ตอนที่ ๕ ยุติปัญหา 1
แวนนอนลืมตาโพลงอยู่ท่ามกลางความมืด หลังจากโนอาห์กับอุษาบอกในสิ่งที่เขาต้องทำแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันไปตามหาเรเน่ตามที่ต่างๆ สุดท้ายก็พบว่าเธอไปค้างอยู่ที่บ้านสุริษา เพื่อนที่เคยสนิทกันมากเมื่อตอนเรียนอยู่ที่เมืองไทย นั่นแหละถึงได้โล่งอกยอมกลับบ้านมาอาบน้ำเข้านอนกัน แม้ว่าทั้งบ้านจะไม่มีใครข่มตาหลับได้เลยสักคนก็ตาม
สิ่งที่โนอาห์กับอุษาขอร้องให้ช่วยไม่ได้ทำให้แวนลำบากใจอย่างที่คิด เขาตกใจเสียมากกว่าที่ทั้งสองคนใช้วิธีแบบนั้นเป็นทางออก ในจังหวะเวลาที่เขากลายเป็นที่พึ่งพาสุดท้าย หัวสมองมันสับสนอื้ออึงไปหมด กว่าจะรู้ตัวอีกครั้งก็หลังจากที่ตกปากรับคำไว้แล้วเป็นมั่นเป็นเหมาะ รอยยิ้มของคนที่รักทำให้เขาไม่กล้าปฏิเสธ และไม่มีวันยอมเอ่ยปากปฏิเสธด้วย
แวนไม่ได้หลับเลยจนกระทั่งท้องฟ้ายามเช้าสาดแสงส่องเข้ามาทางรอยแยกของผ้าม่าน ชายหนุ่มลุกจากเตียงด้วยสีหน้าและแววตาเย็นชา หายเข้าไปอาบน้ำแปรงฟันให้สดชื่น แล้วกลับออกมาแต่งตัวด้วยชุดเรียบง่ายอย่างเสื้อคอวีแขนสามส่วนสีขาวกับกางเกงยีนสีเข้มจนเกือบดำ จากนั้นก็เดินกึ่งวิ่งลงบันไดไปข้างล่าง โนอาห์กับอุษาที่นั่งหน้าตาเคร่งเครียดรออยู่ที่โต๊ะอาหารมองสบตากัน เมื่อเห็นแวนเพียงแค่แยกยิ้มให้เล็กน้อย แล้วรีบคว้ากุญแจออกจากบ้านไป
เมื่อขึ้นมานั่งบนตำแหน่งประจำพร้อมคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อย แวนก็หยิบแว่นกันแดดสีชาขึ้นมาสวม ตรวจดูตัวเองผ่านทางกระจกเหนือศีรษะ หลังจากพร้อมแล้วสำหรับสิ่งที่ต้องจัดการ ชายหนุ่มก็สตาร์ทเครื่องยนต์ขับออกไปด้วยความเร็วสูง
เป้าหมายเบื้องหน้าคือบ้านของสุริษา เพื่อนสนิทที่เรเน่หนีหน้าไปหลบอยู่ด้วยมาตลอดทั้งคืน ซึ่งมันจะต้องจบลงภายในวันนี้ โนอาห์กับอุษาให้สิทธิ์กับเขาอย่างเต็มที่ เขาเท่านั้นที่เป็นคนกุมชะตาชีวิตของเธอไว้นับจากวันนี้ไป ในเมื่อหลานสาวที่น่ารักแสนดี ได้ถูกแทนที่ด้วยผู้หญิงดื้อรั้นไม่รักนวลสงวนตัวคนหนึ่ง ความเป็นอาหนุ่มที่แสนอ่อนโยนอบอุ่นของเขาก็ไม่จำเป็นต้องหลงเหลืออยู่อีกเหมือนกัน
แวนจอดรถที่หน้าบ้านหลังใหญ่แล้วเปิดประตูก้าวลงมาจากรถ สาวใช้ที่ดูแล้วน่าจะอายุยังไม่ถึงสิบแปดปีเดินออกมาต้อนรับอย่างยิ้มแย้ม ชายหนุ่มผู้มาเยือนไม่ได้สนใจยิ้มให้หรือตอบคำถามที่ว่าต้องการมาพบใคร แต่รีบถือวิสาสะก้าวเข้าไปข้างในบ้านในทันที สายตาคมกวาดมองไปทั่วบริเวณ พบหลานสาวตัวดีนั่งทำหน้าเหม่ออยู่ในห้องรับแขก เดาว่าสุริษาคงอยู่ข้างบนห้องหรือไม่ก็อาจจะออกไปนอกบ้านแล้ว
เจ้าของร่างกำยำผึ่งผายก้าวอาดๆ ตรงเข้าไปคว้าข้อมือบางแน่น เรเน่หน้าซีดตกใจจนตัวสั่น เมื่อเห็นคุณอาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าด้วยท่าทางเครียดขรึม หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอไปอย่างยากลำบาก ตั้งสติอยู่ชั่วครู่ก็บิดข้อมือออกให้พ้นจากการเกาะกุม
“ปล่อยค่ะ!”
“กลับบ้านเดี๋ยวนี้” เสียงของแวนฟังดูน่ากลัว
“พีชไม่กลับ! จนกว่าคุณพ่อคุณแม่จะยอมให้พีชแต่งงาน แล้วไปจากที่นี่เสียที!” เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มได้เห็นหลานสาวดื้อรั้นหัวแข็งถึงเพียงนี้ แต่ไหนแต่ไรมา เรเน่อาจจะชอบต่อปากอยู่บ้าง แต่นี่มันไม่ใช่ในลักษณะท่าทางแบบที่เขาเคยเห็น เธอกำลังทำเหมือนเด็กเล็กๆ ที่ประชัดประชันพ่อแม่เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ
“งานแต่งงานนั่นมันจะไม่เกิดขึ้นหรอก อายืนยันได้เลย” เขากระตุกยิ้มเหี้ยม สายตาตวัดไปเห็นประตูซึ่งเดาว่าน่าจะเป็นห้องครัว ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจเขาให้ดึงกึ่งผลักไสร่างบางเข้าไปในนั้น จัดการกระแทกประตูปิดลงพร้อมลงล็อกแน่นหนา เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครเข้ามาก้าวก่าย แม้ที่นี่จะไม่ใช่บ้านของเขาก็ตาม
“อาแวนจะทำอะไร” น้ำเสียงที่ถามออกมาฟังดูไม่แน่ใจ
“ก็ทำให้เห็นไงว่าสิ่งที่ผู้ชายต้องการจากผู้หญิงมันมีแค่ไม่กี่อย่างหรอก คิดเหรอว่าสิ่งที่พีชได้จากไอ้หมอนั่นคือความรัก หึ...เปล่าเลย มันก็แค่ความใคร่ในแบบผู้ชายเท่านั้นแหละ แล้วความใคร่มันก็เกิดขึ้นได้กับทุกคนด้วย แม้กระทั่งระหว่างอากับหลานที่ไม่มีความเกี่ยวพันกันทางสายเลือดอย่างเรา!” พูดจบชายหนุ่มก็ไม่ได้เว้นช่วงให้อีกฝ่ายได้ซักถามใดๆ อีก เขาสอดมือไปหากรามเล็กละเลยไปยึดต้นต้นคอระหงตรึงไว้แน่น ก่อนจะเบียดริมฝีปากเข้าหาอย่างเร่าร้อน
เรเน่ตกใจแทบสิ้นสติกับการกระทำอันอุกอาจของผู้เป็นอา เรียวปากบางรู้สึกได้ดีถึงความบอบช้ำที่อาจจะเกิดตามมาในภายหลัง แวนบดจูบรุนแรงราวกับคาดหวังให้เธอขาดใจตายไปเสียตรงนี้
ปลายลิ้นอุ่นสอดเข้าไปในโพรงปากนุ่มเพื่อลิ้มชิมความหวานดุจน้ำผึ้ง มือหนาที่บีบรั้งต้นคอเอาไว้ทำให้หญิงสาวหมดหนทางหลีกหนี มือเล็กที่วางทาบอยู่บนอกกว้างจิกดึงเสื้อตัวสวยจนยับย่นอย่างต้องการต่อต้าน
แวนลืมสนใจไปเสียสนิทว่าสิ่งที่ทำอยู่นี้มันเกินขอบเขต ชายหนุ่มรู้สึกถึงความร้อนรุ่มที่กำลังก่อตัวขึ้น การไม่ได้แตะต้องผู้หญิงเป็นเวลานานมันทำให้ปฏิกิริยาทางกายของเขาตอบสนองรวดเร็วมาก ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าจูบที่เต็มไปด้วยความโหยหาของตัวเองกำลังทำให้อีกฝ่ายแทบหมดลมหายใจ
เรเน่ทั้งอึดอัดและสับสนเกินกว่าจะคิดอะไรออก คุณอาหนุ่มตะโบมจูบเธอราวกับว่าชีวิตนี้ไม่เคยได้จูบกับใครมาก่อน มือหนาลูบไล้อยู่ตรงต้นขาขาวเนียนนุ่มนิ่ม ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนเข้าไปใต้กระโปรงของชุดเดรสตัวสวยอย่างใจร้อนเพื่อสัมผัสกับเนินเนื้อสวยงาม
เจ้าของร่างบางสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกรุกรานหนักขึ้น อยากร้องตะโกนให้เขาถอยห่างออกไปเสียที แต่ลำคอนั้นแห้งผากราวกับรอนแรมอยู่กลางทะเลทราย
แม้กระทั่งตอนที่เขาถอนจูบปลดปล่อยเรียวปากให้เป็นอิสระ แล้วโน้มใบหน้าลงกัดกระตุ้นเบาๆ ที่ยอดทรวงภายนอกอาภรณ์ เธอก็ยังลืมไปเสียสนิทว่าควรถือโอกาสนี้ร้องขอให้เขาหยุดทรมานเธอเสียที
แวนหอบหายใจแรงเมื่อไฟราคะลุกโชนขึ้นราวกับต้องน้ำมัน อยากกระชากเสื้อผ้าออกจากร่างเล็กบอบบางของหลานสาวคนสวย แล้วฝากฝังตัวเองลงในกายเธอ พากันขับเคลื่อนอารมณ์พิศวาสไปตามครรลองของธรรมชาติโดยไม่สนใจว่าสิ่งใดผิดถูก แต่มันจะเป็นแบบนั้นไม่ได้ เพราะที่ทำมาทั้งหมดเป็นแค่การสั่งสอนให้เธอเลิกอวดดีกับเขา และได้เข้าใจเสียทีว่าเชนท์ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าเรือนร่างของเธอ เขาไม่ได้มีเจตนาจะล่วงเกินเธอจริงๆ เพราะอย่างไรแวนก็ถือว่าเรเน่คือหลานสาวของเขาเสมอ
ถึงจะบอกตัวเองอย่างนั้นแต่ด้วยอารมณ์ที่เลยเถิด ก็ทำให้คิดอยากตักตวงความสุขจากแม่ตัวเล็กจอมรั้นต่อไปอีกสักหน่อย เอวคอดกิ่วถูกสองมือหนายกตัวลอยละลิ่วให้นั่งลงบนเคาน์เตอร์ครัว ใบหน้างามที่ซีดเผือดอยู่แล้วนั้นยิ่งซัดหนักเข้าไปอีก เพราะเดาไม่ออกว่าเขาต้องการจะทำอย่างไรกับเธอต่อไปกันแน่
“อาแวน...” เพียงแค่คำนี้เท่านั้นที่ได้หลุดลอดออกมาจากริมฝีปาก
แวนไม่ปล่อยให้เวลาที่มีอยู่น้อยนิดให้หมดลงโดยเปล่าประโยชน์ เขาผนึกแนบริมฝีปากเข้าหาอย่างนุ่มนวล ขณะที่มือนั้นรั้งชายกระโปรงเธอให้ร่นขึ้นมากองอยู่ตรงใต้อก หญิงสาวส่งเสียงอู้อี้ประท้วงในลำคอ แต่เขาไม่สนใจ มือหนาลูบไล้ปลีน่องขาวเนียนอย่างเชื่องช้า ก่อนจะเลื่อนไปตามแนวต้นขาด้านในจนถึงปลายทาง นิ้วเรียวยาวบดคลึงจุดสำคัญกลางกายสาวแผ่วเบา แผ่นอกกว้างบดเบียดแนบชิดอยู่กับทรวงนุ่มหยุ่น ความปรารถนาที่แผ่อยู่ทั่วตัวส่งผลให้กายชายเต้นตุบจนปวดร้าว
จูบรุกเร้าและสัมผัสที่เอาเปรียบอย่างร้ายกาจทำให้หญิงสาวเคลิบเคลิ้มได้อย่างไม่น่าเชื่อ ชายหนุ่มเคลื่อนตัวต่ำลงเรื่อยๆ แนบริมฝีปากไปตามหน้าท้องเรียบเนียน ใช้สองมือแยกเรียวขาทั้งสองออกห่างกัน แล้วลดใบหน้าลงเพื่อแตะต้องความบริสุทธิ์จากกลีบกุหลาบกลางกายอย่างอ่อนโยน แม้จะยังมีกางเกงชั้นในขวางกั้น แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกซ่านสยิวลดน้อยลงเลย
เรเน่อ้าปากหอบหายใจแรงด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยได้พบพานมาก่อน แขนเรียวเล็กยันพื้นเคาน์เตอร์ครัวเอาไว้ให้มั่นคงที่สุด ยิ่งลดสายตามองเห็นสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังทำ อารมณ์ของเธอก็กระเจิดกระเจิงจนแทบทนไม่ไหว ริมฝีปากบางเม้มแน่นเพื่อสะกดกลั้นเสียงคราง หัวใจเต้นรัวยิ่งกว่าครั้งใดๆ ปลายเท้าเกร็งสะท้านไปหมดเมื่อความรู้สึกบางอย่างพุ่งวาบเข้ามากลางกาย แต่ก่อนที่จะได้เรียนรู้ถึงปลายทางของความสุขสม เสียงเคาะประตูก็ดังรัวขึ้นเสียก่อน
“อะ...อาแวน!” แม้ความรู้สึดอัดอั้นมากมายจะยังคงค้างคาอยู่ แต่เรเน่ก็รีบใช้โอกาสนี้ดิ้นหนีห่างออกมา แข้งขาที่อ่อนปวกเปียกเกือบทำเอาล้มฟาดบนพื้น แต่ชายหนุ่มวาดแขนไปคว้าเอวเอาไว้ได้ทัน แน่นอนว่าเมื่อตั้งหลักได้เองแล้ว สาวเจ้าก็รีบถอยห่างจากเขาไปทันที
“ทีนี้ก็สิ้นฤทธิ์ได้เสียทีสินะ” คนพูดกระตุกยิ้มสะใจ ทั้งที่ตัวเองนั่นแหละที่กำลังทรมานเจียนตาย
“พีช...” เสียงของเธอสั่นระริกอย่างชัดเจนทีเดียว
“ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว”
แวนตัดบทพร้อมคว้าข้อมือเล็กกลับมายึดไว้แน่นอีกครั้ง เขาเปิดประตูออกมาพบสาวใช้กำลังยืนอยู่ด้วยสีหน้าติดกังวล เห็นชายหนุ่มฉุดกระชากร่างบางให้เดินตามออกมาก็ตั้งท่าจะร้องห้าม
“หลีกไป! นี่มันเป็นเรื่องภายในครอบครัว คนนอกไม่ต้องยุ่ง” ชายหนุ่มตะคอกใส่เสียงดัง แม้เรเน่จะพยายามขืนตัวไว้อย่างไร มันก็ไม่อาจต้านทานพละกำลังมหาศาลของเขาได้เลย
แวนกระชากรถออกมาจากบ้านของสุริษาด้วยความเร็วสูง ทำให้ความคิดที่จะเปิดประตูหนีลงรถของเรเน่ต้องถูกพับเก็บไว้ถาวร
สิ่งแรกที่ผู้เป็นอาต้องทำสำหรับวันนี้ก็คือการหาข้อยืนยันสำหรับคำกล่าวอ้างของเธอ รถคันสวยจึงแล่นมุ่งหน้าตรงไปยังโรงพยาบาลเอกชนที่ตระกูลเลอฟรองด์มาตรวจสุขภาพประจำปีสม่ำเสมอ
“พาพีชมาที่นี่ทำไมคะ พีชไม่ได้ป่วยนะ!” เรเน่แหวใส่เสียจนคนข้างตัวปวดหู
“เงียบ! อาจะพามาทำไมเดี๋ยวก็รู้เอง” แวนดุใส่จนเธอสะดุ้ง
“อาแวน!”
“ไม่ต้องเรียกให้บ่อยนักหรอก หนวกหูชะมัด” แล้วเขาก็เปิดประตูลงจากรถ พยักหน้าบอกให้บุรุษพยาบาลเปิดประตูอีกด้านเพื่อประคองหญิงสาวลงมา
แน่นอนว่าแม่คนดื้อเกาะสายเข็มขัดนิรภัยไว้แน่น ร้อนถึงคุณอาที่ต้องเดินอ้อมไปแล้วฉุดกระชากเธอให้ลงจากรถอย่างป่าเถื่อน พร้อมหันไปยิ้มให้บุรุษพยาบาลที่ยืนทำหน้าเหวออยู่ “คนไข้เธออารมณ์แปรปรวนน่ะครับ ดื้อมากจนต้องบังคับกันนิดหน่อย คนท้องก็แบบนี้แหละ”
“อาแวน!” ได้ยินคำนี้ก็รู้ทันทีว่าทำไมเขาถึงต้องพาเธอมาที่โรงพยาบาล
“ในเมื่อรู้แล้วว่าทำไมต้องมาที่นี่ก็อย่าดื้ออีก ทำเรื่องฝากครรภ์ให้มันเรียบร้อยไปเลย”
“พีชไม่ได้บอกว่าพีชท้องนี่คะ พีชแค่...แค่คิดว่าอาจจะท้องเท่านั้นเอง!”
“ก็นั่นแหละ อาถึงพามาตรวจให้มันรู้แน่ไปเลย” ชายหนุ่มยิ้มเย็นชา เดินเข้ามาจับไหล่บางแน่นแล้วก้มหน้าลงกระซิบให้ได้ยินกันสองคน “ห้ามคิดหนีไปไหนเด็ดขาดนะ เพราะถ้าพีชไม่ยอมตรวจ แล้วทำตัวเจ้าเล่ห์หนีออกจากโรงพยาบาลไปตอนนี้ อาจะเอาตำรวจไปลากคอไอ้เชนท์ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว หรือบางทีอาจจะขอให้เพื่อนของอาที่คนอื่นพากันเรียกว่ามาเฟีย ไปจัดการมันให้น่วมแล้วอุ้มไปทิ้งในที่ไกลๆ เอาให้พีชไม่ได้เจอกับมันอีกเลย” คำขู่ที่แสนจริงจังนี้ทำเอาเรเน่ตาเบิกโพลง อยากกรีดร้องและข่วนหน้าหล่อกวนประสาทของอาหนุ่มเสียให้เลือดซิบ โทษฐานที่กำลังจะทำให้แผนของเธอล่มไม่เป็นท่า
“พีชเกลียดอาแวน” เธอเค้นเสียงลอดผ่านไรฟัน
“ระวังไว้เถอะ เกลียดสิ่งไหนก็มักจะได้สิ่งนั้นแหละ” ชายหนุ่มเลิกคิ้วยั่วให้คนตัวเล็กอารมณ์เสีย ก่อนจะจูงมือเธอเดินเข้าไปข้างใน จัดการแจ้งความต้องการกับเจ้าหน้าที่แล้วนั่งรอเรียกชื่อตามลำดับ ระหว่างนั้นหญิงสาวแทบกระดิกตัวไม่ได้เลย เพราะมีดวงตาสีฟ้ากระจ่างคอยมองจับผิดอยู่ตลอดเวลา กระทั่งถึงเวลาเรียกชื่อเข้าไปในห้องตรวจ เขาก็ยังตามเข้าไปด้วย
เรเน่ใจเต้นแรงมากในขณะที่นั่งรอผลการตรวจปัสสาวะ ความจริงที่เธอโกหกเพื่อให้ได้แต่งงานกับเชนท์แล้วหนีไปให้พ้นจากแวน กำลังจะถูกเปิดเผย แต่ก็ใช่ว่าเธอจะยอมแพ้ให้กับความตั้งใจของตัวเอง แม้เชนท์จะทำให้ผิดหวังในเรื่องที่เขาแต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว แต่เขาก็ยืนยันว่ากำลังจะหย่าขาดจากภรรยาเก่าในเร็ววันนี้ แล้วเธอก็ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องเลิกรากัน
เชนท์บอกว่าเขาไม่ได้รักและเต็มใจแต่งงานมาตั้งแต่แรก ที่จำเป็นต้องทำเพราะถูกฝ่ายหญิงข่มขู่ ฉะนั้นจึงพอทำใจอภัยให้เขาได้บ้าง อีกอย่างหากให้มาเริ่มต้นใหม่กับใครตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว เธอต้องการแต่งงานโดยเร็วที่สุด ไม่สนใจด้วยซ้ำว่ามันจะเป็นการตัดสินใจที่เร็วเกินไปหรือไม่ เพราะสิ่งเดียวที่เธอต้องการคือไปให้ไกลจากคนใจร้ายอย่างแวน คนที่เธอเฝ้ารักมาตลอดเวลา ตรงกันข้ามกับเขาที่พยายามผลักไสเธออยู่ตลอดเวลา คิดแล้วก็เจ็บปวดใจจนแทบไม่อยากมองหน้าเลยทีเดียว
ในที่สุดผลการตรวจก็สรุปได้ว่าเรเน่ไม่ได้ตั้งครรภ์ ร่างกายปกติสมบูรณ์ดีทุกอย่าง แวนโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก เพราะถ้าความจริงออกมาแบบนี้ เขาก็คงไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่โนอาห์กับอุษาขอร้องให้ทำอีกแล้ว ชายหนุ่มขอบคุณคุณหมออีกครั้ง ก่อนจะดึงมือหลานสาวตัวดีให้เดินตามออกมา ไม่ได้พูดอะไรกันเลยสักคำจนกระทั่งขึ้นไปนั่งบนรถเรียบร้อย
“ทำไมถึงโกหก” แวนถามเสียงเครียด แม้จะสบายใจบ้างแล้วในบางส่วน
“ไม่ได้โกหกค่ะ วันนี้ตรวจไม่ท้อง อีกไม่นานอาจจะตรวจเจอก็ได้ เพราะเมื่อคืนพีชกับพี่เชนท์ก็เพิ่งจะ...” ประโยคอาจหาญที่กำลังจะหลุดออกจากปากทำให้ชายหนุ่มหน้าชาไปหมด เขาหันมาจ้องด้วยสายตาน่ากลัว จนหญิงสาวต้องหยุดในสิ่งที่ต้องการจะพูดเอาไว้เพียงแค่นั้น
“ใจง่าย...” อาหนุ่มพึมพำด้วยความผิดหวัง
