บท
ตั้งค่า

บทที่ 13

“นี่เป็นของแม่”

เขาบอก ดวงตาดูโศกเศร้าเมื่อนึกถึงผู้หญิงที่รักหมดหัวใจ

“อะไรคะ” นัทชาถามอย่างสนใจ

“แหวนแต่งงาน”

เขามองสบตากับลูกสาว ก่อนจะเปิดกล่องออกเพื่อให้แหวนเพชรน้ำงามปรากฏต่อสายตา “พรุ่งนี้ตอนเข้าพิธีแต่งงาน เอกพลได้เตรียมแหวนไว้ให้ลูกแล้ว แต่แหวนวงนี้มีความหมายกับพ่อและแม่มาก เพราะฉะนั้นพ่ออยากให้ลูกเก็บมันเอาไว้ แม่เองก็คงเห็นด้วยกับพ่อ” ท้ายประโยคน้ำเสียงที่เปล่งออกมาเต็มไปด้วยความโหยหา

“พ่อคะ...” นัทชาขยับไปใกล้ อยากบอกความรู้สึกในใจให้บิดารู้ว่าเธอไม่ได้อยากแต่งงานกับเอกพล

แต่ทบทวนดูอีกทีก็คิดว่ามันคงไม่เกิดประโยชน์ แม้การคิดถึงแม่จะทำให้พ่อดูอ่อนลงมาก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะมีสิ่งใดมาเปลี่ยนความตั้งใจของพ่อได้

“ว่ายังไง ทำไมถึงไม่พูดต่อละลูก”

“เอ่อ เปล่าค่ะ น่านแค่จะบอกว่า...น่านจะดูแลรักษาแหวนวงนี้ให้ดีที่สุด แล้วน่านก็จะสวมมันติดตัวตลอดเวลาเพื่อระลึกถึงพ่อกับแม่”

คิดแล้วก็ใจหายขึ้นมาเหมือนกัน เมื่อรู้ว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เธอก็ต้องระเห็จออกไปจากบ้านหลังนี้แล้ว ซึ่งคงไม่ได้พบกับบิดาอีก อย่างน้อยก็จนกว่าท่านจะล้มเลิกความคิดจับเธอคลุมถุงชนกับผู้ชายแย่ๆ อย่างเอกพล

“พรุ่งนี้เราคงไม่มีเวลาได้พูดคุยกันมากนัก เพราะลูกต้องยุ่งอยู่กับการเป็นเจ้าสาว แต่รู้เอาไว้นะน่าน ที่พ่อทำทุกอย่างเป็นเพราะพ่ออยากให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุด เอกพลจะทำให้ลูกมีความสุขได้แน่นอน เชื่อพ่อนะ”

ภานุเดชรั้งร่างเล็กของลูกสาวเข้ามากอด ยกมือใหญ่อบอุ่นขึ้นลูบศีรษะเธอเบาๆ นัทชากอดบิดาตอบอย่างแนบแน่น นานมากเหลือเกินที่สองพ่อลูกไม่เคยได้แสดงความอ่อนโยนต่อกัน สัมผัสของผู้เป็นพ่อทำให้น้ำตาคลอรื้นจนขอบตาร้อนผ่าวไปหมด

เมื่อภานุเดชกดจูบลงกลางศีรษะ หญิงสาวก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป เธอปล่อยตัวเองร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดนั้น หลับตาลงซึมซับทุกอย่างให้ลึกลงในก้นบึ้งของหัวใจ ก่อนที่จะต้องหันหลังจากไปด้วยความจำเป็น

เย็นนี้นัทชาไม่ได้ลงมารับประทานมื้อเย็นจริงๆ ภานุเดชจึงร่วมโต๊ะกับกานดาเพียงลำพัง เพราะเอกพลออกไปปาร์ตี้ฉลองสละโสดกับบรรดาเพื่อนสนิท เมื่อมื้ออาหารจบสิ้นลง เขาก็แยกขึ้นมาข้างบน ส่วนกานดายังอยู่ที่ห้องโถงเพื่อดูรายการโทรทัศน์ที่ตัวเองชื่นชอบ

ประมุขของบ้านรู้สึกใจแกว่งขึ้นมาอย่างประหลาด จึงยังไม่ยอมเข้าห้องนอนของตัวเอง แต่เปลี่ยนทิศทางเดินไปยังห้องของลูกสาวแทน เขายกมือขึ้นตั้งท่าจะเคาะประตู แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ ลดมือลงแตะที่ลูกบิดแล้วหมุนเบาๆ พบว่ามันไม่ได้ล็อกเอาไว้จึงแง้มประตูออกดู พบนัทชากำลังนำชุดเจ้าสาวและเครื่องประดับต่างๆ มาวางเรียงรายอยู่บนเตียง สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มงดงาม ดวงตากลมโตดุจตากวางทอประกายความพอใจ ยามที่จ้องมองสิ่งเหล่านั้น

ภาพที่ได้เห็นทำให้ภานุเดชส่ายหน้ายิ้มๆ เขาคงคิดมากเกินไปแล้วจริงๆ ว่าแม่สาวน้อยของเขาอาจกำลังวางแผนร้ายบางอย่าง เพื่อหวังจะหลบหนีงานวิวาห์ แต่เมื่อเห็นอย่างนี้ก็เบาใจได้มากโข เพราะเธอเองก็ดูมีความสุขดี

ภานุเดชดึงประตูห้องปิดลงอย่างเบามือที่สุดและจากไปอย่างเงียบกริบ ทันใดนั้นท่าทีของนัทชาก็แปรเปลี่ยนไป เธอหันไปมองตรงประตูแล้วถอนหายใจ เมื่อสักครู่กำลังชะโงกหน้าออกไปสำรวจข้างนอกห้อง แต่เห็นบิดาเดินขึ้นมาแล้วยืนลังเลอยู่หน้าห้องตัวเอง ไม่ยอมเข้าไปข้างในเสียที แล้วจู่ๆ ก็หมุนตัวเดินมาทางห้องของเธอ แค่นั้นก็พอเดาได้แล้วว่าเขาต้องการจับพิรุธ เธอจึงรีบคว้าชุดแต่งงานที่แขวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้ามาวางบนเตียง พร้อมด้วยกล่องเครื่องประดับ แสร้งทำเป็นยิ้มหวานเลื่อนลอย

“น่านขอโทษนะคะพ่อ น่านจำเป็นต้องทำแบบนี้จริงๆ”

นัทชาพึมพำกับตัวเอง ขณะเดินไปล็อกประตูห้องให้แน่นหนา คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายในบ้านแสนคำภา ความคิดนั้นทำให้เธอห่อเหี่ยว บ่าไหล่หนักอึ้งด้วยความรู้สึกผิด ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงตรงขอบเตียงและก้มหน้าลงมองพื้น

ตอนที่บิดาอยู่ในห้องอาหาร นัทชาได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อนคนหนึ่งซึ่งอยู่ที่ภูเก็ต ก่อนนี้ได้นัดหมายกันไว้แล้วว่าเธอจะเดินทางไปหาในวันพรุ่งนี้ ตั๋วเครื่องบินเพื่อนก็จองไว้ให้ล่วงหน้าถึงสองวันแล้ว แต่จู่ๆ กลับต้องมาเปลี่ยนแผนอย่างกะทันหัน นั่นทำให้เธอต้องเดือดร้อนหาตั๋วใหม่ โชคร้ายมากที่ตั๋วเครื่องบินไปภูเก็ตเต็มหมดแล้วในคืนนี้ เพื่อนสาวของเธอจึงบอกให้ไปรอที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นจุดที่พี่ชายทำงานอยู่ และจะให้พี่ชายช่วยขับรถมาส่งให้จนถึงภูเก็ตในคืนนี้เลย

การนั่งรถยนต์อาจจะไม่รวดเร็วเหมือนนั่งเครื่องบิน แต่ก็ดีกว่าแกร่วอยู่แถวนั้นจนเสี่ยงต่อการถูกจับได้ ภานุเดชเป็นนายตำรวจใหญ่และมีเส้นสายกว้างขวาง เชื่อว่าประสานงานเพียงไม่นานก็อาจจะตามตัวนัทชาจนพบ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel