ตำนานเทพยุทธ์

257.0K · ยังไม่จบ
ลายน้ำหมึก
123
บท
398.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

(ข้าจะแก้แค้นพวกเจ้าทุกตัวคน) ด้วยฐานะที่คอยตอกย้ำตัวตนของชายหนุ่ม หลังจากได้สติกลับคืนมา เด็กหนุ่มวัย 18 ปี ท่ามกลางภาระหน้าที่ และความใสซื่อในตัวตนของเขา ชายผู้รับสืบทอดตำแหน่งศิษย์เอกฝ่ายในผู้เก่งกาจที่สุดในรอบร้อยปีของนิกายเสวียนอู่ที่กำลังตกต่ำนี้ด้วยฐานะศิษย์ผู้มีพรสวรรค์ ซื่อสัตย์ อดทน ชายหนุ่มนาม เป่าฮู่ เรื่องก็มีอยู่ว่า ในวันเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ความคิด ภาพหารกระทำอันเลวร้ายเป็นวันสุดท้ายของนิกายที่เคยยิ่งใหญ่แห่งแดนเหนือเด็กหนุ่มเป่าฮู่ถูกเรียกตัวเข้าไปพบกับผู้อาวุโสสูงสุดของนิกาย เพื่อรับหน้าที่สุดท้าย อีกทั้งยังเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุดที่เคยมีมา เพื่อให้นำของสิ่งหนึ่งหนีออกจากนิกายให้เร็วที่สุดเพื่อนำไปทำลายหรือซ่อนให้ไกลที่สุด การมุ่งหน้าสู่ทะเลดำนอกเมืองเสวียนอู่ มีเพียงเป้าหมายเดียวของเด็กหนุ่ม คือการนำของสิ่งนั้นไปทิ้งในมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ ตามคำสั่งของเจ้านิกายในตอนนั้นเป่าฮู่ผู้นำพากล่องไม้เก่าๆใบหนึ่ง มุ่งหน้าไปยังทะเลดำใต้ท่ามกลางการตามล่าของผู้ไม่หวังดี ศิษย์ทรยศจากนิกาย การถูกตามล่า จากเหล่าศิษย์สำนักน้อยใหญ่มากมายของพรรคชาวยุทธ์ในแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงในความชอบธรรมด้วยข่าวลือของนิกายเสวียนอู่ ผู้ครอบครองหนึ่งในสี่ลมปราณเทพที่ทรงพลังในตำนาน น้อยคนจะรู้ได้ถึงเรื่องลับนี้ ในตอนนั้นนิกายที่ครอบครองหนึ่งในตำราลมปราณเทพที่ยิ่งใหญ่และทรงอำนาจตำราลมปราณเทพเต่าดำ ชื่อก็บอกอยู่แล้วถึงอำนาจของการป้องกันประหนึ่งสัตว์เทพแห่งทิศเหนือตนนี้ แต่นิกายที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เทพเต่าดำกำลังตกที่นั่งลำบากด้วยไร้วาสนาพานพบศิษย์ที่มากพรสวรรค์มาตลอดเวลากว่า 100 ปี เข้ามาเป็นศิษย์หลักรับสืบทอดลมปราณเทพที่ล้ำค่านี้ หากจะมีก็เพียงศิษย์ที่มีพรสวรรค์เป็นศิษย์สายใน มิใช่สายหลักตามกฏของนิกาย เช่นเป่าฮู่ ดังนั้นจึงทำให้ชื่อเสียงของนิกายค่อยๆเลือนหายลงไปจนเหล่าพรรคสำนักในแดนศักดิ์ของภาคกลางมองเห็นโอกาสนั้นดังนั้นด้วยแรงปรารถนานี้ จึงทำให้ผู้คนเหล่านั้นเข้ามาจัดการนิกายเสวียนอู่ในยามอ่อนแอ อีกทั้งกำลังพบเจอมรสุมครั้งใหญ่ ส่วนตัวเจ้านิกายเสวียนอู่เองก็ได้มองเห็นสภาพของนิกายของตนเอง จึงสั่งยุบนิกายลงในทันทีหลังจากมอบหน้าที่สุดท้ายให้แก่ ศิษย์ที่เก่งที่สุดในจำนวนศิษย์ชั้นในกว่า 200 คน ด้วยอายุเพียง18 ปี ก็สามารถฝึกฝนตนเองจนระดับที่น่าตกใจเป่าฮู่ผู้เป็นเด็กดีมีความสามารถ ได้ถูกมอบงานสำคัญให้ไปทำ แต่ข่าวที่รั่วไหลจึงทำให้เด็กหนุ่มถูกตามล่าด้วยความลำบาก และหายสาบสูญไป พร้อมกับกล่องไหม้ที่ด้านในมีของที่สำคัญที่สุดของนิกายทั้งหมดซ่อนไว้อยู่ชีวิตของเด็กหนุ่มที่ถูกตามล่าได้เลือนหายไปตามกาลเวลา โดยไร้ผู้พบเห็นและรับรู้ถึงเหตุการณ์นั้น จนล่วงเลยมากว่า 100ปี ในยุคสมัยของผู้ฝึกวิชายุทธ์รุ่งเรืองจนถึงขีดสุด ผู้ที่เป็นผู้นำยุทธภพแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ ประกาศให้รู้ทั่วกันว่าจะไม่มอบตำแหน่งนี้ทางสายเลือด แต่จะหาผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในยุทธภพมาดำรงตำแหน่งแทน ด้วยเพราะตัวของจ้าวยุทธภพคนล่าสุดถึงวัยชรามากแล้ว และในวันที่ท้องฟ้าแสนสดใส ท่ามกลางความหนาวเย็นในแดนเหนือ มีกลุ่มศิษย์สำนักเล็กๆแห่งหนึ่งดินแดนเสวียนอู่ ดินแดนที่อยู่ติดกับทะเลดำมากที่สุดในเขตหนาว ได้พบเจอถ้ำลับใต้ภูเขาน้ำแข็งด้วยเหตุการณ์นั้นทำให้ศิษย์เพียงคนเดียวของนิกาย เสวียนอู่ที่ว่ากันว่าหายสาบสูญ และถูกแช่แข็งมานานกว่า 100ปี ได้ฟื้นคืนมามีชีวิตอีกครั้งอีกครั้ง หนทางแห่งการชำระแค้นจึงได้มาถึงชายหนุ่มผู้มาพร้อมสุดยอดเคล็ดลมปราณในตำนานจะสามารถพิชิตใต้หล้าได้หรือไม่ (ติดตามกันนะ)

นิยายแฟนตาซี

บทที่ 1

“ข้าจะกลับไปแก้แค้นพวกเจ้าทุกคน”

ชายหนุ่มที่มีวัย เพียง 18 ปี เขาเป็นศิษย์ที่มีความขยัน อดทนมากที่สุด จากจำนวนศิษย์ในสำนัก มากกว่า2000 คน นามของเขาก็คือ เป่าฮู่

ชายผู้เกิดมาพร้อมชะตาที่อาภัพ

บิดามารดาทั้งสองตกตายไปอย่างอนาถทิ้งชายหนุ่มหาเลี้ยงตนเองเพียงลำพังตลอดระยะเวลาหลายปีภัยพิบัติคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย

ดังนั้นบิดามารดาจึงได้ล้มตายจากไปอย่างน่าเวทนา

แต่เป่าฮู่ก็ไม่อับจนโชคชะตาซะทีเดียว สวรรค์มิได้รังแกเขามากนัก

เด็กชายวัยเยาว์จึงถูกชุบเลี้ยงโดยอาวุโสระดับสูงของนิกายนักยุทธ์นาม เสวียนอู่อันเป็นนิกายอันดับหนึ่งแห่งแดนเหนือ

การพบเจอด้วยความบังเอิญ จึงได้รับตัวเข้ามาเป็นศิษย์ชุบเลี้ยงอย่างเอ็นดูรักใคร่ดั่งบุตรในตระกูล

ความรักความเอ็นดูจะให้มากเกินไปก็ดูจะไม่ดีต่อตัวเด็กน้อยเป่าฮู่เอง

ดังนั้นอาจารย์จึงปล่อยให้เขาใช้ชีวิตด้วยตนเองเริ่มเรียนรู้ฝึกฝนตั้งแต่ระดับศิษย์ภายนอกของนิกายก่อน

อีกทั้งยังปล่อยให้เขาใช้ความสามารถของตัวเขาเอง ผลักดันตัวเองให้ขึ้นมาจนถึงระดับที่ทุกคนในนิกายยอมรับได้

ด้วยความเพียรพยายาม ความอดทน อดกลั้นทำให้เด็กหนุ่มเป่าฮู่ ที่สู้ฝึกฝนทุ่มเทแรงกายแรงใจ

ด้วยมานะบากบั่นได้นำพาตนเองมาจนถึงตำแหน่งศิษย์ระดับต้นๆ ผู้เป็นศิษย์อันดับหนึ่งของฝ่ายใน

ด้วยความเพียรพยายามเหล่านั้น แต่นั่นก็เป็นวันที่แสนภาคภูมิใจที่แสนสั้นของเด็กหนุ่มเพียงชั่วขณะหนึ่ง

เมื่อพรรคใหญ่ทั้ง 2 ของแดนศักดิ์สิทธิ์ นำพาเหล่ายอดฝีมือบุกแดนเหนือ ตามคำสั่งของจ้าวแห่งหอคอยยอดยุทธ์ ด้วยสภาพนิกายเสวียนอู่ที่กำลังเสื่อมถอย

เพื่อช่วงชิงตำราลมปราณเทพในตำนานอันทรงพลัง ตำราลมปราณที่เป็นหนึ่งใน 4 ลมปราณที่ยิ่งใหญ่

เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่พรรคสำนักของตน ความโลภเหล่านี้จึงกลับกลายเป็นวาระสุดท้ายของนิกายเสวียนอู่ไปด้วย

เจ้านิกายนาม หลู่กวนผู้นำนิกายเสวียนอู่ด้วยความไม่เอาไหน ไร้พรสวรรค์ จึงทำให้ระดับการบ่มเพาะต่ำต้อยนัก

เพียงหวังให้ทายาทรุ่นต่อๆไปอยู่รอด จึงออกคำสั่งให้ปิดนิกาย และให้ศิษย์ทั้งหลายสลายตัวกลับไปภูมิลำเนาเดิม

จากปัญหามากมายหลายด้านและเป็นการเตรียมสนามรบ ต้อนรับการมาเยือนของ ผู้นำแดนศักดิ์

ชายที่ต่อมาอีก 100 ปี ได้กลายเป็นผู้นำยุทธภพคนแรกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในตอนนั้น หลังจากที่ชายหนุ่มนามรับหน้าที่คุ้มกันกล่องไม้ใบเล็กๆให้หนีออกมาจากนิกายด้วยความเร่งรีบ

กลับพบเจอศิษย์นิกายผู้ชั่วช้าทั้งทรยศเหล่าพี่น้องของตน นำพาเหล่าชาวยุทธ์ใต้การนำของแดนศักดิ์สิทธิ์เข้าโจมตีชายหนุ่มเพื่อสมบัติลับ

จนวาระสุดท้ายของชายหนุ่ม ด้วยการนำพาตนเองมาถึงแม่น้ำสายใหญ่ที่เชี่ยวกราดแก่งหินที่สูงและแหลมคม กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราด

จากภูเขาสูงในเขตนอกเมืองเสวียนอู่ทางเหนือ ไหลลงสู่ทะเลดำที่กว้างใหญ่และมากด้วยอันตรายนานาชนิด

ชายหนุ่มตัดสินใจกระโดดลงสู่ห้วงเหวลึก ด้านล่างที่เป็นสายน้ำสุดแสนอันตราย ความเชี่ยวกราดของน้ำที่ซัดสาด ทำให้เกิดแรงกระแทกจนโขดหินต่างๆถูกขัดเกลาจนแหลมคม

แต่เพื่อทำลายกล่องไม้สีดำไปกับตนเองด้วยในคราเดียวกันจำเป็นต้องทิ้งมันลงไปในแม่น้ำสายนี้

แต่ด้วยสิ่งที่เด็กหนุ่มได้ยึดมั่นมาแต่อดีตคือกฏระเบียบของนิกาย

ตัวเด็กหนุ่มไม่มีทางรู้ได้และมิอาจฝืนกฎบังคับของนิกายได้เขาไม่อาจเปิดดูสมบัติลับได้และแล้วโชคชะตาก็เล่นตลก

หลังจากกระโดดลงไปที่เหวลึก กล่องไม้สีดำก็หลุดออกจากมือของเขา ก่อนจะกระแทกเข้ากับโขดหินจนแตกกระจายเพียงเวลาชั่วอึดใจ สิ่งของที่อยู่ในกล่องไม้มาตลอด ได้เผยตัวตนออกมา สิ่งที่ถูกบรรจุอยู่ด้านในกลับเป็นม้วนตำราเล่มหนึ่ง พร้อมก้อนผลึกสีขาวแวววาวราวกับน้ำตาของเทพเจ้า อีกก้อนหนึ่ง ก้อนผลึกที่งดงามนั้นจะแผ่ไอเย็นออกมารอบๆตัวของมันเองอย่างรุนแรง

หลังจากที่กล่องไม้นั้นแตกตัวออกจากลักษณะเดิมที่เคยเป็น

ด้วยแรงกระแทกกับโขดหินสูง เป่าฮู่ เห็นดังนั้นจึงรู้ว่าก้อนสีขาวที่กำลังตกน้ำไปนั้นคือ ผลึกเยือกแข็งหรืออีกชื่อหนึ่งก็คือหัวใจเหมันต์

ยอดสมบัติในตำนานของนิกายเสวียนอู่ที่อาจารย์เคยเล่าให้ฟังเสมอมา

ดังตำนานกล่าวไว้ว่า หัวใจเหมันต์กลั่นมาจากน้ำตาของสัตว์เทพเต่าดำที่ยิ่งใหญ่ และอานุภาพของมันก็ยากจะหยั่งถึง

หากก้อนผลึกแตกออกระยะที่กว้างกว่า 3 ถึง 5 ลี้จะเป็นทุ่งน้ำแข็งไปนานกว่า 1000 ปีนับจากนี้

แต่ของแบบนั้นทวยเทพมิน่าจะมอบลงมายังโลกมนุษย์ช่างเป็นอะไรที่ไม่สมเหตุสมผลยิ่งนัก

เทพเต่าดำผู้ครอบครองพลังแห่งสายน้ำที่หนาวเหน็บได้กลั่นหัวใจเหมันต์ออกมา ตามบัญชาจอมเทพที่ยิ่งใหญ่และส่งมอบแก่เหล่ามนุษย์ผู้อยู่ในดินแดนทางเหนือ ดินแดนใต้การชี้นำของเทพเต่าดำในอดีต

เพื่อให้เหล่ามนุษย์กลุ่มนั้นได้ใช้ฝึกตนเอง อีกทั้งดูดซับพลังหยิน หนาวเหน็บจนสามารถพัฒนาตนเองต่อไป

............................................................................................

ด้วยไหวพริบที่มีมากมายของชายหนุ่ม ความคิดจะกำจัดศิษย์ทรยศของสำนักที่ติดตามเป่าฮู่มาในระยะ 3 ลี้

เหตุนั้นจึงตามมาด้วยการกระทำที่บ้าบิ่นเช่นนั้น

ก่อนที่หัวใจเหมันต์ร่วงหล่นลงสู่แม่น้ำที่เชี่ยวกราด เป่าฮู่เคลื่อนตัวด้วยพลังลมปราณทั้งหมดที่ชายหนุ่มมี หวังคว้ายอดสมบัติเข้ามาที่ตัว

ด้วยปรารถนาสุดท้ายที่จะได้ชื่นชมก่อนตาย

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็นการออกแรงบีบหัวใจเหมันต์จนแตกออก โดยไม่ทันรู้ตัวถึงความเปราะบางของผลึกก้อนนั้นและเหตุการณ์ต่อมาก็นับเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่เคยมีมา

ก้อนผลึกแตกกระจายในอากาศอยู่นั้นกลับพุ่งเข้าไปในร่างของชายหนุ่ม เพราะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดาของจิตวิญญาณในร่างๆนั้นจนไอเย็นมหาศาลเริ่มแช่แข็งทุกสิ่งตามสายน้ำที่นำพาร่างของชายหนุ่มลอยไปตามสายน้ำ

เมื่อร่างกายของชายหนุ่มดูดซับพลังที่เป็นหัวใจของความเย็นทั้งปวง จนเกิดแก่นแท้น้ำแข็งขึ้นในหัวใจ

แต่ด้วยร่างกายที่ไม่อาจควบคุมพลังอันมหาศาล พลังที่เอ่อล้นออกมาจากผลึกเยือกแข็งนั้น

ไอเย็นที่แผ่กระจายออกมาขณะที่ร่างของชายหนุ่มได้ไหลไปตามลำน้ำ

โดยในมืออีกข้างยังถือม้วนตำราที่ทำขึ้นมาอย่างดีที่สุดด้วยความระมัดระวัง ภาพปรากฏการณ์สายน้ำกลายเป็นธารน้ำแข็งอย่างช้าๆได้เกิดขึ้นแล้ว

ไอเย็นที่ไม่อาจควบคุมได้แผ่กระจายออกมาจากร่างชายหนุ่มจนเส้นผมหรือเส้นขนทั่วร่างผิวหนังถูกแช่นแข็งโดยฉับพลันและพื้นที่โดยรอบที่ร่างชายหนุ่มไหลผ่านเริ่มเกิดเป็นน้ำแข็งทั่วบริเวณในที่สุดร่างของเด็กหนุ่มเป่าฮู่ก็ถูกสายน้ำพัดเข้าไปติดที่ถ้ำแห่งหนึ่ง

เพียงเวลาไม่นานไอเย็นแผ่กระจายออกมาปกคลุม พื้นที่จนกลายเป็นถ้ำน้ำแข็งและแม่น้ำสายนั้นก็เริ่มแข็งตัวกลายเป็นทุ่งน้ำแข็งตามๆกันไประยะของไอเย็นที่แผ่ออกมากลับมากกว่า 5 ลี้

เมื่อเวลาไหลผ่าน ชายหนุ่มผู้ถูกแช่แข็งมานาน ตามกาลเวลาด้วยพลังของ หัวใจเหมันต์ จึงทำให้ชายหนุ่มเป่าฮู่กลายเป็นมนุษย์แช่แข็งและมีแก่นแท้ของน้ำแข็งกำเนิดในหัวใจของชายหนุ่มทำให้ชายหนุ่มอยู่ในสภาวะถูกผนึก

โดยขณะที่ร่างกายถูกแช่แข็งไว้ในถ้ำที่หนาวเหน็บและเป็นศูนย์รวมแห่งไอเย็นจากน้ำแข็งที่น่าอัศจรรย์นั้น

100 ปีผ่านไป

สถานที่แห่งนั้นกลับกลายเป็นจุดที่กำเนิดสำนักยุทธ์ที่มุ่งเน้นการฝึกฝนวิชาธาตุหยิน

จากถ้ำน้ำแข็งแห่งนั้นเสมอมา สำนักเจ้าเมืองของตระกูลหม่าในเมือง อันมีนามว่าซื่อหม่าที่มีระดับชั้นยศที่ยิ่งใหญ่ อันเป็นที่เชิดชูตระกูล ด้วยการมอบชนชั้นของเมืองแห่งนี้จากจักรพรรดิแห่งแดนศักดิ์ (ซื่อ ที่แปลว่าเมือง นั่นเอง)

ณ ถ้ำลับของสำนัก

“ศิษย์น้องในถ้ำนี้ ท่านบรรพชนกล่าวไว้ว่าจะเข้าไปลึกกว่านี้ไม่ได้ เพราะด้านในไอเย็นรุนแรงอยู่มาเป็น100 ปี อาจทำให้พิษเย็นที่หนาแน่นด้านในทำร้ายเจ้าจนต้องบาดเจ็บลงได้หรืออาจนำมาซึ่งความตาย”

เสียงจากศิษย์กลุ่มหนึ่งของสำนักเจ้าเมืองย้ำเตือนเหมือนเป็นคำเตือนแห่งความหวังดีห่วงใย

แต่ใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มนั้น เบื้องลึกกลับซ่อนมีดที่แหลมคนเอาไว้ด้วยตำแหน่งศิษย์เอกจะมีได้เพียงหนึ่งเดียว วันนี้เด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายนี้กำลังจะถูกกำจัดลงในถ้ำอันมืดมิดนี้ไปตลอดกาล

เพียงกลุ่มศิษย์ภายในกลุ่มนั้นจากไปว่าที่ศิษย์เอกอายุน้อยนางนั้น ก็ได้ถูกเหล่าศิษย์พี่ของนางหักหลัง

ด้วยการรมควันยาสลบในเตาไฟด้านนอก โดยสายลมที่พัดเข้ามาทำให้นางหมดสติไป

ก่อนที่ศิษย์ผู้พี่เหล่านั้นจะนำตัวนางไปทิ้งที่ส่วนลึกด้านในของถ้ำ อันเป็นเขตแดนที่หนาวที่สุด

ก่อนที่นางจะถูกโยนทิ้งไปลูกคุณหนูผู้ดีเหล่านั้นก็จับนางกรอกโอสถพิษปราณหยางพิษที่มีฤทธิ์ร้อนร้ายแรงแฝงอยู่

การทำให้พิษร้อนในกายของนางกัดกินแก่นแท้แห่งชีวิตของนางไปอย่างช้าๆคือผลจากยอดโอสถที่มีราคาสูงจากแดนใต้

เมื่อแผนการเหล่านั้นดำเนินไป พร้อมกับการป้ายร้ายให้ความผิด ให้แก่ศิษย์แซ่เหมยนางนั้น

ด้วยโทษทัณฑ์ที่ไม่อาจให้อภัยในเวลาต่อมาหลังจากเจ้าสำนักรู้เรื่องการขโมยตำราลับของสำนักออกไปด้วยนั้นคือความผิดร้ายแรง

เพียงเจ้าสำนักเข้ามาที่ห้องฝึกยุทธ์ของศิษย์น้อยของตน ก็พบแต่เพียงความว่างเปล่า การหายตัวไปพร้อมเสื้อผ้าอาภรณ์พร้อมทั้งตำราหยินเก้าโคจร

ส่วนแรกที่ได้มาในอดีตข่าวของว่าที่ศิษย์เอกผู้เก่งกล้าอีกทั้งยังมากล้นด้วยพรสวรรค์ แอบขโมยสุดยอดวิชาลับของสำนักไป สิ่งนั้นทำให้นางถูกคาดโทษไว้อย่างสูงสุดหากนางหวนกลับมาที่สำนัก

แต่ขณะเดียวกัน 10 วันผ่านไปในถ้ำเล็กด้านในสุดนั้น ศิษย์นางนั้นตื่นขึ้นมาด้วยผลของโอสถพิษร้อนที่กัดกินร่างกายของนางอย่างทุกข์ทรมาน

หนทางเดียวที่จะทำให้นางรอดตายนั่นก็คือ ขับเอาพลังหยางที่มีในร่างกายออกมา ผู้ฝึกพลังหยินหากพบเจอธาตุปรปักษ์ในร่างหากไม่ขับออกมาให้หมดนั่นหมายถึงชีวิตที่กำลังมอดม้วย สิ่งที่หญิงสาวใช้เวลาต่อสู้มากว่า 10 วันพร้อมความทรมานแสนสาหัสจนในลมหายใจสุดท้าย ความเพียรพยายามกลับสูญเปล่า

อ๊ากกกกกก!

อ๊ากกกกกก !

เสียงแห่งความทรมานใต้ถ้ำที่มืดมิดและหนาวเหน็บกลับมีสตรีนางหนึ่งกำลังทรมานจากฤทธิ์ธาตุไฟเข้าแทรกพิษร้อนทรมานร่างกายของนางภาพความทรมารนั้นทำให้นางเจ็บปวดมากว่า 10 วัน

จนท้ายที่สุดนางไม่อาจฝืนทนได้อีกด้วยพิษร้อนเหล่านั้นกัดกินร่างกายจากภายใน จนตันเถียนของนางถูกพิษร้อนเผาไหม้พิษร้ายชนิดนี้คือหนึ่งในยอดพิษของแดนใต้แดนแห่งเปลวเพลิง

ความร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างกายของนางทำให้แผ่นน้ำแข็งที่ปกคลุม ร่างอันลึกลับของคนแปลกหน้าคนหนึ่งละลายออกมา

พร้อมกับการสิ้นสุดลงของฤทธิ์จากหัวใจเหมันต์ในร่างของ เป่าฮู่เวลากว่า 100 ปีพลังเย็นในหัวใจเหมันต์กระจายออกไปจนอ่อนพลังลง

ไอร้อนจากพิษร้อนในกายเด็กสาวที่ใช้แผ่นหลังที่บอบบางของนางกับแผ่นน้ำแข็งเบื้องหน้าที่มีร่างของเป่าฮู่อยู่นั้นนานกว่า 10 วัน พร้อมปลดปล่อยไอร้อนจนทำให้น้ำแข็งที่เกราะคลุมเริ่มละลาย

ด้วยลมหายใจเฮือกสุดท้ายของนางที่มี นางเลือกกัดนิ้วตัวเองเขียนจดหมายเลือดระบายความเศร้าโศกลงบนเศษผ้าของนาง เพื่อหวังให้ผู้มาพบเห็นแจ้งข่าวของนางและความเจ็บปวดที่นางได้รับออกมาในครั้งนี้

นางใช้เวลาคิดทบทวนขณะที่ขับพิษร้อนจนเข้าใจ ว่าศิษย์พี่ทั้ง 3 ที่มาขอพบหลังจากที่นางเก็บตัวฝึก อีกทั้งยังนำน้ำชาชั้นดีมามอบแก่นางบังคับให้นางดื่มก่อนที่นางจะหมดสติไปนั้นคือแผนชั่ว

แต่ยาสลบที่นางได้รับไม่ได้มาจากน้ำชาหากแต่เป็นอากาศที่พัดเข้าไปของสมุนไพรชนิดหนึ่งที่ออกฤทธิ์ร่วมกันกับน้ำชาจนนางสลบไปนั่นต่างหาก

(ข้าแด่ทวยเทพอันศักดิ์สิทธิ์

ข้าเหม่ยฮวา ศิษย์สำนักเจ้าเมือง ขอความเป็นธรรมข้าถูก คนแซ่ ลู่ และคนแซ่หนิว ทำร้ายจนตกมาในสภาพเช่นนี้หากชาติหน้ามีจริงข้าจะกลับมาแก้แค้น)

ด้วยลมหายใจเฮือกสุดท้ายที่หมดไปพร้อมแผ่นน้ำแข็งที่เกราะคลุมร่างของชายหนุ่มปริแตกออกจากการล้มตัวลงไปของสตรีนางนั้น

แคร๊ก!

แคร๊ก!

เพียงเวลาไม่นานต่อจากนั้น แผ่นน้ำแข็งที่เกราะคลุมร่างของชายหนุ่มมากว่า 100 ปี ร่างกายที่ได้รับการปลดปล่อยจากพลังของหัวใจเหมันต์ ก็เริ่มรู้สึกตัวหลังจากนั้นอีก 2 ชั่วยาม