทยมาก อยากกลับมาอยู่ที่นี่กับเรา”
“ผม...”
“ฉันคิดว่าเราไม่ควรยกเลิกในสิ่งที่คุยกันไว้หรอกนะ” โนอาห์สวนขึ้น
“ทำไมล่ะครับ?”
“มันไม่มีอะไรที่ยืนยันได้หรอกว่านายเชนท์จะยอมรามือง่ายๆ ทางเดียวที่จะทำให้มันไม่สมหวังคือการตัดหน้าด้วยวิธีที่เราคุยกันไว้ หรือว่านายลำบากใจแวน เราสองคนจะได้ขอให้คนอื่นที่อาจจะพอไว้ใจได้มาช่วยทำเรื่องนี้แทน เรเน่เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของฉัน ฉันจำเป็นต้องทำทุกอย่างเพื่อยุติความดื้อรั้นของเธอ”
“ไม่ครับ ผมไม่ได้ลำบากใจอะไร” ชายหนุ่มบีบมือตัวเองแน่น ก้มหน้าลงมองพื้นอย่างครุ่นคิด แล้วเงยหน้าขึ้นสบตาอีกครั้ง “บอกตามตรงว่าผมคิดว่ามันค่อนข้าง...แปลก ผมห่วงความรู้สึกของพี่ทั้งสองคนมาก ถ้าอยากให้ผมทำตามที่คุยกันไว้จริงๆ ช่วยยืนยันได้ไหมครับว่าพวกพี่จะไม่เสียใจทีหลัง”
“ไม่จ้ะเอ็นโซ พวกเราสองคนมั่นใจดีแล้ว เราจะไม่เสียใจแน่”
“แล้วคนอื่นๆ จะคิดกันยังไงครับ ข่าวที่ตามมาต้องไม่ใช่ข่าวดีแน่”
“นั่นคงขึ้นอยู่กับนายแล้วว่าจะยอมเปิดปากพูดถึงที่มาของตัวเองหรือเปล่า” โนอาห์เองก็ลำบากใจในส่วนนี้
“เรื่องพวกนั้นไม่มีผลอะไรกับผมหรอกครับ ผมยินดีจะพูดถึงมันอีกครั้ง”
“ถ้างั้นก็ดีแล้ว รู้ไว้นะว่าพวกเรามั่นใจในตัวนาย ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง เราจะไม่มีวันเสียใจที่ขอให้นายทำแบบนี้ นายเองก็รู้นี่ว่าเราสองคนรักนายแค่ไหน มันเหมือนกับที่เรารู้นั่นแหละว่านายเองก็รักลูกสาวของเรามาก” โนอาห์ยิ้มอ่อนโยน
“ผมดีใจที่ได้ยินแบบนี้ครับ” มันทำให้แวนอุ่นใจมากพอที่จะยอมทำตามสิ่งที่รับปากไว้ เขาพยักหน้ายิ้มให้พี่ชายและพี่สะใภ้ สูดลมหายใจเข้าแล้วผ่อนออกทางปาก สีหน้าดูผ่อนคลายมากขึ้น “ตกลงครับ...ผมจะแต่งงานกับเรเน่ตามที่สัญญาไว้ หวังว่าเธอคงจะยอมก็แล้วกัน” เขาจะทำในส่วนของตัวเองให้ดีที่สุด ทั้งการพูดความจริงว่าเขาไม่ใช่คนในตระกูลเลอฟรองด์ แต่เป็นเด็กที่มาติชรับอุปการะไว้โดยไม่ได้จดทะเบียนเปลี่ยนนามสกุลตามกฎหมาย
“เรเน่จะต้องยอมจ้ะ พี่มั่นใจ” อุษายิ้มมีเลศนัยพร้อมกับลอบสบตากับสามี จากสิ่งที่ได้ยินมาอย่างชัดเจนเมื่อครู่ บ่งบอกได้ดีทีเดียวว่าแวนนี่แหละคือตัวยุติปัญหาอย่างแท้จริง เรเน่หลงรักคุณอาหัวปักหัวปำ ส่วนแวนเองก็รักเธอมาก แม้จะเป็นในแบบของอาหลาน แต่ถ้าได้แต่งงานกันไปแล้ว อุษามั่นใจว่าทุกอย่างจะดีเอง
ความจริงต่อให้ไม่มีเรื่องของเชนท์เกิดขึ้น ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามแผนนี้อยู่แล้ว เพราะเรื่องที่อุษากับโนอาห์ต้องการให้แวนแต่งงานกับเรเน่ มันไม่ใช่ความบังเอิญ แต่มันเป็นสิ่งที่คิดกันไว้มานาน โนอาห์โล่งอกมาตลอดที่แวนไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานกับผู้หญิงที่คบหา เพราะถ้ามันเกิดขึ้นจริงเขาก็ไม่รู้ว่าควรขัดขวางอย่างไร
มันเหลือเชื่อมากว่าในที่สุดแวนก็ยังคงครองความโสดเรื่อยมา ซ้ำในวันนี้ยังได้ประหลาดใจอีกว่าเรเน่รักเขามากกว่ากว่าอาหลาน มันเป็นสิ่งที่ทำให้หัวใจของคนเป็นพ่อแม่ชุ่มชื่นและเต็มไปด้วยความหวัง โนอาห์กับอุษาคุยกันอยู่เสมอว่าทั้งคู่คือสิ่งที่พระเจ้าสร้างมาให้คู่กัน
แวนเกิดมาเพื่อเป็นของเรเน่เพียงคนเดียว...
เรเน่ขลุกอยู่ข้างในห้องนอนตั้งแต่กลับมาจากโรงพยาบาล จวบจนถึงตอนที่พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า แล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของดวงจันทร์ได้สาดแสงนวลผ่องคู่กับดวงดาวพราวระยับ หญิงสาวร้องไห้จนตาบวมช้ำ ใบหน้าที่เคยสวยสดเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความผิดหวังเสียใจ
ระหว่างที่ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองตามลำพัง เธอได้สร้างกำแพงที่เกิดจากทิฐิขึ้นมาในหัวใจ สัญญากับตัวเองว่าต่อให้เลิกรักแวนไม่ได้ แต่ก็จะไม่ยอมให้เขาก้าวข้ามกำแพงเข้ามาใกล้ชิดได้อีก ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเชนท์นั้น ในเมื่อบุพการียืนยันว่าอยากให้เชนท์พิสูจน์ตัวเองและจัดการกับภรรยาให้ถูกต้องเสียก่อน เธอก็จะไม่เร่งรัดเรื่องการแต่งงานอีก
เสียงเคาะประตูหนักๆ ดึงเรเน่ให้หลุดจากภวังค์ ยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้ม แล้วพลิกตัวหันไปอีกด้านของเตียงนอน ไม่สนใจจะลุกไปเปิดประตูให้ใครในตอนนี้ ในที่สุดเสียงก็เงียบลงไปเป็นคำตอบว่าคนข้างนอกได้ถอดใจกลับลงไปข้างล่างแล้ว หญิงสาวถอนหายใจแล้วนอนงอตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนโต เกือบจะเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่น้ำหนักมหาศาลที่กดลงข้างตัวจนเตียงยุบฮวบลงไป ทำให้สะดุ้งพรวดลุกขึ้นมองทันที
“อาแวน!” เธอเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว “ออกไปจากห้องพีชนะ พีชไม่อยากเห็นหน้าอาแวน ไม่อยากคุยด้วย ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นถ้ามีแวน เอ็นโซ ลูเดนซิโออยู่ด้วย!” แล้วขยับลุกขึ้นมาผลักร่างหนาที่เอนกายนั่งกึ่งนอนอยู่ข้างๆ ตอนนี้สถานะอาหลานมันก็แค่ชั่วคราว อีกไม่นานเขาก็จะกลายเป็นสามีของเธอ เพราะฉะนั้นมันคงไม่เป็นไรหากจะเข้าใกล้ให้มากขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อม
“แน่ใจเหรอว่าไม่อยากเห็นหน้าอา ไหนบอกว่ารักอาไง เพิ่งพูดไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน อย่าบอกนะว่าลืมไปหมดแล้ว” แวนไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าท่ามกลางเรื่องน่าปวดหัวมากมาย สุดท้ายทำไมเขาถึงได้อารมณ์ดีนัก อีกทั้งยังนึกอยากแกล้งแต่หลานสาวตัวดีให้สะใจอีก โทษฐานที่เป็นต้นเหตุทำให้เขาต้องสละโสดมาเป็นของเธอคนเดียว
“ใช่ค่ะ ลืมไปหมดแล้ว ตอนนี้จำได้แค่ว่าพีชเกลียดอาแวน” หญิงสาวสะบัดหน้าหนี แล้วก็ต้องกรีดร้องออกมาสุดเสียง เมื่อแวนจู่โจมด้วยการรวบไหล่บางให้เอนกายลงบนเตียง ส่วนตัวเขาพลิกตัวเองขึ้นมาคร่อมอยู่เหนือเธอ “ทำอะไรน่ะอาแวน ถอยไปไกลๆ พีชนะ!” เธอตกใจแทบแย่ เพราะแต่ไหนแต่ไรมา แวนไม่เคยเล่นแบบนี้มาก่อน
“ทีตอนนี้มาบอกให้ถอย แต่ตอนที่อาไม่สบายนี่ยอมให้จูบอยู่ได้ตั้งนาน”
“นี่...นี่อาแวนรู้เหรอคะ!” ดวงหน้างามซีดเผือดทันใด
“รู้สิ อาจำได้หมดนั่นแหละ แต่มันบอกไม่ได้ว่าจำได้” ชายหนุ่มผละห่างออกไป ทำหน้าอึดอัดแต่ก็ยอมพูดออกมา “ที่อาถามพีชเรื่องที่รู้สึกกับอาเหมือนเมื่อหลายปีก่อนอยู่ไหม อาแค่ต้องการหลอกตัวเอง เพราะการที่พีชกล้าจูบอามันบอกทุกอย่างหมดแล้วว่าอะไรเป็นอะไร แต่อาไม่ได้ตั้งใจจะ เอ่อ...ทำแบบนั้นนะ ตอนนั้นมันเบลอไปหมด อาเห็นพีชเป็นคนอื่นเลยเผลอทำไม่ดีไป” ตอนนั้นเขามีไข้สูงมาก สายตาพร่ามัวจนมองเห็นเธอกลายเป็นคนรักคนหนึ่งในอดีต ลืมตัวกอดจูบลูบคลำอยู่เสียนาน แต่พอสายตากลับมาชัดเจนอีกครั้งก็รีบผละออกห่าง และแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น
“รู้แล้วค่ะว่าไม่ตั้งใจ พีชก็ไม่ตั้งใจเหมือนกัน มันแค่อารมณ์ชั่ววูบ” เรเน่มองมาด้วยสายตาตัดพ้อเต็มที่
“อย่างอนน่า เรายังมีเวลาแก้ตัวใหม่อีกเยอะ” นิ้วเรียวเอื้อมมาบีบแก้มนุ่ม แต่เธอปัดออกอย่างหงุดหงิด
“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ”
“มันยังไม่ถึงเวลาที่พีชต้องรู้หรอก รู้ไว้อย่างเดียวก็พอว่าอาเป็นของพีชคนเดียว” คำพูดนี้ทำเอาหัวใจคนที่กำลังสร้างกำแพงกางกั้นอย่างแน่นหนาแทบพังทลายลง แต่ก็บอกตัวเองว่าอย่าไปหลงไว้ใจคนอย่างแวนอีก นี่พ่อแม่ของเธอคงส่งเขามาเป็นตัวกลางยุติสงครามเย็นสินะ ถึงได้งัดคำพูดหวานๆ มาหว่านล้อมแบบนี้
ฝันไปเถอะ...คราวนี้เธอจะไม่ยอมให้เขามีอิทธิพลเหนือกว่าอีกแล้ว
“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีหรอกค่ะ ไปบอกคุณพ่อคุณแม่เถอะว่าพีชจะยังไม่รีบเรื่องแต่งงาน เอาไว้ให้พี่เชนท์พิสูจน์ตัวเองได้เสียก่อนแล้วค่อยว่ากัน แล้วระหว่างนี้พีชจะทำให้อาแวนเห็นว่าพีชทำใจได้ พีชเคยอยู่แบบไม่สนใจอาแวนมาตั้งเจ็ดปี นับจากนี้ไปพีชก็จะอยู่แบบไม่สนใจอาแวนอีกเหมือนกัน” ใบหน้างามสะบัดหนีอีกครั้ง
“เสียใจ เพราะอาจะไม่ยอมให้พีชเมินใส่อีกเด็ดขาด ต่อไปนี้พีชไปไหนอาก็จะไปด้วย อาจะติดหนึบจนพีชรำคาญเลย แต่ต่อให้รำคาญแค่ไหนอาก็จะไม่ออกห่าง เอ...ถ้าจะให้ดีอาควรย้ายมานอนห้องนี้เลยด้วยดีไหม เราจะได้ใกล้ชิดกันตลอดเวลาเลย” แวนเย้าเล่นด้วยความหมั่นไส้ ชักเสียหน้าขึ้นมาเหมือนกันเวลาที่หญิงสาวเอาแต่พร่ำว่าต่อไปจะไม่รักไม่สนใจเขาอีก
“ให้ตายเถอะ! อาแวนจะมาไม้ไหนอีกคะ อยากแกล้งพีชใช่ไหม?”
“เปล่านะ อาพูดจริง ไม่ได้แกล้ง” เขายืนยันแล้วยิ้มมุมปาก
“ออกไปให้พ้นนะคะ! พีชเกลียดอาแวน เกลียด!” ความหงุดหงิดทำให้เรเน่ตวาดลั่นด้วยถ้อยคำที่อาหนุ่มสุดแสนจะรังเกียจ เขาไม่ชอบให้เธอพูดว่าเกลียดเขา ข้อแรกเป็นเพราะมันไม่จริง เธอรักเขาต่างหาก รักแบบเลยเถิดเสียด้วย ข้อสองก็เพราะเขาเองก็รักเธอ ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบไหน สิ่งที่เขาต้องการตอบกลับมาก็ย่อมไม่ใช่ความเกลียดชังอยู่แล้ว
“อย่าพูดคำนี้อีก!” ชายหนุ่มตวาด ก่อนจะพาตัวเองลงจากเตียงนอน
“พีชจะพูด พีชเกลียดอาแวน เกลียดที่สุดในโลก!”
“อย่าให้อาเตือนอีกครั้งนะเรเน่” ดวงตาสีฟ้ากระจ่างวาวโรจน์
“ทำไมคะ ถ้าพีชจะพูดอีกแล้วอาแวนจะทำไมพีช” เธอเชิดหน้าใส่
